ทริสเรทติ้งเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) เป็นระดับ “AA+” จากเดิมที่ระดับ “AA” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 3 พันล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “AA+” ด้วยเช่นกัน โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ในการขยายพอร์ตสินเชื่อและทดแทนหุ้นกู้ชุดที่หมดอายุและชำระคืนไปก่อนหน้านี้แล้ว
การปรับเพิ่มอันดับเครดิตสะท้อนถึงมุมมองของทริสเรทติ้งต่อสถานะของบริษัทในการเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับสูงของ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ “AAA” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” จากทริสเรทติ้ง
สำหรับสถานะเครดิตเฉพาะของบริษัทนั้น สะท้อนถึงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งจากความเป็นผู้นำตลาดในธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ การมีฐานทุนที่แข็งแกร่ง สภาพคล่องที่เพียงพอ และการจัดการคุณภาพสินทรัพย์ที่ดี อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวถูกลดทอนลงจากความกังวลต่อการแข่งขันที่รุนแรงซึ่งอาจจะกดดันต่ออัตราผลตอบแทนจากสินเชื่อ และความเสี่ยงในด้านเครดิตของลูกหนี้ที่อาจจะเพิ่มขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต
เป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับสูงของธนาคารกรุงศรีอยุธยา
การปรับเพิ่มอันดับเครดิตเป็นผลจากการเปลี่ยนมุมมองของทริสเรทติ้งต่อสถานะของบริษัทที่มีกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่ง
ทริสเรทติ้งมีมุมมองว่าบริษัทมีสถานะเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับสูงต่อกลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยา โดยที่ผ่านมาทริสเรทติ้งได้เคยมีความเห็นว่าหลังจาก Mitsubishi UFJ Financial Group Inc. (MUFG) ได้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคารกรุงศรีอยุธยาแล้ว สถานะของบริษัทต่อธนาคารจะมีโอกาสอ่อนแอลงจากการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของกลุ่มธนาคารจากการที่สินเชื่อใหม่ในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์จะไปบันทึกเป็นลูกหนี้ของธนาคารเองแทนที่จะเป็นลูกหนี้ของบริษัท
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แม้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์คงค้างที่เป็นลูกหนี้ของบริษัทจะลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่การสนับสนุนทั้งทางด้านธุรกิจและการเงินจากกลุ่มธนาคารยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แสดงให้เห็นว่าความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของบริษัทต่อกลุ่มธนาคารไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างที่คาดไว้ ยิ่งไปกว่านั้น ยังได้เห็นถึงการบูรณาการความร่วมมือที่เพิ่มขึ้น ทั้งในด้านการดำเนินการ การจัดการความเสี่ยง การขายผลิตภัณฑ์และบริการร่วมกันระหว่างบริษัทและกลุ่มธนาคาร ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไปตามกลยุทธ์โดยรวมของกลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยา
นอกจากการเพิ่มทุนจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาจำนวน 2.4 หมื่นล้านบาทในปี 2557 แล้ว บริษัทยังได้รับการสนับสนุนอื่น ๆ ทางด้านการเงินในรูปของวงเงินกู้ยืมทั้งระยะสั้นและยาวจากธนาคาร ซึ่งช่วยสนับสนุนให้บริษัทมีสถานะสภาพคล่องที่ดีและเพิ่มศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจ
สำหรับการสนับสนุนทางด้านธุรกิจ ทริสเรทติ้งมองว่าระดับความร่วมมือระหว่างบริษัทและกลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยา รวมถึงกับทาง MUFG ในบางกรณี มีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างสำคัญที่ชัดเจนได้แก่ โครงการภายใต้ชื่อ “Krungsri Collaboration” ซึ่งพัฒนาโดยกลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยาในการยกระดับการขายผลิตภัณฑ์และความร่วมมือกันทางธุรกิจภายในกลุ่มธนาคาร ซึ่งบริษัทก็เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ การขายผลิตภัณฑ์สินเชื่อเช่าซื้อยานพาหนะ ทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์ รวมถึงประกันภัยนั้น ถูกจัดการผ่านช่องทางการขายและรับลูกค้าที่ใช้ร่วมกัน นอกจากนี้ บริษัทยังได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับธนาคารในผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อผู้จำหน่ายรถ (Inventory Finance) เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ให้ยาวนานกับทั้งตัวแทนจำหน่ายและผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่น พร้อมทั้งสร้างโอกาสและต่อยอดธุรกิจของกลุ่มธนาคาร
