ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้มีการค้ำประกัน “บ. โกลว์ พลังงาน” ที่ “AA-” และเปลี่ยนแนวโน้ม เป็น “Stable” จาก “Developing”

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 25, 2019 14:00 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันของบริษัทที่ระดับ “AA-” ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งได้เปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทเป็น “Stable” หรือ “คงที่” จาก “Developing” หรือ “ยังไม่ชัดเจน” โดยการเปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงมุมมองของทริสเรทติ้งว่า สถานะเครดิตของบริษัทนั้นไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญหลังจากที่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ได้กลายมาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท

อันดับเครดิตที่ระดับ “AA-” ยังคงสะท้อนถึงกระแสเงินสดที่มั่นคงของบริษัทจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว (Power Purchase Agreement -- PPA) และประวัติการดำเนินงานที่เชื่อถือได้ รวมไปถึงแนวโน้มสถานะทางการเงินของบริษัทที่คาดว่าจะยังคงแข็งแกร่งอยู่เช่นเดิม

ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทโกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทในปัจจุบัน ดังนั้น อันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ของบริษัทจึงสัมพันธ์กับสถานะเครดิตของบริษัทโกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตแบบกลุ่ม (Group Rating Methodology) ของทริสเรทติ้ง

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

สถานะทางเครดิตหลังการซื้อกิจการยังไม่เปลี่ยนแปลง

ทริสเรทติ้งมองว่าการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทโกลว์ พลังงาน จาก ENGIE มาเป็นบริษัทโกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่นั้น ไม่มีผลกระทบอย่างมีสาระสำคัญต่อการดำเนินงานของบริษัทโกลว์ พลังงาน ทั้งนี้ บริษัทโกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่เป็นบริษัทที่มีความสำคัญในธุรกิจผลิตไฟฟ้าของกลุ่ม ปตท. หลังจากการรวมธุรกิจกับบริษัทโกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่แล้วนั้น กำลังการผลิตของบริษัทก็มีสัดส่วนคิดเป็นประมาณ 60% ของกำลังการผลิตรวมของบริษัทโกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ ในขณะที่กระแสเงินสดจากบริษัทก็คิดเป็นประมาณ 70% ของกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ของบริษัทโกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ ทั้งนี้ ประสบการณ์ที่ยาวนานและความเชี่ยวชาญในการดำเนินงานโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมและโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ของบริษัทจะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการดำเนินงานของบริษัทโกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ รวมถึงช่วยในการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต

กระแสเงินสดยังคงแข็งแกร่ง

ทริสเรทติ้งคาดว่าความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงของบริษัทจะยังคงดำเนินต่อไปจากการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจำนวนมากกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และลูกค้าอุตสาหกรรมหลายราย ณ วันที่ 31 มิถุนายน 2562 บริษัทมีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวม 2,771 เมกะวัตต์ โดยสัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่มีกับ กฟผ. คิดเป็น 70% ของกำลังการผลิต และกำลังการผลิตส่วนที่เหลือนั้นบริษัทก็มีการทำสัญญากับลูกค้าอุตสาหกรรมหลายรายอีกด้วย

รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ กฟผ. มีความแน่นอนเนื่องจากเงื่อนไขในสัญญาซื้อขายไฟฟ้านั้นได้กำหนดปริมาณการรับซื้อขั้นต่ำเอาไว้และยังมีกลไกการส่งผ่านต้นทุนค่าเชื้อเพลิง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในด้านอุปสงค์และความเสี่ยงในด้านราคาเชื้อเพลิงลงได้ อายุของสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. นั้นมีระยะเวลาที่ยาวนานตั้งแต่ 5 ถึง 18 ปี นอกจากนี้ สัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับลูกค้าอุตสาหกรรมก็ยังเป็นแหล่งรายได้ที่มั่นคง เนื่องจากลูกค้าของบริษัทเป็นผู้ผลิตปิโตรเคมีรายใหญ่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดซึ่งมีความต้องการไฟฟ้าจำนวนมาก

ทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่ากำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญาที่บริษัททำไว้กับ กฟผ. จะลดลงประมาณ 300 เมกะวัตต์ในระหว่างปี 2565-2568 ทริสเรทติ้งเชื่อว่าสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจำนวน 7 ฉบับภายใต้โครงการผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (Small Power Producer -- SPP) ที่กำลังจะหมดอายุนั้นจะได้รับการต่ออายุออกไป แต่ทั้งนี้ กำลังการผลิตตามสัญญาใหม่นั้นจะลดลงเหลือ 30 เมกะวัตต์ต่อสัญญา จากเดิมที่ 60-90 เมกะวัตต์ต่อสัญญา ความเสี่ยงที่สัญญาจะไม่ได้รับการต่ออายุลดลงหลังจากเมื่อเดือนมกราคม 2562 คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติยืนยันโครงการทดแทนสัญญาการซื้อขายไฟฟ้า SPP ดังกล่าวด้วยรายละเอียดที่ชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม

ประสิทธิภาพการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง

บริษัทมีประวัติผลการดำเนินงานที่ดีเยี่ยมมายาวนาน โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ปัจจัยชี้วัดต่าง ๆ ของโรงไฟฟ้าแสดงให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่เชื่อถือได้ อาทิ ค่าความพร้อมของโรงงานที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงอัตราค่าความร้อนของโรงงานและต้นทุนการผลิตที่อยู่ภายใต้การควบคุมเป็นอย่างดี นอกจากนี้ บริษัทยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารจัดการโครงการต่าง ๆ จากความสำเร็จในการพัฒนาโครงการ SPP และโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ (Independent Power Producer -- IPP) ในอดีตที่ผ่านอีกด้วย ทริสเรทติ้งจึงเชื่อว่าผลงานในการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าที่ดีเหล่านี้จะยังคงดำรงอยู่ต่อไปและจะเป็นปัจจัยที่ช่วยทำให้รายได้และผลกำไรของบริษัทมีเสถียรภาพในระยะยาว

เผชิญความเสี่ยงด้านราคาเชื้อเพลิง

บริษัทมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับความเสี่ยงด้านราคาเชื้อเพลิงบางส่วนจากการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับลูกค้าอุตสาหกรรม ความเสี่ยงนั้นเกิดจากความเป็นไปได้ที่การเปลี่ยนแปลงของค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) และต้นทุนเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าจะไม่สอดคล้องกัน ทั้งนี้ การปรับค่าไฟฟ้าผันแปรนั้นมีความล่าช้า อีกทั้งเวลาและขนาดของการปรับก็จะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของหน่วยงานที่รับผิดชอบ การเคลื่อนไหวที่แตกต่างกันระหว่างค่าไฟฟ้าผันแปรและต้นทุนเชื้อเพลิงส่งผลทำให้ EBITDA ของบริษัทมีความผันผวนได้ อย่างไรก็ตาม ผลกระทบดังกล่าวมีจำกัดเนื่องจากรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรมนั้นคิดเป็นสัดส่วนเพียง 25%-30% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัท

EBITDA ยังคงแข็งแกร่ง

ทริสเรทติ้งคาดว่า EBITDA ของบริษัทน่าจะอยู่ระหว่าง 1.45-1.55 หมื่นล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2562-2564 โดยคาดว่าความต้องการไฟฟ้าจากลูกค้าผู้ผลิตปิโตรเคมีจะยังคงแข็งแกร่งแม้จะอยู่ในช่วงสภาวะตลาดที่อ่อนแอก็ตาม นอกจากนี้ EBITDA ของบริษัทก็มีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นด้วยจากผลประโยชน์ที่จะได้หลังจากการรวมเครือข่ายโรงไฟฟ้าของบริษัทและของบริษัท

โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่เข้าด้วยกัน ในการนี้ ปริมาณการจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรมของบริษัทนั้นก็อาจเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทโกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ มีแผนจะโยกย้ายลูกค้าอุตสาหกรรมบางส่วนมาให้แก่บริษัทเนื่องจากโรงไฟฟ้าของบริษัทมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า

สถานะด้านการเงินยังคงแข็งแกร่ง

ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA ของบริษัทจะอยู่ระหว่าง 1.5-2.5 เท่าในช่วงปี 2562-2564 เนื่องมาจากเงินลงทุนที่คาดว่าจะมีจำนวนไม่มากนัก เงินลงทุนส่วนใหญ่ของบริษัทนั้นจะใช้ไปในการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้า SPP ระยะแรกที่จะใช้ทดแทนโรงไฟฟ้าเก่าที่กำลังจะหมดอายุ โดยงบการลงทุนของโครงการดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 6 พันล้านบาทในระหว่างปี 2563-2565 ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งเชื่อว่าศักยภาพในการเติบโตในระยะยาวของบริษัทน่าจะมีจำกัดเนื่องจากโครงการโรงไฟฟ้าแห่งใหม่น่าจะถูกนำไปพัฒนาที่บริษัทโกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่แทน ทริสเรทติ้งคาดว่าเงินสดส่วนเกินของบริษัทจะถูกจ่ายเป็นเงินปันผลเพื่อสนับสนุนแผนการลดภาระหนี้ของบริษัทโกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

• EBITDA โดยเฉลี่ยของบริษัทจะอยู่ที่ประมาณ 1.45-1.55 หมื่นล้านบาทในช่วงปี 2562-2564

• อัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin) จะอยู่ระหว่าง 30%-32% ในช่วงปี 2562-2564

• ความต้องการเงินทุนจะอยู่ที่ประมาณ 2.5-3.5 พันล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2562-2564

• อัตราการจ่ายเงินปันผลที่ระดับ 90% ในช่วงปี 2563-2564

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งและแน่นอนได้ในอนาคตอันใกล้ ทริสเรทติ้งยังคาดหวังอีกด้วยว่าบริษัทจะสามารถรักษาผลการดำเนินงานที่ดีและดำรงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้ ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งไม่คาดหวังว่าบริษัทจะมีการลงทุนใหม่ที่มีขนาดใหญ่ในช่วงอีก 2-3 ปีข้างหน้านี้

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

การปรับเพิ่มอันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจเกิดขึ้นได้หากสถานะเครดิตของบริษัทโกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากอันดับของบริษัทสัมพันธ์กับสถานะเครดิตของบริษัทโกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับลดลงได้หากบริษัทมีหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA เพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่าเป็นระยะเวลานาน หรือในกรณีที่ทริสเรทติ้งมองว่าสถานะเครดิตของบริษัท

โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ ถดถอยลง

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562

- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงิน, 5 กันยายน 2561

- Group Rating Methodology, 10 กรกฎาคม 2558

บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) (GLOW)
อันดับเครดิตองค์กร: AA-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
GLOW19OA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,400 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 AA-
GLOW218A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 5,555 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 AA-
GLOW259A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 AA-
GLOW265A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 AA-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2562 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