ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด ที่ระดับ “A+” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะหนึ่งในผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำตาลระดับโลกของบริษัท ตลอดจนแบรนด์สินค้าซึ่งเป็นที่ยอมรับ กระบวนการผลิตน้ำตาลที่มีประสิทธิภาพ การมีฐานการผลิตที่กระจายตัว และการมีแหล่งรายได้ที่หลากหลาย อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตก็ถูกลดทอนบางส่วนจากวัฏจักรและความผันผวนของราคาน้ำตาลและปริมาณอ้อยด้วยเช่นกัน
ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต
เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมผลิตน้ำตาล
อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะของบริษัทในการเป็นผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชียและเป็น 1 ใน 5 ของกลุ่มผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ของโลก บริษัทมีโรงงานน้ำตาลในประเทศไทย จีน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) และออสเตรเลีย นอกจากนี้ บริษัทยังได้ขยายฐานการผลิตไปยังประเทศอินโดนีเซียผ่านทางบริษัทร่วมทุนอีกด้วย ทริสเรทติ้งเชื่อว่ากำไรของบริษัทมีความผันผวนน้อยกว่าผู้ผลิตน้ำตาลรายอื่น ๆ ในประเทศ ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทมีระบบการผลิตที่มีประสิทธิภาพและมีโรงงานตั้งอยู่ในหลายประเทศ
บริษัทมีผลผลิตน้ำตาลรวมทั้งสิ้น 4.4 ล้านตันในฤดูการผลิต 2560/2561จากปริมาณการผลิตน้ำตาลทั่วโลกที่ระดับ 194.6 ล้านตัน สำหรับในระดับประเทศนั้น บริษัทเป็นผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ที่สุดของประเทศมานาน โดยบริษัทผลิตน้ำตาลได้ 2.7 ล้านตันในฤดูการผลิต 2560/2561 หรือคิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดที่ระดับ 18.5% ของปริมาณน้ำตาลที่ผลิตได้ทั้งประเทศ นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่อันดับที่ 3 ในประเทศจีนโดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 10% และมีปริมาณการผลิตน้ำตาลที่ระดับ 1 ล้านตัน ในขณะเดียวกันบริษัทยังเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ในประเทศออสเตรเลีย โดยมีปริมาณการผลิต 0.6 ล้านตันอีกด้วยเช่นกัน
ราคาน้ำตาลที่ปรับตัวลดลงมากส่งผลให้อัตรากำไรหดตัว
ผลการดำเนินงานของบริษัทอ่อนแอลงในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 ราคาน้ำตาลที่ลดลงเป็นอย่างมากจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณผลผลิตอ้อยทั่วโลกส่งผลให้อัตรากำไรของบริษัทลดลง บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานรวมลดลง 5.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมาอยู่ที่ 74,711 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ของบริษัทลดลงมาอยู่ที่ระดับ 15.7% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 จากระดับ 23.0% ในช่วงเดียวกันของปี 2560 อัตรส่วนกำไรที่ลดลงเนื่องมาจากผลการดำเนินงานของธุรกิจน้ำตาลที่อ่อนตัวลง ในขณะที่ธุรกิจ
เอทานอลและธุรกิจผลิตไฟฟ้ากลับได้ประโยชน์จากปริมาณผลผลิตอ้อยที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงฤดูการผลิต 2560/2561 เนื่องจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่มาจากชานอ้อยลดลง
กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายของบริษัทลดลง 33.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 12,286 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 ในขณะเดียวกัน เงินทุนจากการดำเนินงานก็ลดลง 36.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมาอยู่ที่ 9,248 ล้านบาท
ปริมาณผลผลิตน้ำตาลในฤดูการผลิต 2561/2562 คาดว่าจะลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 185.9 ล้านตันจากระดับ 194.6 ล้านตันในฤดูการผลิตก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม การบริโภคน้ำตาลทั่วโลกจะยังคงมีแนวโน้มที่ต่ำกว่าปริมาณการผลิตน้ำตาล ภาวะอุปทานส่วนเกินดังกล่าวจะยังคงส่งผลให้ราคาน้ำตาลอยู่ในระดับต่ำ
ทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่าอัตรากำไรจากการดำเนินงานของบริษัทในช่วงปี 2561-2562 จะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 15% อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าวัฏจักรขาลงในอุตสาหกรรมน้ำตาลจะค่อย ๆ ฟื้นตัวตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป ราคาน้ำตาลที่ตกต่ำมากจะกดดันทำให้ปริมาณการผลิตอ้อยและน้ำตาลลดลง ดังนั้น ทริสเรทติ้งจึงคาดว่าอัตรากำไรจากการดำเนินงานของบริษัทจะฟื้นตัวมาอยู่ที่ระดับ 18% ในช่วงปี 2563-2564
มีแหล่งรายได้ที่หลากหลาย
นอกเหนือจากธุรกิจน้ำตาลแล้ว บริษัทยังได้ขยายการลงทุนไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอ้อยและน้ำตาล เช่น ธุรกิจผลิตไฟฟ้าและธุรกิจผลิตเอทานอลเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากอ้อยอีกด้วย ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตติดตั้งรวมของโรงไฟฟ้าที่ระดับ 542.8 เมกะวัตต์และมีกำลังการผลิตเอทานอลสูงสุดอยู่ที่ 1.46 ล้านลิตรต่อวัน
รายได้จากธุรกิจพลังงาน (ไฟฟ้าและเอทานอล) ของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็น 13,632 ล้านบาทในปี 2560 และ 11,527 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 จาก 10,520 ล้านบาทในปี 2556 ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นนั้นมาจากการเพิ่มจำนวนโรงไฟฟ้าของบริษัทและการเติบโตของความต้องการใช้เอทานอล
?
