ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน “บ. บ้านปู” ที่ “A+” แนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 25, 2018 16:30 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A+” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงความเป็นผู้นำของบริษัทในอุตสาหกรรมถ่านหินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตลอดจนความหลากหลายของฐานลูกค้าและความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ของแหล่งสำรองถ่านหิน รายได้ที่แน่นอนจากธุรกิจไฟฟ้า และการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ของบริษัทในการที่จะเป็นบริษัทพลังงานแบบครบวงจร อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตถูกลดทอนบางส่วนจากลักษณะการเคลื่อนไหวของราคาถ่านหินที่เป็นวัฏจักร ตลอดจนความต้องการใช้ถ่านหินที่ชะลอตัวซึ่งได้รับผลกระทบบางส่วนจากความพยายามที่จะลดมลพิษทางอากาศของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกและความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของนโยบายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจถ่านหินของรัฐบาลจีน

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

ผู้นำในอุตสาหกรรมผลิตถ่านหินในเอเซียแปซิฟิก

บริษัทเป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมผลิตถ่านหินในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก บริษัทเป็นเจ้าของเหมืองถ่านหินในประเทศอินโดนีเซีย ออสเตรเลีย จีน และมองโกเลีย สำหรับการดำเนินงานในปี 2561 นั้นคาดว่าบริษัทจะสามารถจำหน่ายถ่านหินได้ 45 ล้านตัน ในขณะที่ ณ เดือนกันยายน 2561 บริษัทมีปริมาณสำรองถ่านหินทั้งสิ้น 563 ล้านตัน

ปริมาณสำรองถ่านหินของบริษัทที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลมาจากสมมติฐานราคาถ่านหินที่สูงขึ้น โดยบริษัทมีปริมาณสำรองถ่านหินในประเทศอินโดนีเซียและออสเตรเลียเพิ่มขึ้นเป็น 563 ล้านตัน ณ เดือนกันยายน 2561 จาก 519 ล้านตันในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปริมาณสำรองถ่านหินของเหมืองอินโดนีเซียเทียบเท่ากับปริมาณการผลิตนาน 11 ปี ในขณะที่ปริมาณสำรองถ่านหินของเหมืองออสเตรเลียเทียบเท่ากับปริมาณการผลิตมากกว่า 20 ปี ปริมาณสำรองถ่านหินมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นตราบเท่าที่ราคาถ่านหินเพิ่มสูงขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทยังมีฐานลูกค้าที่หลากหลาย จากที่คาดว่าบริษัทจะสามารถจำหน่ายถ่านหินได้ 45 ล้านตันในปี 2561 ซึ่งรวมถึงการจำหน่ายถ่านหินของเหมืองจีนด้วยนั้น ผู้ซื้อประมาณ 22% อยู่ในประเทศจีน ในขณะที่ผู้ซื้อจากออสเตรเลียคิดเป็น 20% และผู้ซื้อจากญี่ปุ่นคิดเป็น 14% ส่วนปริมาณถ่านหินที่เหลือนั้นได้จำหน่ายให้กับลูกค้าในหลายประเทศ ซึ่งรวมถึง เกาหลี ไต้หวัน อินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การผลิตถ่านหินคาดว่าจะเพิ่มขึ้น

การผลิตถ่านหินของบริษัทจากเหมืองอินโดนีเซียและเหมืองออสเตรเลียนั้นมีเป้าหมายที่จะเพิ่มเป็น 40 ล้านตันในปี 2563 จาก 37 ล้านตันในปี 2560 เนื่องจากราคาถ่านหินที่สูงขึ้นช่วยให้บริษัททำเหมืองได้ลึกขึ้น เป็นผลให้ผลิตถ่านหินได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ เหมืองใหม่ที่บริษัทเข้าซื้อในปี 2560 (PT Tepian Indah Sukses -- TIS) ซึ่งมีปริมาณสำรองถ่านหินจำนวน 4.7 ล้านตันนั้นคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ในช่วงปลายปี 2562 ด้วยกำลังการผลิตที่ประมาณ 1 ล้านตันต่อปี นอกจากนี้ ในเดือนสิงหาคม 2561 บริษัทประกาศซื้อหุ้น 100% ของ PT Nusa Perdana Resources (NPR) ด้วยเงินลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยการลงทุนนี้จะเพิ่มปริมาณสำรองให้แก่บริษัทจำนวน 77.4 ล้านตัน บริษัทมีแผนเริ่มดำเนินการผลิตถ่านหินจากเหมืองนี้ในช่วงปลายปี 2565 ด้วยกำลังการผลิตประมาณ 4 ล้านตันต่อปี

ธุรกิจไฟฟ้าช่วยให้กระแสเงินสดของบริษัทมีความแน่นอน

ทริสเรทติ้งมองว่าการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าช่วยให้สถานะทางธุรกิจของบริษัทแข็งแกร่งขึ้น เนื่องจากกระแสเงินสดที่แน่นอนจากธุรกิจไฟฟ้าน่าจะมีส่วนช่วยให้ผลการดำเนินงานโดยรวมของบริษัทได้รับผลกระทบน้อยลงจากราคาถ่านหินที่ผันผวน บริษัทค่อย ๆ ขยายการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าผ่าน บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทลูก ปัจจุบันบริษัทบ้านปู เพาเวอร์ ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าหลายโครงการในประเทศไทย ลาว จีน และญี่ปุ่น โดยมีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการลงทุนทั้งสิ้น 2.14 กิกะวัตต์ ธุรกิจนี้มีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย คิดเป็นประมาณ 19% ของบริษัทโดยรวม และปันผลกลับมาให้บริษัทประมาณ 64 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 บริษัทบ้านปู เพาเวอร์ มีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 2 เท่า คิดเป็น 4.3 กิกะวัตต์ภายในปี 2568 โดยเป้าหมายนี้จะสามารถบรรลุได้จากการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นและเวียดนาม การเริ่มการดำเนินงานโรงไฟฟ้าถ่านหินในประเทศจีน การลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศเวียดนาม และการลงทุนอื่น ๆ

