ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน “บ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น” ที่ “A-” และเปลี่ยนแนวโน้ม เป็น “Negative” จาก “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 27, 2019 18:00 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A-” พร้อมทั้งเปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทเป็น “Negative” หรือ “ลบ” จาก “Stable” หรือ “คงที่”

แนวโน้มอันดับเครดิตสะท้อนถึงภาระหนี้ของบริษัทที่คาดว่าจะยังอยู่ในระดับที่สูงในช่วง 2 ปีข้างหน้า ส่วนอันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงสถานะในการแข่งขันที่แข็งแกร่งของบริษัทและผลงานในธุรกิจพัฒนาคลังสินค้าตามความต้องการของลูกค้า (Built-to-suit Warehouses) และธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมนอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงฐานรายได้ประจำจำนวนมากที่บริษัทได้รับจากธุรกิจสินทรัพย์ให้เช่า ธุรกิจให้บริการสาธารณูปโภค และเงินปันผลจากการลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้า ตลอดจนความยืดหยุ่นทางการเงินจากการขายสินทรัพย์เข้าทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT หรือทรัสต์ฯ) อีกด้วย อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตของบริษัทก็ถูกลดทอนลงจากความผันผวนของธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

ภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้น

บริษัทมีภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้นจากการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องรวมทั้งผลการดำเนินงานที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้

จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวได้ส่งผลกระทบต่อการชะลอการลงทุนและความต้องการที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมและพื้นที่เช่าของบริษัทในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แม้ว่ารายได้และกำไรของบริษัทจะลดลง แต่บริษัทก็ยังคงมีแผนการลงทุนจำนวนมาก ส่งผลให้หนี้สินทางการเงินที่ปรับปรุงแล้วของบริษัทเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3.40 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2562 จาก 3.23 หมื่นล้านบาทในปี 2560 อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น มาอยู่ที่ระดับประมาณ 8 เท่าในปี 2561 และในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 จากระดับ 5.6 เท่าในปี 2559

โดยทริสเรทติ้งคาดว่าภาระหนี้ของบริษัทจะยังคงอยู่ในระดับที่สูงเนื่องจากการขยายธุรกิจ โดยมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่หลายโครงการ ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาทในปี 2562-2565 โดยเงินลงทุนส่วนใหญ่จะใช้ไปในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมและคลังสินค้าให้เช่า นอกจากนี้ บริษัทยังมีการลงทุนในธุรกิจสาธารณูปโภคในประเทศเวียดนามอีกด้วย อย่างไรก็ตามบริษัทคาดว่าจะชำระคืนหนี้บางส่วนด้วยเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนจากการใช้สิทธิ์ตามใบสำคัญแสดงสิทธิ์ในปี 2563

ภายใต้สมมติฐานพื้นฐานของทริสเรทติ้งคาดว่ากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายของบริษัทจะอยู่ที่ระดับ 4.7-5.4 พันล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2562-2565 จากระดับกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ตลอดจนภาระการชำระคืนหนี้ และเงินลงทุนข้างต้นดังกล่าวทำให้ทริสเรทติ้ง คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินสุทธิต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่ปรับปรุงแล้วของบริษัทจะอยู่ที่ระดับ 7-8 เท่าในช่วงระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า และอัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายจะอยู่ที่ระดับ 3-4 เท่าในช่วงเวลาเดียวกัน ทั้งนี้บริษัทได้รับรู้ผลการดำเนินงานของธุรกิจโรงไฟฟ้าในรูปของส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม

ผู้นำในธุรกิจคลังสินค้าที่สร้างตามความต้องการของลูกค้าและธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม

บริษัทมีสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งจากการเป็นผู้นำในธุรกิจพัฒนาคลังสินค้าที่สร้างตามความต้องการของลูกค้าและธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม บริษัทเป็นผู้นำในธุรกิจพัฒนาคลังสินค้าในประเทศไทยด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานกว่าทศวรรษ ความสามารถในการแข่งขันของบริษัทมาจากการพัฒนาคลังสินค้าที่มีคุณภาพสูงโดยมีฐานลูกค้าที่เป็นบริษัทข้ามชาติที่มีชื่อเสียงตลอดจนบริษัทขนาดใหญ่ในประเทศ

ภายหลังจากการซื้อกิจการของ บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (เดิมชื่อ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) ในปี 2558 ส่งผลให้บริษัทเป็นผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดโดยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 38% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ส่วนผู้นำในลำดับรองลงมาคือ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) (28%) และ บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) (20%)