รายได้ของบริษัทจากธุรกิจพลังงานจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการเพิ่มจำนวนโรงไฟฟ้าตามแผนงานของบริษัท ปัจจุบันบริษัทมีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าและเอทานอลประมาณ 15% ของรายได้รวม ทั้งนี้ ในปี 2562 โรงไฟฟ้าใหม่ของบริษัทอีกหลายโรงจะเริ่มเดินเครื่อง ซึ่งจะทำให้บริษัทมีปริมาณการจำหน่ายไฟฟ้าที่ทำสัญญากับหน่วยงานราชการหลายแห่งเพิ่มขึ้นอีก 9.5% หรือ 21 เมกะวัตต์จากระดับ 220.8 เมกะวัตต์ ณ สิ้นปี 2561
ภาระหนี้เพิ่มขึ้นและกระแสเงินสดลดลงในช่วงวงจรธุรกิจขาลง
บริษัทมีภาระหนี้เพิ่มขึ้นจากการลงทุนจำนวนมากและอัตรากำไรที่อ่อนแอลงในช่วงวงจรธุรกิจขาลง อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนของบริษัทเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 54.7% ณ เดือนกันยายน 2561 เทียบกับระดับประมาณ 51% ในปี 2559-2560 กระแสเงินสดเพื่อการชำระหนี้ก็ปรับตัวลดลง ในขณะที่อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินรวมอยู่ที่ระดับ 10.7% (ปรับเป็นอัตราส่วนเต็มปีด้วยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 12 เดือน) ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 ลดลงจากระดับ 17%-22% ในปี 2558-2560
ทั้งนี้ ในช่วง 3 ปีข้างหน้า ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะใช้งบลงทุนประมาณ 12,000-15,000 ล้านบาทต่อปี โดยเงินลงทุนส่วนใหญ่จะใช้ในการก่อสร้างโรงงานน้ำตาลแห่งใหม่ในจังหวัดอำนาจเจริญรวมทั้งใช้ลงทุนในโรงไฟฟ้าของบริษัทอีกหลายแห่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ แม้ว่าจะมีการลงทุนขนาดใหญ่ แต่ทริสเรทติ้งก็คาดว่าบริษัทจะสามารถบริหารจัดการให้อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนให้อยู่ที่ระดับประมาณ 50% ได้ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินรวมของบริษัทจะค่อย ๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับประมาณ 16% ในปี 2564 จากระดับ 12% ในปี 2561 ในขณะที่อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายจะอยู่ที่ระดับประมาณ 4%-5% ในปี 2562-2564
สมมติฐานกรณีพื้นฐาน
• ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้ของบริษัทจะลดลง 6% ในปี 2561 และจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 1%-3% ต่อปีในระหว่างปี 2562-2564
• อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทจะคงอยู่ที่ระดับประมาณ 15% ในระหว่างปี 2561-2562 และจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 18% ในระหว่างปี 2563-2564
• ค่าใช้จ่ายส่วนทุนทั้งหมดของบริษัทจะอยู่ที่ระดับประมาณ 12,000-15,000 ล้านบาทต่อปีในระหว่างปี 2562-2564
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงดำรงสถานะผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำตาลทั้งในประเทศไทยและในประเทศจีนได้ต่อไป โดยคาดว่าบริษัทจะยังคงรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันเอาไว้ได้แม้จะมีการเปิดเสรีอุตสาหกรรมน้ำตาลในประเทศไทยก็ตาม
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
อันดับเครดิตหรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทมีโอกาสปรับลดลงหากผลการดำเนินงานหรือสถานะทางการตลาดของบริษัทอ่อนแอกว่าที่ทริสเรทติ้ง คาดหมายไว้จนส่งผลให้กระแสเงินสดเพื่อการชำระหนี้ของบริษัทลดลงอย่างต่อเนื่อง การลงทุนขนาดใหญ่ที่จะทำให้อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนของบริษัทอ่อนแอลงก็จะเป็นปัจจัยที่มีผลในเชิงลบต่ออันดับเครดิตด้วยเช่นกัน ในทางตรงกันข้าม การปรับเพิ่มอันดับเครดิตอาจเกิดขึ้นได้หากสถานะทางการเงินของบริษัทมีความแข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมากอย่างต่อเนื่อง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 ? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2562 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html