ทริสเรทติ้งยืนยันอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ที่ระดับ “BBB+” พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 14,000 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “BBB+” ทั้งนี้ อันดับเครดิตของหุ้นกู้ชุดใหม่ใช้แทนอันดับเครดิตหุ้นกู้เดิมที่ได้รับการจัดอันดับเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2561 เนื่องจากบริษัทมีความประสงค์ที่จะเพิ่มวงเงินรวมของหุ้นกู้เป็น 14,000 ล้านบาท จากเดิม 10,000 ล้านบาท โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปชำระหนี้เงินกู้ยืมที่จะครบกำหนดและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
อันดับเครดิตสะท้อนถึงการที่บริษัทเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจหลักภายใต้การบริหารงานของ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือทรู (TRUE) ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ “BBB+/Stable” จากทริสเรทติ้ง ตลอดจนผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น สถานะในการแข่งขันของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนจำนวนมากในด้านคลื่นความถี่ และโครงข่ายการให้บริการที่ครอบคลุม ตลอดจนการทำการตลาดที่เน้นให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น อย่างไรก็ดี อันดับเครดิตยังมีข้อจำกัดจากภาระหนี้ของบริษัทที่อยู่ในระดับสูง และการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในธุรกิจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่
ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 ตลาดรวมของธุรกิจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ วัดจากรายได้ของบริษัทจากการให้บริการซึ่งไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม (Interconnection Charge -- IC) โต 2.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 1.98 แสนล้านบาท ซึ่งตลาดได้ส่งสัญญาณการเติบโตที่ชะลอตัวลง โดยตลาดเติบโตต่ำกว่า 3% ใน 2 ไตรมาสที่ผ่านมา เทียบกับอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่ 4.5% ต่อไตรมาสตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2559 ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ผู้ให้บริการนำเสนอการให้บริการการใช้งานข้อมูลแบบไม่จำกัด (Unlimited Data Plans) อันเป็นผลมาจากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น
อย่างไรก็ดี บริษัทยังมีผลการดำเนินงานที่ดี ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่มีผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 รายได้จากการให้บริการซึ่งไม่รวมค่า IC เติบโต 9.9% อยู่ที่ 5.5 หมื่นล้านบาท และยังคงเติบโตในอัตราที่สูงกว่าอุตสาหกรรม คิดเป็นสัดส่วน 29% ของส่วนแบ่งทางการตลาดในด้านรายได้ เทียบกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (AIS) ที่มีสัดส่วน 47% และ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (DTAC) ที่มีสัดส่วน 24%
ผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 สอดคล้องกับประมาณการของทริสเรทติ้ง ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้รวม 8.1 หมื่นล้านบาท และมีเงินทุนจากการดำเนินงานอยู่ที่ระดับ 9 พันล้านบาท โดยไม่รวมผลกระทบจากรายการขายสินทรัพย์ให้แก่กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมดิจิทัล (Digital Telecommunications Infrastructure Fund -- DIF) ภาระหนี้ของบริษัทยังคงอยู่ในระดับสูง ณ เดือนกันยายน 2561 บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนที่ปรับปรุงแล้วอยู่ที่ 60.2% ในขณะที่อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ที่ปรับปรุงแล้วอยู่ที่ 8.6 เท่า (ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปีด้วยตัวเลข 12 เดือนย้อนหลัง) และอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินที่ปรับปรุงแล้วอยู่ที่ 6.4% (ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปีด้วยตัวเลข 12 เดือนย้อนหลัง)
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายว่าบริษัทจะยังคงรักษาสถานะผู้นำในตลาดและสามารถสร้างรายได้จากเงินที่ลงทุนไปโดยไม่ทำให้สถานะการเงินของบริษัทอ่อนแอลง อีกทั้งจะยังคงสถานะในการเป็นธุรกิจหลักของกลุ่มทรูต่อไป นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงใดใดที่จะเกิดกับอันดับเครดิตของทรูก็จะส่งผลต่ออันดับเครดิตของบริษัทด้วยเช่นกัน
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
โอกาสในการปรับเพิ่มอันดับเครดิตของบริษัทมีจำกัดในระยะ 12-18 เดือนข้างหน้าเมื่อพิจารณาจากฐานะการเงินของบริษัทในปัจจุบัน ในขณะที่ความเสี่ยงที่บริษัทจะได้รับการปรับลดอันดับเครดิตจะเกิดขึ้นได้หากผลการดำเนินงานของบริษัทอ่อนตัวลงกว่าที่ทริสเรทติ้งคาดการณ์เอาไว้เป็นอย่างมาก
ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับข้อพิพาทด้านกฎหมายต่าง ๆ ที่มีมาในอดีต เช่น ค่าธรรมเนียมเพื่อใช้โครงข่าย (Access Charge) หรือการประเมินภาษีสรรพสามิต และอื่น ๆ ยังคงดำรงอยู่และจะยังไม่มีผลสิ้นสุดในเร็ววันนี้ โอกาสที่จะเห็นผลสิ้นสุดทางกฎหมายของข้อพิพาทที่ออกมาในทางลบในระยะใกล้ก็ยังมีต่ำ โดยที่อันดับเครดิตอาจได้รับแรงกดดันในทางลบหากผลสรุปของคดีมีผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของบริษัท
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงิน, 5 กันยายน 2561
- Group Rating Methodology, 10 กรกฎาคม 2558
- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 31 ตุลาคม 2550
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 ? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2562 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html