มีเป้าหมายเป็นบริษัทพลังงานแบบครบวงจร

เป้าหมายของบริษัทในการเป็นบริษัทพลังงานแบบครบวงจรนั้นจะทำให้บริษัทสามารถเข้าถึงโอกาสใหม่ ๆ และช่วยทดแทนความต้องการถ่านหินในระยะยาวได้ โดยส่วนหนึ่งนั้นบริษัทได้ซื้อหุ้น 28.86% ของ Sunseap Group Pte. (Sunseap) ในปี 2560 ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการด้านพลังงานแบบครบวงจรในประเทศสิงค์โปร์ซึ่งมีธุรกิจที่ครอบคลุมไปถึงการติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาจนถึงระบบโซลาร์เซลล์แบบลอยน้ำ นอกจากนี้ ในเดือนมีนาคม 2561 บริษัทซื้อหุ้น 44.84% ของ New Resources Technology Pte. Ltd. (NRT) มูลค่าประมาณ 33.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ NRT เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ ผลิต และติดตั้งระบบจัดเก็บพลังงานแบบลิเธียมไอออน สำหรับยานยนต์และระบบสำรองไฟฟ้าต่าง ๆ

สถานะทางการเงินดีขึ้น

ราคาถ่านหินที่สูงขึ้นทำให้สถานะทางการเงินของบริษัทดีขึ้น ราคาจำหน่ายถ่านหินเฉลี่ยของเหมืองอินโดนีเซียของบริษัทเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 85 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตันสำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 ซึ่งเป็นไปตามราคาถ่านหินอ้างอิง อัตรากำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 16.1% ในปี 2559 เป็น 23.1% สำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 ราคาขายถ่านหินเฉลี่ยที่สูงขึ้นรวมกับผลการดำเนินงานจากธุรกิจก๊าซธรรมชาติของบริษัทช่วยให้บริษัทมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นเป็น 696 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 จาก 507 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2560

โครงสร้างเงินทุนของบริษัทอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดย ณ เดือนกันยายน 2561 บริษัทมีหนี้สินทางการเงินที่ปรับปรุงแล้วทั้งสิ้น 3,625 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนที่ 53.38%

ทริสเรทติ้งประมาณการว่าบริษัทจะมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายประมาณ 800- 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ในช่วงปี 2562-2564 โดยประมาณการนี้มาจากสมมติฐานปริมาณจำหน่ายถ่านหินจากเหมืองอินโดนีเซียและออสเตรเลียของบริษัทที่ประมาณ 35-40 ล้านตันต่อปี ในขณะที่ดัชนีราคาถ่านหิน Newcastle คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 90-100 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันในช่วงปี 2562-2564

บริษัทวางแผนงบลงทุนปีละประมาณ 200-300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงปี 2562-2564 เมื่อพิจารณาจากแผนการลงทุนของบริษัท ประมาณการกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายดังกล่าวแล้ว คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนจะอยู่ในระดับต่ำกว่า 55% อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 6-7 เท่า และอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินจะอยู่ในช่วง 15%-20% ในช่วงปี 2562-2564

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทบ้านปูจะยังคงความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมถ่านหินต่อไป โดยเงินปันผลรับจากธุรกิจไฟฟ้าจะช่วยบรรเทาผลกระทบจากความผันผวนของอุตสาหกรรมถ่านหินได้บางส่วน นอกจากนี้ ยังคาดว่าบริษัทจะยังคงรักษาวินัยทางการเงินและบริหารการเงินอย่างระมัดระวังเพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงินที่ดี กอปรกับความยืดหยุ่นทางการเงินจะช่วยให้บริษัทประคองตัวได้ในภาวะที่อุตสาหกรรมถ่านหินมีความผันผวน

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

อันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับขึ้นได้หากบริษัทมีสถานะการเงินที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หรือมีกระแสเงินสดที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ในขณะเดียวกัน อันดับเครดิตอาจปรับลดลงหากราคาถ่านหินลดลงจนทำให้กระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัทอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าความคาดหมายอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ การลงทุนโดยการก่อหนี้จนส่งผลให้โครงสร้างเงินทุนอ่อนแอลงและทำให้กระแสเงินสดส่วนเกินที่รองรับการชำระหนี้ลดลงอย่างต่อเนื่องก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่อาจส่งผลให้อันดับเครดิตถูกปรับลดลง

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงิน, 5 กันยายน 2561
- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 31 ตุลาคม 2550
?
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) (BANPU)
อันดับเครดิตองค์กร: A+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
BANPU195A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,850 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A+
BANPU207A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A+
BANPU207B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A+
BANPU214A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A+
BANPU225A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A+
BANPU234A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A+
BANPU247A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A+
BANPU257A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A+
BANPU264A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 A+
BANPU274A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 10,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2570 A+
BANPU234B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไถ่ถอนปี 2566 A+
BANPU288A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไถ่ถอนปี 2571 A+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2561 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