พื้นที่ให้เช่าของบริษัทเพิ่มมากยิ่งขึ้นภายหลังจากการซื้อกิจการของบริษัทดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2562 พื้นที่ให้เช่าทั้งหมดซึ่งรวมพื้นที่ที่มีการลงนามในสัญญาเช่าแล้ว ของบริษัทมีจำนวน 2,349,149 ตารางเมตร (ตร.ม.) ในส่วนของพื้นที่ที่มีผู้เช่านั้น ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2562 บริษัทมีพื้นที่ที่มีผู้เช่าภายใต้การบริหารงานของบริษัทจำนวน 1,675,708 ตร.ม. โดยประกอบด้วยพื้นที่เช่าที่กองทุนอสังหาริมทรัพย์และทรัสต์ฯ เป็นเจ้าของจำนวน 1,418,916 ตร.ม. พื้นที่เช่าของบริษัทเองและร่วมกับบริษัทร่วมทุนจำนวน 167,737 ตร.ม. และพื้นที่เช่าของบริษัทดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำนวน 89,055 ตร.ม.

รายได้ค่าเช่าและค่าบริการลดลงจากการขายสินทรัพย์เข้าทรัสต์ฯ

รายได้ค่าเช่าและค่าบริการของบริษัทลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1.1 พันล้านบาทในปี 2561 และ 0.5 พันล้านบาทในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 จากระดับ 1.7 พันล้านบาทในปี 2559 รายได้ที่ลดลงเป็นผลเนื่องมาจากการที่บริษัทได้ขายสินทรัพย์เข้าทรัสต์ฯ เป็นจำนวนมาก ตลอดจนการเข้ามาเช่าพื้นที่ใหม่ที่ชะลอตัวตามการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งก็คาดว่าความต้องการพื้นที่ให้เช่าในธุรกิจอี-คอมเมิร์ซที่เพิ่มขึ้นและอานิสงส์จากโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกจะช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศให้มีมากขึ้น

ฐานรายได้ประจำจากธุรกิจสาธารณูปโภค

บริษัทมีรายได้ประจำที่แน่นอนจากธุรกิจสาธารณูปโภค โดยรายได้จากธุรกิจสาธารณูปโภคของบริษัท (คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 1 ใน 5 ของรายได้รวมของบริษัท) เติบโตอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 2.1 พันล้านบาทในปี 2561 และ 1.1 พันล้านบาทในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 จากระดับ 2.0 พันล้านบาทในปี 2559

รายได้จากธุรกิจสาธารณูปโภคเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมและความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าใหม่ ๆ ในนิคมอุตสาหกรรมของบริษัท รวมทั้งการปรับราคาค่าบริการและการปรับสัดส่วนรายได้โดยมีสัดส่วนการให้บริการน้ำเพื่อการอุตสาหกรรมที่มากขึ้นกว่าน้ำดิบ ทั้งนี้ ปริมาณการให้บริการน้ำเพื่อการสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 105 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ในปี 2561 และ 54 ล้าน ลบ.ม. ในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 จาก 96 ล้าน ลบ.ม. ในปี 2559 ซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปี (Compound Annual Growth Rate -- CAGR) ที่ระดับ 4.6% และอัตราการเติบโตเฉลี่ยของราคาจำหน่ายคิดเป็นระดับประมาณ 2% ต่อปีในช่วงเวลาเดียวกัน

ทริสเรทติ้งคาดว่าธุรกิจสาธารณูปโภคของบริษัทจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องต่อไปจากการเริ่มทยอยดำเนินการผลิตของลูกค้าที่ซื้อที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมของบริษัท

การได้รับผลตอบแทนเงินปันผลอย่างต่อเนื่องจากธุรกิจโรงไฟฟ้า

บริษัทลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าหลายแห่งผ่านทางบริษัทย่อย ปัจจุบันกำลังการผลิตติดตั้งรวมของโรงไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทอยู่ที่ 554 เมกะวัตต์ และจะเพิ่มขึ้นเป็น 577 เมกะวัตต์ภายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2563

