ทริสเรทติ้งยืนยันอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ที่ระดับ “BBB+” พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 25,000 ล้านบาท และหุ้นกู้สำรองเพื่อการเสนอขายเพิ่มเติม (Greenshoe) ในวงเงินไม่เกิน 5 พันล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “BBB+” โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปชำระค่าประมูลใบอนุญาตการใช้คลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
อันดับเครดิตสะท้อนถึงการที่บริษัทเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจหลักภายใต้การบริหารงานของ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือทรู ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ “BBB+/Stable” จากทริสเรทติ้ง ตลอดจนสถานะในการแข่งขันที่ดีของบริษัท อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตยังมีข้อจำกัดจากภาระหนี้ของบริษัทที่อยู่ในระดับสูง และแรงกดดันจากการแข่งขันในธุรกิจซึ่งจะส่งผลให้ความสามารถในการสร้างรายได้จากการลงทุนจำนวนมากในด้านคลื่นความถี่ และโครงข่ายการให้บริการที่ครอบคลุมของบริษัทชะลอตัว
ผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 สอดคล้องกับประมาณการของทริสเรทติ้ง บริษัทมีรายได้จากการให้บริการซึ่งไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม (Interconnection Charge -- IC) อยู่ที่ 3.86 หมื่นล้านบาท เติบโต 6.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และดีกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 1% ในขณะที่บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดในด้านรายได้คิดเป็นสัดส่วน 29% เมื่อเทียบกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ที่มีสัดส่วน 48% และ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น ที่มีสัดส่วน 23%
สถานะทางการเงินของบริษัทยังคงสอดคล้องกับประมาณการของทริสเรทติ้ง ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562 บริษัทมีรายได้รวม 5.36 หมื่นล้านบาท มีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) อยู่ที่ระดับ 1.28 หมื่นล้านบาท และมีเงินทุนจากการดำเนินงานอยู่ที่ระดับ 9.1 พันล้านบาท ภาระหนี้ของบริษัทยังคงอยู่ในระดับสูง โดยอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA ที่ปรับปรุงแล้วอยู่ที่ 8.9 เท่า (ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปีด้วยตัวเลข 12 เดือนย้อนหลัง) และอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินที่ปรับปรุงแล้วอยู่ที่ 7.8% (ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปีด้วยตัวเลข 12 เดือนย้อนหลัง)
โครงสร้างเงินทุนของบริษัทซึ่งวัดจากอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินที่ปรับปรุงแล้วต่อโครงสร้างเงินทุนอ่อนตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 69.9% ณ เดือนมิถุนายน 2562 จากระดับ 65.7% ในปี 2561 ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ (IFRS 15) ที่ทำให้บริษัทต้องตัดจ่ายต้นทุนการได้มาของผู้ใช้บริการประมาณ 1 หมื่นล้านบาทออกจากกำไรสะสม
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงรักษาสถานะการแข่งขันและระดับผลการดำเนินงานที่ดีและสามารถสร้างรายได้จากเงินที่ลงทุนไปโดยไม่ทำให้สถานะการเงินของบริษัทอ่อนแอลง อีกทั้งจะยังคงสถานะในการเป็นธุรกิจหลักของกลุ่มทรูต่อไป นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงใดใดที่จะเกิดขึ้นกับอันดับเครดิตของทรูก็จะส่งผลต่ออันดับเครดิตของบริษัทด้วยเช่นเดียวกัน
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
โอกาสในการปรับเพิ่มอันดับเครดิตของบริษัทถูกจำกัดจากฐานะการเงินของบริษัทในปัจจุบัน ในขณะที่ความเสี่ยงที่บริษัทจะได้รับจากการลดอันดับเครดิตจะเกิดขึ้นได้หากผลการดำเนินงานของบริษัทอ่อนตัวลงกว่าที่ทริสเรทติ้งคาดการณ์เอาไว้เป็นอย่างมาก
ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับข้อพิพาทด้านกฎหมายต่าง ๆ ที่มีมาแต่ในอดีต เช่น ประเด็นเรื่องส่วนแบ่งรายได้ หรือการประเมินภาษีสรรพสามิต น่าจะยังต้องใช้เวลากว่าที่จะมีผลสิ้นสุด โดยที่อันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับแรงกดดันในทางลบหากผลสรุปของคดีความมีผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของบริษัท
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562
- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงิน, 5 กันยายน 2561
- Group Rating Methodology, 10 กรกฎาคม 2558
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 ? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2562 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html