ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงประสบการณ์ที่ยาวนานของบริษัทในธุรกิจน้ำตาล การกระจายความเสี่ยงจากธุรกิจน้ำตาลไปสู่ธุรกิจผลิตไฟฟ้า ตลอดจนความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากการที่บริษัทมีโรงงานผลิตน้ำตาลเพียงแห่งเดียว ราคาน้ำตาลที่เป็นวัฏจักร ประกอบกับความผันผวนของปริมาณผลผลิตอ้อย และการก่อหนี้ที่อยู่ในระดับสูง
ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต
มีผลงานเป็นที่ยอมรับยาวนาน
จุดแข็งของบริษัทเกิดจากประสบการณ์ที่ยาวนานในอุตสาหกรรมน้ำตาล กลุ่มผู้บริหารของบริษัทมีประสบการณ์การทำงานอยู่ในธุรกิจน้ำตาลมายาวนานมากกว่า 50 ปี ลูกค้าหลักของบริษัทคือกลุ่มผู้ประกอบการค้าระหว่างประเทศและผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ กลุ่มผู้ประกอบการค้าระหว่างประเทศเหล่านี้ปกติจะนำน้ำตาลทรายดิบไปแปรรูปเป็นน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ โดยบริษัทกำลังพิจารณาเพิ่มเครื่องจักรเพื่อใช้ในการผลิตน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ ณ โรงงานน้ำตาลปัจจุบันของบริษัท การผลิตน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์จะให้อัตรากำไรสูงกว่าการผลิตน้ำตาลทรายดิบ ดังนั้นบริษัทสามารถจำหน่ายน้ำตาลได้ในราคาสูงขึ้นตามคุณภาพของสินค้าที่เพิ่มขึ้น
กระจายความเสี่ยงไปสู่ธุรกิจผลิตไฟฟ้า
บริษัทมีโรงงานไฟฟ้าชีวมวล 3 แห่งสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้า โดยมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 29.7 เมกะวัตต์ ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีรายได้จากธุรกิจผลิตไฟฟ้าประมาณ 9% ของรายได้รวม รายได้จากธุรกิจไฟฟ้าจะทำให้บริษัทมีรายได้ที่แน่นอนมากขึ้นเพื่อลดทอนความเสี่ยงบางส่วนจากความผันผวนของราคาน้ำตาล
รายได้จากธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 28% เป็น 492 ล้านบาท ในปีการเงิน 2560 และเติบโต 16% เป็น 297 ล้านบาท ในช่วงครึ่งแรกของปีการเงิน 2561 ซึ่งสาเหตุหลักมาจากปริมาณชานอ้อยที่เพียงพอและไม่มีการปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า รายได้จากธุรกิจไฟฟ้าของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 7%-9% ของรายได้รวม ในช่วงปีการเงิน 2558-2560
เป็นผู้ผลิตน้ำตาลขนาดเล็กและมีผลิตภัณฑ์ที่จำกัด
บริษัทมีโรงงานผลิตน้ำตาลเพียงแห่งเดียวในจังหวัดบุรีรัมย์ การมีโรงงานเพียงแห่งเดียวหมายความว่าบริษัทยังคงมีความเสี่ยงอย่างชัดเจนเรื่องจำนวนของสินทรัพย์ที่เป็นสถานประกอบการ อย่างไรก็ตาม บริษัทวางแผนจะสร้างโรงงานน้ำตาลแห่งที่ 2 ซึ่งอยู่ห่างจากโรงงานแห่งแรกประมาณ 60 กิโลเมตร ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างรอผลการอนุมัติประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) การก่อสร้างคาดว่าจะเริ่มหลังจากได้รับการอนุมัติดังกล่าว และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 ปีการผลิต
บริษัทผลิตเฉพาะน้ำตาลที่เป็นสินค้าพื้นฐานเท่านั้น เช่น น้ำตาลทรายสีรำสำหรับขายในประเทศ และน้ำตาลทรายดิบเพื่อส่งออกต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม บริษัทวางแผนจะเริ่มลงทุนสร้างโรงงานน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์แห่งใหม่ในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งมีมูลค่าการลงทุน 400 ล้านบาท เพื่อแปรรูปน้ำตาลทรายดิบเป็นน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ โรงงานน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์แห่งนี้จะเป็นโรงงานน้ำตาลแห่งแรกที่บริษัทวางแผนจะใช้เพิ่มผลผลิตน้ำตาลทรายขาวเพื่อเจาะตลาดใหม่ของบริษัท
ราคาน้ำตาลที่ผันผวน
ในปีการเงิน 2561 และ 2562 คาดว่าการบริโภคน้ำตาลทั่วโลกจะมีแนวโน้มต่ำกว่าผลผลิตน้ำตาลทั่วโลก เนื่องจากผลผลิตน้ำตาลยังคงมากกว่าความต้องการ จึงคาดว่าราคาน้ำตาลจะปรับตัวลดลง ทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่า อัตรากำไรจากการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งวัดจากอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ของบริษัทจะยังคงอยู่ระดับต่ำที่ 11% ในปีการเงิน 2561 อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าอุตสาหกรรมน้ำตาลขาลงจะสิ้นสุดในอีกไม่นาน เพราะราคาน้ำตาลระดับต่ำกดดันทำให้ผู้ผลิตน้ำตาลทั่วโลกลดลง อัตรากำไรจากการดำเนินงานของบริษัทคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ14%-15% ในปีการเงิน 2562-2564 ตามการฟื้นตัวของราคาน้ำตาล
ภาระหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้น
บริษัทมีการระดมเงินทุนผ่านการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้ากลุ่มน้ำตาลบุรีรัมย์ (BRRGIF) มูลค่า 3,605 ล้านบาท ในช่วงเดือนสิงหาคม 2560 โดยบริษัทได้ขายกระแสเงินสดที่จะได้รับจากการขายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวของโรงไฟฟ้า 2 แห่ง รวมทั้งสิ้น 16.0 เมกะวัตต์ ให้แก่กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ฯ
?