บริษัทได้รับเงินปันผลจากการลงทุนในโรงไฟฟ้าลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 400 ล้านบาทในปี 2561 จากระดับ 700 ล้านบาทในปี 2560 ทั้งนี้เงินปันผลรับในปี 2562 จะยังอยู่ในระดับต่ำจากการจ่ายเงินปันผลที่ลดลงของโรงไฟฟ้า GHECO-1 เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานบัญชีและการปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะได้รับเงินปันผลจากการลงทุนในโรงไฟฟ้าประมาณ 400 ล้านบาทในปี 2562 และจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 700 ล้านบาทในปี 2563 และประมาณ 1,000 ล้านบาทในปี 2564-2565 เงินปันผลดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วน 14% ของกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายของบริษัทในปี 2563 และประมาณ 20% ในปี 2564-2565

ความผันผวนของธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม

การเติบโตของธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของนักลงทุน ยอดขายที่ดินของบริษัทในช่วงที่ผ่านมาสะท้อนถึงความอ่อนตัวของอุตสาหกรรม ทั้งนี้ หลังจากยอดขายที่ดินของบริษัทอยู่ในระดับสูงเกินกว่า 2,000 ไร่ในปี 2556 แล้วก็ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับประมาณ 800-1,000 ไร่ในปี 2558-2560 ทั้งนี้ บริษัทมียอดขายที่ดินเท่ากับ 933 ไร่ในปี 2561 และในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 บริษัทมียอดขายที่ดินจำนวน 259 ไร่ เทียบกับระดับ 173 ไร่ในช่วงครึ่งแรกของปี 2561

อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะได้รับอานิสงส์จากโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกเนื่องจากบริษัทมีที่ดินจำนวนประมาณ 9,600 ไร่ (รวมถึงที่ดินที่อยู่ในนิคมแห่งใหม่ที่อยู่ระหว่างรอการพัฒนา) ซึ่งประมาณ 85% ของที่ดินทั้งหมดนี้อยู่ในเขตจังหวัดชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกคือชลบุรีและระยอง ทั้งนี้ แนวโน้มของธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมยังมีสัญญาณที่ดีจากความต้องการที่ดินที่เพิ่มขึ้นจากผู้ประกอบการต่างชาติที่ต้องการย้ายฐานการผลิตออกนอกประเทศจีนอันเนื่องมาจากความตึงเครียดของสงครามทางการค้าระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศจีน

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

• บริษัทจะมีรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1.5 หมื่นล้านบาทในปี 2562 และจะอยู่ที่ระดับ 1.1-1.2 หมื่นล้านบาทในปี 2563-2565 จากระดับ 8.7 พันล้านบาทในปี 2561

• อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 31% ในปี 2562 และอยู่ในช่วงระหว่าง 43%-47% ในปี 2563-2565

• ค่าใช้จ่ายลงทุนรวมจะอยู่ที่ระดับประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาทในปี 2562-2565

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” สะท้อนถึงระดับหนี้ที่สูงและผลการดำเนินงานที่อ่อนแอกว่าที่เราคาดการณ์ไว้

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

แนวโน้มอันดับเครดิตอาจเปลี่ยนเป็น “Stable” หรือ “คงที่” ได้ในกรณีที่บริษัทสามารถลดภาระหนี้ลงโดยที่อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินสุทธิต่อกำไรก่อนดอกเบี้ย จ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่ปรับปรุงแล้วอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 7 เท่าในระยะเวลาที่ต่อเนื่องยาวนานในระดับหนึ่ง

ในทางตรงกันข้ามอันดับเครดิตอาจได้รับการปรับลดลงหากบริษัทไม่สามารถลดภาระหนี้สินลงมาให้อยู่ในระดับที่ทำให้อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินสุทธิต่อกำไรก่อนดอกเบี้ย จ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่ปรับปรุงแล้วต่ำกว่าระดับ 7 เท่าได้อย่างต่อเนื่อง

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562

- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงิน, 5 กันยายน 2561

- Group Rating Methodology, 10 กรกฎาคม 2558

บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (WHA)
อันดับเครดิตองค์กร: A-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
WHA204A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A-
WHA204B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A-
WHA204C: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A-
WHA208A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A-
WHA20OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 338 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A-
WHA214A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,900 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A-
WHA217A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A-
WHA219A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A-
WHA224A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 454 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A-
WHA224B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A-
WHA226B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A-
WHA234A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A-
WHA23OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 328 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A-
WHA244A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A-
WHA247A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 280 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A-
WHA25OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,380 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A-
WHA264A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 400 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 A-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Negative
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2562 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