ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร “บ. เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง” ที่ “BBB+” แนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 10, 2018 17:40 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB+” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนการเติบโตและผลการดำเนินงานที่มั่นคงรวมถึงการสนับสนุนทั้งทางด้านธุรกิจและการเงินจากผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท

ปัจจัยที่เป็นข้อกังวลสำคัญต่ออันดับเครดิต ได้แก่ แรงกดดันต่อความสามารถในการทำกำไร การแข่งขันที่รุนแรง และระดับการพึ่งพาที่เพิ่มสูงขึ้นในสินเชื่อรถบรรทุก นอกจากนี้ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทก็มีความอ่อนไหวเป็นพิเศษต่อภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยด้วย

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

สินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะขยายพอร์ตสินเชื่อรวมได้อย่างมั่นคงด้วยอัตราการเติบโตที่มากกว่า 4% ต่อปีในระยะ 3 ปีข้างหน้า ในช่วงปี 2557-2560 พอร์ตสินเชื่อของบริษัทเติบโตประมาณ 5% ต่อปี ในขณะที่ ณ เดือนมิถุนายน 2561 สินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้นเป็น 34,576 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.5% จากสิ้นปีก่อนหน้า

ทริสเรทติ้งเชื่อว่าสินเชื่อรถยนต์ยังคงเป็นสินเชื่อหลักที่สร้างการเติบโตให้แก่พอร์ตสินเชื่อรวมของบริษัท ตามมาด้วยการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อสำหรับสินค้าคงคลังซึ่งสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าสินเชื่อรถยนต์ ทั้งนี้ ณ เดือนมิถุนายน 2561 ประมาณ 85% ของพอร์ตสินเชื่อรวมของบริษัทเป็นสินเชื่อรถยนต์ สัดส่วนดังกล่าวคงอยู่ในระดับนี้มาตั้งแต่ปี 2553 ในขณะที่สินเชื่อประเภทอื่น ๆ เช่น สินเชื่อสำหรับเครื่องจักรและอุปกรณ์ซึ่งมีสัดส่วน 11% สินเชื่ออื่น ๆ อีก 4% นั้นอยู่ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท กรุงเทพแกรนต์แปซิฟิคลีส จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่บริษัทถือหุ้นทั้งหมด

คุณภาพสินเชื่อดีขึ้น

คุณภาพสินเชื่อของบริษัทปรับดีขึ้นตั้งแต่ปี 2560 โดยอัตราส่วนของสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมลดลงเป็น 3.6% ณ สิ้นปี 2560 และลดลงอย่างต่อเนื่องเป็น 3.2% ณ เดือนมิถุนายน 2561 อันเป็นผลมาจากการตัดหนี้สูญ รวมถึงการมีมาตรฐานในการอนุมัติสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้น และความพยายามในการปรับปรุงกระบวนการจัดเก็บหนี้ให้ดียิ่งขึ้น ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของบริษัทจะอยู่ในระดับต่ำกว่า 4% ในระยะ 3 ปีข้างหน้า

อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ก็ปรับเพิ่มขึ้นแม้ว่าจะน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ประกอบการรายอื่น อัตราส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงที่ระดับ 80.3% ณ เดือนมิถุนายน 2561 จาก 53.2% ณ สิ้นปี 2559

ทริสเรทติ้งคาดหวังว่าอัตราส่วนดังกล่าวจะค่อย ๆ ปรับเพิ่มขึ้นเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานบัญชีใหม่ (IFRS 9) และสามารถเทียบเคียงกับผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ได้ โดยคาดว่าบริษัทจะมีค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองหนี้สูญต่อปีอยู่ในระดับ 1.6% ของสินเชื่อรวมถัวเฉลี่ยจนถึงปี 2563

การสนับสนุนทางด้านการเงินจากผู้ถือหุ้นใหญ่ช่วยลดความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง

ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะรักษาระดับความพอเพียงของวงเงินสำรองเพื่อชำระหนี้ที่ครอบคลุมมูลค่าตราสารหนี้ระยะสั้นที่บริษัทระดมทุนจากตลาดทุน

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีความพยายามในการใช้เงินกู้ระยะสั้นเพื่อควบคุมต้นทุนทางการเงินให้อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งส่งผลทำให้มีความไม่สอดคล้องกันในอายุของสินทรัพย์และหนี้สินของบริษัท ณ เดือนมิถุนายน 2561 เงินกู้ระยะสั้นซึ่งรวมถึงส่วนของเงินกู้ระยะยาวที่ครบกำหนดอายุไม่เกิน 1 ปีชุดปัจจุบันอยู่ในระดับประมาณ 60% ของเงินกู้ยืมรวม อนึ่ง การระดมทุนด้วยตราสารหนี้ระยะสั้นนั้นจะมีความเสี่ยงจากการกู้ยืมใหม่เพื่อชำระหนี้เก่า