ในระดับปฏิบัติงาน สายงานสนับสนุนธุรกิจของบริษัทมีการใช้งานร่วมกันระหว่างบริษัทและธนาคาร ตัวอย่างเช่น บริษัทยังคงเป็นผู้ให้บริการงานจัดเก็บหนี้และเป็นนายหน้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันให้กับทางธนาคาร ขณะที่ส่วนงานสนับสนุนหลัก ๆ ของบริษัทจะใช้ร่วมกันกับส่วนงานที่มีอยู่แล้วของธนาคาร ไม่ว่าจะการเงิน การบริหารความเสี่ยง เทคโนโลยีสารสนเทศ และอื่น ๆ
ฐานทุนที่แข็งแกร่ง
ทริสเรทติ้งคาดว่าฐานทุนของบริษัทจะอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งและภาระหนี้จะอยู่ในระดับที่เหมาะสมใน 2-3 ปีข้างหน้า เนื่องจากบริษัทยังคงมีการขยายธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์อย่างต่อเนื่อง ภาระหนี้ของบริษัทซึ่งพิจารณาจากอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบันที่ระดับ 0.84 เท่า ณ สิ้นปี 2561 อย่างไรก็ตาม
ทริสเรทติ้งเชื่อว่าฐานทุนที่มีอยู่อย่างเพียงพอในปัจจุบันจะรักษาให้ระดับอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 1.5 เท่า
บริษัทมีฐานทุนที่แข็งแกร่ง ณ สิ้นปี 2561 อัตราส่วนส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 54.4% มากกว่าค่าเฉลี่ยของบริษัทที่จัดอันดับโดยทริสเรทติ้งซึ่งอยู่ที่ 50.0% ฐานทุนที่แข็งแกร่งมาจากการเพิ่มทุนจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาในปี 2557 เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวซึ่งกำหนดให้บริษัทต้องดำรงฐานทุนที่เพียงพอและรักษาอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่ให้ต่ำกว่า 7 เท่า ทำให้ต้องมีการเพิ่มทุนหลังจาก MUFG เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นธนาคารกรุงศรีอยุธยา ถึงแม้ว่าบริษัทจะมีอัตราการจ่ายเงินปันผลในระดับที่สูงมากกว่า 70% ทริสเรทติ้งคาดว่าฐานทุนของบริษัทจะยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งจากทุนที่จะเพิ่มขึ้นมาจากกำไรที่แข็งแรง ทริสเรทติ้งประมานการอัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยของบริษัทจะอยู่ที่ระดับประมาน 6%-7% ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า
สถานะผู้นำทางการตลาดในสินเชื่อรถจักรยานยนต์
ทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่าพอร์ตสินเชื่อรถจักรยานยนต์ของบริษัทจะเติบโตประมาน 10%-15% จนถึงปี 2564 ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทคงสถานะผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดแม้ว่าจะมีการแข่งขันทางการตลาดที่รุนแรง บริษัทมีการเติบโตสินเชื่ออย่างต่อเนื่องตลอดมาแม้ว่าจะมีคู่แข่งที่ชะลอตัวการให้สินเชื่อลงไปบ้างก็ตาม
จุดแข็งของบริษัทมาจาก 1.) สามารถใช้สาขาของธนาคารเป็นช่องทางการขายได้ 2.) ความสัมพันธ์ที่ดีและยาวนานกับตัวแทนจำหน่ายรถด้วยเครือข่ายที่กว้างขวางครอบคลุมทั่วประเทศ 3.) มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายกว่าผู้ประกอบการอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ธนาคาร 4.) มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ผลิตรถสัญชาติญี่ปุ่นจากเครือค่ายความสัมพันธ์ของ MUFG 5.) มีการใช้รูปแบบการดำเนินธุรกิจร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา 6.) ขยายสินเชื่ออย่างมีคุณภาพซึ่งเป็นผลจากการจัดการความเสี่ยงที่เข้มแข็งของกลุ่มธนาคาร
บริษัทยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะหาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพซึ่งถือเป็นอีกปัจจัยที่สร้างความสำเร็จให้แก่บริษัท บริษัทเป็นผู้บุกเบิกในตลาดเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่หรือมีความจุกระบอกสูบสูงมาตั้งแต่ปี 2551 การขยายสินเชื่อมายังรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่เป็นประโยชน์ต่อบริษัทในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่เป็นตลาดที่มีการเติบโตหลักในช่วงที่ผ่านมานี้ ซึ่งช่วยเสริมเพิ่มเติมจากรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กหรือมีความจุกระบอกสูบต่ำ นอกจากนี้ การขยายสินเชื่อไปยังรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ทำให้คุณภาพสินเชื่อของบริษัทดีขึ้นเพราะสินเชื่อของรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่มีคุณภาพสินเชื่อที่ดีกว่าคุณภาพสินเชื่อของรถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก ปัจจุบันบริษัทกำลังศึกษาและวางแผนจะนำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อทะเบียนรถที่มีรถจักรยานยนต์เป็นหลักประกัน
คุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแรง
ทริสเรทติ้งคาดว่าคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทจากยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งกว่าคู่แข่งขัน ด้วยอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ซึ่งหมายถึงสินเชื่อที่ค้างชำระเกินกว่า 3 เดือนขึ้นไปต่อสินเชื่อรวมคงค้าง จะอยู่ในระดับต่ำกว่า 2.5% ในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่งของบริษัทนั้นมาจากการจัดการความเสี่ยงด้านเครดิตที่เข้มงวดและระบบการจัดเก็บหนี้ที่มีประสิทธิภาพ ณ สิ้นปี 2561 บริษัทมีอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ 1.7% ซึ่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมในฐานข้อมูลของทริสเรทติ้งที่ 4.6%
คุณภาพของสินเชื่อที่อนุมัติใหม่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีแนวโน้มที่ถดถอยลง โดยมาจากกลุ่มรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กที่มีราคาสูงและรถจักรยานยนต์ที่เป็นแบรนด์จากประเทศจีน อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งยังไม่กังวลกับคุณภาพสินทรัพย์โดยรวมของบริษัท ณ ขณะนี้ แต่จะคอยติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด
นอกจากนั้น บริษัทมีนโยบายการตั้งสำรองที่เข้มงวดและรัดกุมกว่าคู่แข่ง อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ในระดับที่แข็งแกร่งและสูงกว่าคู่แข่ง โดยอัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ 282% ณ สิ้นปี 2561 เพิ่มขึ้นจาก 202% ณ สิ้นปี 2559 เทียบกับค่าเฉลี่ยของคู่แข่งที่น้อยกว่า 150% ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนดังกล่าวจะรักษาอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันนี้ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า โดยคาดการณ์ว่าบริษัทจะมีค่าใช้จ่ายสำหรับหนี้สูญที่ระดับต่ำกว่า 1.5% จนถึงปี 2564
สถาพคล่องที่ดี
ความยืดหยุ่นทางการเงินในระดับสูงของบริษัทเกิดจากการที่บริษัทมีสถานะเป็นหนึ่งในบริษัทย่อยประเภท Solo Consolidated Subsidiary ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งทำให้ธนาคารสามารถสนับสนุนเงินทุนให้แก่บริษัทลูกได้ โดยวงเงินที่ธนาคารมีให้แก่บริษัทนั้น เพียงพอที่จะสนับสนุนการขยายธุรกิจตามแผนของบริษัทได้
บริษัทไม่มีความไม่สอดคล้องในโครงสร้างของสินทรัพย์และหนี้สิน เงินกู้ยืมระยะสั้นซึ่งรวมถึงส่วนของเงินกู้ยืมระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระในหนึ่งปี อยู่ที่ประมาณ 46% ของเงินกู้ยืมรวม ณ เดือนธันวาคม 2561 ขณะที่กระแสเงินสดจากการชำระค่างวดรายเดือนของลูกค้าและวงเงินสินเชื่อที่ได้รับจากธนาคารกรุงศรีอยุธยายังมากพอที่จะป้องกันปัญหาสภาพคล่องได้
สมมติฐานกรณีพื้นฐาน
ทริสเรทติ้งตั้งสมมติฐานกรณีพื้นฐานสำหรับการดำเนินงานของบริษัทในระหว่างปี 2562-2564 ดังนี้
• การขยายตัวของสินเชื่อใหม่จะอยู่ในระดับเฉลี่ยที่ประมาณ 5-10% ต่อปี
• อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นคาดว่าจะรักษาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 1.5 เท่า
• อัตราผลตอบแทนด้านดอกเบี้ยโดยรวมของบริษัทจะอยู่ในระดับ 11%-12%
• ต้นทุนทางด้านเครดิตเฉลี่ยจะรักษาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 1.5%
• อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้รวมจะรักษาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 34%
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดหมายว่าทิศทางธุรกิจของบริษัทจะยังคงมีความสอดคล้องกับกลยุทธ์ทางธุรกิจของธนาคารกรุงศรีอยุธยาและบริษัทจะยังคงได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากธนาคารต่อไป แนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความสามารถของผู้บริหารที่ยังสามารถรักษาสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ของบริษัทเอาไว้ได้ ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดหวังว่าบริษัทจะสามารถดำรงความสามารถในการทำกำไรและรักษาฐานทุนที่แข็งแกร่งเพียงพอเพื่อป้องกันความเสี่ยงในเชิงลบของธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของบริษัทที่มีต่อกลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยาเพิ่มสูงมากขึ้น ซึ่งค่อนข้างมีโอกาสน้อยในระยะเวลาอันใกล้ ในขณะที่อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลง หากมีการปรับลดอันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือหากมีการเปลี่ยนแปลงมุมมองของทริสเรทติ้งเกี่ยวกับสถานะความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของบริษัทที่มีต่อกลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยา
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- การจัดอันดับเครดิตบริษัทให้สินเชื่อที่ไม่ใช่ธนาคาร, 7 พฤษภาคม 2561
- Group Rating Methodology, 10 กรกฏาคม 2558
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 ? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2562 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html