ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้มูลค่ารวม 20,499.90 ล้านบาทของ บริษัท ดีเอดี เอสพีวี จำกัด (เอสพีวี หรือผู้ออกตราสาร) ที่ระดับ “AAA(sf)” โดยอันดับเครดิตสะท้อนความน่าเชื่อถือของกรมธนารักษ์ (ผู้เช่า) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง ที่เป็นผู้เช่าเพียงรายเดียวของศูนย์ราชการของกรุงเทพมหานคร (ศูนย์ราชการ) อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความแน่นอนของกระแสเงินสดที่จะได้รับจากรายได้ค่าเช่าและค่าบริการต่าง ๆ จากกรมธนารักษ์ รวมถึงความเสี่ยงที่ค่อนข้างต่ำในการกู้ยืมเงินเพื่อทดแทนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระ
ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต
ความน่าเชื่อถือของผู้เช่ารายเดียวของศูนย์ราชการ
อันดับเครดิตหุ้นกู้สะท้อนความน่าเชื่อถือของกรมธนารักษ์ซึ่งเป็นผู้เช่ารายเดียวของศูนย์ราชการ โดยกรมธนารักษ์เป็นหน่วยงานของรัฐบาลไทย ดังนั้น ความน่าเชื่อถือของกรมธนารักษ์สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของรัฐบาลไทยด้วยเช่นกัน
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2547 อนุมัติให้กรมธนารักษ์เป็นตัวแทนหน่วยราชการอื่นในการของบประมาณเพื่อใช้ในการเช่าพื้นที่ศูนย์ราชการจาก ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) เป็นระยะเวลา 30 ปี นับตั้งแต่ปี 2551
ความแน่นอนของกระแสเงินสดที่จะได้รับจากรายได้ค่าเช่าและค่าบริการต่าง ๆ จากกรมธนารักษ์
ภายใต้สัญญาเช่าพื้นที่อาคาร กรมธนารักษ์ไม่สามารถยกเลิกสัญญาเช่าพื้นที่ดังกล่าวได้ หากหุ้นกู้ที่ออกภายใต้โครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ หรือหุ้นกู้ใหม่ที่ออกเพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิมยังไม่ได้รับการไถ่ถอนเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์ โดยตลอดอายุสัญญาเช่าแม้ว่า ธพส. จะไม่สามารถดูแลอาคารให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ กรมธนารักษ์ก็ยังคงต้องชำระค่าเช่าและค่าบริการต่าง ๆ ตามที่กำหนดไว้
งบประมาณจำนวน 82,114 ล้านบาทสำหรับค่าเช่าและค่าบริการตลอดอายุสัญญาเช่า 30 ปีได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2549 ถือเป็นงบผูกพันและจะมีการจัดสรรให้กรมธนารักษ์เป็นรายปีตามที่ระบุไว้ในสัญญาโดยไม่ต้องขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีอีก แต่จะต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาทุกปี โดยทั่วไปแล้ว กระบวนการจัดสรรงบประมาณประจำปีจะพิจารณาเสร็จสิ้นภายในเดือนกันยายนของทุกปี อย่างไรก็ตาม หากกระบวนการอนุมัติงบประมาณล่าช้ากว่าปกติ กรมธนารักษ์สามารถเบิกงบประมาณเพื่อนำมาชำระค่าเช่าและค่าบริการโดยอ้างอิงจำนวนเงินจากงบประมาณที่ได้รับในปีก่อนหน้าได้ สำหรับในปีนี้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้พิจารณาเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2562 ไปเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2561 และประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2561 โดยเอสพีวีได้รับชำระเงินจากกรมธนารักษ์เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2561
ความเสี่ยงในการกู้ใหม่ค่อนข้างต่ำ
ในปี 2568 เอสพีวีจะต้องกู้ยืมเงินเพื่อมาทดแทนหุ้นกู้มูลค่าราว 10,700 ล้านบาทที่ครบกำหนดไถ่ถอน โดยกระแสเงินสดรับในส่วนของค่าเช่าและค่าบริการ (ภายหลังจากหักค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย) ในช่วงปี 2568-2580 อยู่ที่ประมาณ 36,000 ล้านบาท น่าจะเพียงพอสำหรับชำระคืนหนี้เงินกู้ใหม่จำนวน 10,700 ล้านบาท โดยหากเงินกู้ใหม่มีการทยอยคืนเงินต้นด้วย กระแสเงินสดดังกล่าวจะเพียงพอที่จะรองรับการกู้ยืมใหม่ที่อัตราดอกเบี้ยสูงถึง 23% ภายใต้สมมติฐานที่เอสพีวีจะรักษากระแสเงินสดในบัญชีเงินสำรองกรณีทั่วไปและบัญชีเงินสำรองเพื่อรักษาสภาพคล่องไว้ตามเดิม ดังนั้น คาดว่าเอสพีวีไม่น่าจะมีปัญหาในการกู้ยืมเงินใหม่เพื่อมาทดแทนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระในปี 2568
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
ภายใต้ธุรกรรมนี้ อันดับเครดิตหุ้นกู้สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือของผู้เช่าคือกรมธนารักษ์ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐบาลที่เช่าพื้นที่ศูนย์ราชการแต่เพียงรายเดียว โดยเงื่อนไขของธุรกรรมดังกล่าวระบุว่า กรมธนารักษ์มีภาระผูกพันที่จะต้องชำระค่าเช่าและค่าบริการเป็นรายปีตามที่กำหนดไว้เป็นระยะเวลา 30 ปีโดยไม่คำนึงถึงสภาพของอาคาร ดังนั้น อันดับเครดิตจะถูกปรับลดลงเฉพาะในกรณีที่กรมธนารักษ์ไม่ปฏิบัติตามสัญญาเช่าที่กรมธนารักษ์ได้ทำไว้กับ ธพส. เท่านั้น ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นกับธุรกรรมนี้
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 ? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2561 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html