ทริสเรทติ้งยังไม่พบผลกระทบที่จะมีต่ออันดับเครดิตของ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ในทันทีหลังจากเกิดเหตุทรุดตัวของเขื่อนในพื้นที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเซเปียน-เซน้ำน้อย ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2561 บริษัทผลิตไฟฟ้าราชบรีโฮลดิ้งรายงานว่าหนึ่งในเขื่อนดินย่อยกั้นช่องเขา (Saddle Dam) ของโครงการเกิดการทรุดตัวจนส่งผลทำให้สันเขื่อนแตกร้าวและน้ำรั่วไหลเข้าท่วมหมู่บ้าน 7 แห่งที่อยู่ในพื้นที่ท้ายน้ำ
บริษัทถือหุ้น 25% ในโครงการเซเปียน-เซน้ำน้อยซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาด 410 เมกะวัตต์ใน สปป.ลาว โครงการนี้มีมูลค่าการลงทุนอยู่ที่ประมาณ 1,020 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และใช้เงินกู้แบบเงินกู้โครงการ (Project Finance) โดยบริษัทจะต้องลงทุนในส่วนของทุนประมาณ 76 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือประมาณ 2,500 ล้านบาท) เพื่อให้โครงการแล้วเสร็จ ปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้างโดยมีความคืบหน้าประมาณ 90% และคาดว่าจะเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562
ทริสเรทติ้งมองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อฐานะการเงินของบริษัทเพียงเล็กน้อย โดยเงินลงทุนในโครงการดังกล่าวของบริษัทที่จำนวน 2,500 ล้านบาทนั้นคิดเป็น 2.5% ของสินทรัพย์รวมของบริษัท จากประมาณการของทริสเรทติ้ง คาดว่าโครงการนี้จะมีส่วนแบ่งกำไรให้แก่บริษัทประมาณ 200 ล้านบาทต่อปี ซึ่งคิดเป็นประมาณ 2.0% ของประมาณการกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายที่ประมาณ 11,000-13,000 ล้านบาทต่อปี
ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการทรุดตัวของเขื่อนซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการแบบครบวงจร นอกจากนี้ โครงการนี้ยังอยู่ภายใต้การทำประกันภัยมาตรฐานซึ่งประกอบด้วย การประกันความเสี่ยงภัยทุกชนิดของผู้รับเหมา การประกันภัยความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก และการประกันภัยจากการเริ่มดำเนินงานล่าช้าอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการชดเชยความเสียหายให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบ และการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมนั้นยังคงต้องประเมินต่อไป ทริสเรทติ้งจะติดตามความคืบหน้าของการประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์นี้และผลกระทบที่มีต่อสถานะเครดิตของบริษัทอย่างใกล้ชิดต่อไป
ปัจจุบันทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง ที่ระดับ “AAA” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่”