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีวงเงินจากธนาคารที่เกี่ยวข้อง คือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และสถาบันการเงินอื่น ๆ ซึ่งสามารถใช้เป็นแหล่งเงินทุนสำรองเพื่อลดความเสี่ยงด้านสภาพคล่องได้

ความแข็งแกร่งของโครงสร้างเงินทุนของบริษัทอยู่ในระดับปานกลาง โดยอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนรักษาระดับอยู่ที่ประมาณ 6 เท่ามาตั้งแต่ปี 2557 สำหรับมาตรฐานบัญชีใหม่ (IFRS 9) ที่จะบังคับใช้ในปี 2563 นั้นอาจส่งผลกระทบต่อส่วนทุนของบริษัทเนื่องจากมีโอกาสที่การตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจะเพิ่มขึ้น

?

มีความท้าทายต่อความสามารถในการทำกำไร

ทริสเรทติ้งประมาณการอัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยของบริษัทจะอยู่ในระดับที่มากกว่า 2.0% ไปจนถึงปี 2563 โดยอยู่บนสมมุติฐานการมีค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองหนี้สูญที่ระดับ 1.4%-1.6% ของสินเชื่อรวมถัวเฉลี่ยและส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยรับและดอกเบี้ยจ่ายที่มากกว่า 4.5% อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยของบริษัทค่อย ๆ ลดลงมาตั้งแต่ปี 2557 ด้วยเหตุปัจจัยหลักที่มาจากค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองหนี้สูญที่เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของบริษัทอยู่ในระดับที่สูงกว่าผู้ประกอบการรายอื่น อย่างไรก็ตาม บริษัทก็มีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำกว่าคู่แข่ง ในขณะที่การปรับเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยและการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดยานพาหนะบางกลุ่มจะสร้างความท้าทายต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัท

การกระจุกตัวในสินเชื่อรถบรรทุก

ณ เดือนมิถุนายน 2561 สินเชื่อรถยนต์สำหรับลูกค้ารายย่อยของบริษัทประกอบไปด้วยสินเชื่อรถบรรทุก 62% ของมูลค่าสินเชื่อรวม รถยนต์นั่งและรถกระบะ 19% รถตู้ 6% รถแท็กซี่ 6% และยานพาหนะประเภทอื่นอีก 7% สินเชื่อสำหรับรถเพื่อการพาณิชย์ เช่น รถบรรทุกขนาดใหญ่ รถตู้ และรถแท๊กซี่ เป็นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าแต่ก็มีความเสี่ยงด้านคุณภาพสินเชื่อที่สูงกว่าเช่นกัน

เพื่อลดทอนความเสี่ยงที่สูงขึ้น บริษัทจึงได้ใช้กลยุทธ์ในการแบ่งกลุ่มย่อยเพื่อเน้นสินเชื่อเฉพาะผลิตภัณฑ์และกลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงต่ำ นอกจากนี้ การกระจายตัวของฐานลูกค้าที่เป็นรายย่อยก็ช่วยลดความเสี่ยงจากการกระจุกตัวในกลุ่มของสินเชื่อรถบรรทุกด้วยเช่นกัน

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” อยู่บนพื้นฐานการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถดำรงสถานะทางการตลาดในตลาดเฉพาะกลุ่มสำหรับยานพาหนะเพื่อการพาณิชย์ต่อไปได้ การมีคณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์และความสามารถ ตลอดจนระบบการบริหารความเสี่ยงและระบบการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้บริษัทสามารถควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะรักษาระดับความสามารถในการกำไรให้เทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับระดับในปัจจุบันเอาไว้ได้ นอกจากนี้ ยังคาดว่าผู้ถือหุ้นรายใหญ่จะยังคงให้การสนับสนุนบริษัทต่อไปด้วยเช่นกัน

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

อันดับเครดิตของบริษัทอาจมีการปรับขึ้นได้หากบริษัทสามารถปรับสถานะทางการตลาดให้ดีขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญในขณะที่ยังสามารถรักษาคุณภาพสินทรัพย์ให้อยู่ในระดับที่มั่นคง พร้อมทั้งมีผลประกอบการทางการเงินที่น่าพอใจ ในทางกลับกัน อันดับเครดิตของบริษัทอาจมีการปรับลดลงหากสถานะทางการตลาดของบริษัทอ่อนแอลง หรือมีการขยายสินเชื่อในเชิงรุกโดยใช้เงินกู้เป็นหลักซึ่งจะบั่นทอนความแข็งแกร่งของโครงสร้างเงินทุน ในขณะที่อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมที่แย่ลงอย่างมากหรือส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยรับและดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงมากกว่าที่คาดไว้จะกดดันความสามารถในการทำกำไรและส่งผลกระทบในทางลบต่ออันดับเครดิตได้ด้วยเช่นกัน

บริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (ASK)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2561 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