บริษัทถือหน่วยลงทุนใน BRRGIF ในสัดส่วนประมาณ 33% อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทปรับตัวสูงขึ้นเป็น 74.7% ในช่วง 6 เดือนแรกของปีการเงิน 2561 เพิ่มขึ้นจาก 64.4% ในช่วงเดียวกันของปีการเงิน 2560 จากความต้องการเงินทุนหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้นและเงินกู้ยืมระยะยาวจากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ทริสเรทติ้งเชื่อว่าอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทจะยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 71% ในช่วงปีการเงิน 2561-2564 ค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนของบริษัทจะอยู่ที่ระดับประมาณ 500 ล้านบาทต่อปีในระหว่างปีการเงิน 2561-2564 โดยจะนำไปลงทุนในโรงงานน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์แห่งใหม่ ผลิตภาชนะบรรจุภัณฑ์จากชานอ้อยที่สามารถย่อยสลายได้ และเพื่อซื้อที่ดินสำหรับสร้างโรงงานน้ำตาลแห่งใหม่
สภาพคล่องที่เพียงพอ
ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า เราคาดหวังว่าสภาพคล่องของบริษัทจะยังคงเพียงพอ ภายใต้สมมติฐานคาดว่ากำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายจะอยู่ที่ระดับ 700-950 ล้านบาทต่อปีในปีการเงิน 2561-2564 ตามการฟื้นตัวของราคาน้ำตาลและผลผลิตน้ำตาลที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สำนักงานกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายจะจ่ายเงินให้แก่บริษัทประมาณ 100 ล้านบาทต่อปี เพื่อเป็นค่าตอบแทนการผลิตและจำหน่าย
ณ สิ้นเดือนเมษายน 2561 บริษัทมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเท่ากับ 161 ล้านบาท และมีวงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ได้เบิกใช้อยู่ 5,401 ล้านบาท บริษัทมีภาระหนี้ที่ครบกำหนดชำระอยู่ที่ 250-350 ล้านบาทต่อปีในปีการเงิน 2561-2564
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถรักษาความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมน้ำตาลในประเทศไทยไว้ได้ เราคาดว่าบริษัทจะดำรงสภาพคล่องหรือมีวงเงินสินเชื่อสำรองที่เพียงพอสำหรับรองรับการชำระหนี้ นอกจากนี้ ระบบแบ่งปันผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมน้ำตาลไทยและรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าจะช่วยลดความผันผวนในวัฏจักรขาลงของธุรกิจผลิตน้ำตาลได้
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
การปรับเพิ่มอันดับเครดิตยังมีจำกัดในระยะสั้นตราบที่ราคาน้ำตาลยังคงอยู่ในระดับต่ำ ในทางตรงกันข้าม การปรับลดอันดับเครดิตสามารถเกิดขึ้นได้ในกรณีที่ความสามารถในการทำกำไรและผลตอบแทนของบริษัทลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ราคาน้ำตาลทรายดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงอย่างมากก็เป็นปัจจัยลบต่ออันดับเครดิต เนื่องจากราคาน้ำตาลที่อยู่ในระดับต่ำจะกดดันทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทอ่อนแอลง การลงทุนที่ใช้เงินกู้จำนวนมากและเงินสดส่วนเกินที่รองรับการชำระหนี้ที่อ่อนแออย่างต่อเนื่องก็เป็นปัจจัยลบต่ออันดับเครดิตของบริษัทด้วยเช่นกัน
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 ? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2561 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html