ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร & พันธบัตรไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน “บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย” ที่ “AA-” แนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 24, 2019 11:00 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและพันธบัตรไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) ที่ระดับ “AA-” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงการยกระดับสถานะเครดิตของ บตท. จากการเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล (Government-related Entity – GRE) ทั้งนี้ สถานะเครดิตเฉพาะของ บตท. มีข้อจำกัดจากผลประกอบการทางการเงินที่อ่อนแอลงของ บตท. อันเนื่องมาจากคุณภาพสินทรัพย์ที่ถดถอยลง และการลดลงของพอร์ตสินเชื่อ อย่างไรก็ตาม สถานะของ บตท. ซึ่งเป็นองค์กรที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลยังคงเป็นปัจจัยหลักที่มีผลต่ออันดับเครดิตของ บตท.

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

มีสถานะเป็นองค์กรที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาล

อันดับเครดิตองค์กรของ บตท. สะท้อนถึงการเป็นองค์กรที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลซึ่งทริสเรทติ้งเชื่อว่ารัฐบาลจะให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีแก่ บตท. ในยามที่จำเป็น

นับตั้งแต่การก่อตั้งองค์กร ธุรกรรมหลักของ บตท. คือการซื้อพอร์ตสินเชื่อที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงินอื่น ๆ ซึ่งเป็นผู้ให้สินเชื่อในตลาดแรกแล้วนำมารวมกันเป็นกองสินเชื่อเพื่อใช้เป็นสินทรัพย์หนุนตราสารทางการเงิน (Mortgage-backed Securities -- MBS) จากนั้นจึงจำหน่ายตราสารดังกล่าวให้แก่นักลงทุน

บตท. มีความเชื่อมโยงที่แน่นแฟ้นกับรัฐบาลเนื่องจากมีรัฐบาลไทยเป็นผู้ถือหุ้นเต็ม 100% ในการนี้ ทริสเรทติ้งจึงเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ต่ำมากที่ บตท. จะได้รับการแปรรูปไปเป็นหน่วยงานในภาคเอกชน บตท. ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลก่อนการก่อหนี้ใด ๆ แม้ว่ารัฐบาลจะไม่ได้ให้การรับประกันหนี้ของ บตท. อย่างชัดเจน แต่ทริสเรทติ้งก็เชื่อว่ารัฐบาลจะให้การสนับสนุนแก่ บตท. เมื่อมีความจำเป็น

ความสามารถในการทำกำไรมีข้อจำกัด

ในมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่าผลกำไรของ บตท. มีแนวโน้มลดลงในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า เนื่องจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่แคบลงและค่าใช้จ่ายหนี้สูญที่สูงขึ้นจากคุณภาพสินทรัพย์ที่เสื่อมถอยลงถึงแม้ว่าจะมีการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้ก็ตาม อัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาทำให้ บตท. ต้องลดอัตราดอกเบี้ยผ่านโครงการผ่อนผันเพื่อที่จะรักษาลูกค้าเอาไว้ ซึ่งส่งผลทำให้ บตท. มีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยลดลงอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 0.6%-0.7% ในปี 2561 จนถึงครึ่งแรกของปี 2562 (ปรับเป็นอัตราส่วนเต็มปีแล้ว) จาก 1.75% ในปี 2559

บตท. รายงานผลกำไรสุทธิจำนวน 102 ล้านบาทในปี 2561 หรือเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 287% จากปี 2560 อันเป็นผลมาจากการรวมยอดการโอนกลับหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 45 ล้านบาทเข้าไว้ด้วยในขณะที่ผลการดำเนินงานนั้นปรับตัวลดลง ทั้งนี้ หนี้สงสัยจะสูญที่โอนกลับมานั้นเป็นสาเหตุมาจากการปรับวิธีการตัดชำระเงินค่างวดโดย บตท. นำไปตัดทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยพร้อมกัน และระบบการติดตามหนี้ที่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม สำหรับครึ่งแรกของปี 2562 บตท. มีผลขาดทุนสุทธิจำนวน 1 ล้านบาท โดยมีค่าใช้จ่ายหนี้สูญถึง 38 ล้านบาทเนื่องจากคุณภาพสินทรัพย์ยังคงเสื่อมถอยลง รวมทั้งพอร์ตสินเชื่อที่ลดลงด้วย

บตท. คาดว่าจะไม่มีการซื้อพอร์ตสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพิ่มเติมภายใน 3 ปีข้างหน้าตามนโยบายการดำเนินงานของบริษัท ดังนั้น พอร์ตสินเชื่อที่มีอยู่ในปัจจุบันจึงอาจสร้างรายได้จากดอกเบี้ยในอัตราที่ลดลงจนไม่เพียงพอรองรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและค่าใช้จ่ายหนี้สูญ

การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นข้อจำกัดต่อสถานะทางธุรกิจ

สถานะทางการตลาดของ บตท. มีแนวโน้มที่จะอ่อนแอลงในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า ทริสเรทติ้งคาดว่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยของ บตท. จะลดลงราว 15% ต่อปีจนถึงปี 2564 ทั้งนี้ พอร์ตสินเชื่อที่อยู่อาศัยลดลงอย่างต่อเนื่องจากการปรับเกณฑ์การจัดซื้อสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่เข้มงวดขึ้นของธนาคารพาณิชย์ อย่างไรก็ตาม บตท. ก็มีความคล่องตัวในการจัดซื้อสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยทั้งในรูปแบบเช่าซื้อหรือให้เช่าแบบลีสซิ่งภายใต้แนวทางที่กระทรวงการคลังกำหนด ทั้งนี้ บตท. ได้ซื้อสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเพียง 111 ล้านบาทจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในปี 2561

พอร์ตสินเชื่อที่อยู่อาศัยของ บตท. ลดลงมาอยู่ที่ 17.4 พันล้านบาท ณ สิ้นปี 2561 หรือลดลง 28.1% จาก 24.2 พันล้านบาทในปี 2558 และยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ 16.3 พันล้านบาท ณ เดือนมิถุนายน 2562 หรือลดลง 6.3% จากปีก่อนหน้า ทริสเรทติ้งเชื่อว่าการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยและนโยบายการดำเนินงานของผู้บริหารของ บตท. จะยังคงเป็นข้อจำกัดในการเติบโตของสถานะทางการตลาดของ บตท.

คุณภาพสินทรัพย์ยังคงเป็นเรื่องที่ท้าทาย

ในมุมมองของทริสเรทติ้งคาดว่าคุณภาพสินทรัพย์ของ บตท. จะยังคงอ่อนแอต่อไปอีกในระยะ 3 ปีข้างหน้าซึ่งเป็นผลมาจากความเสี่ยงทางด้านเครดิตของลูกค้าเป้าหมายประกอบกับสภาพเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มอ่อนแอลง อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมคาดว่าจะอยู่ระหว่าง 18%-27% ในอีก 3 ปีข้างหน้าจากพอร์ตสินเชื่อที่หดตัวลง นอกจากนี้ แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงยังทำให้ บตท. ต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากการกู้ใหม่และการคืนหนี้ก่อนครบกำหนดชำระอีกด้วย

อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมของ บตท. ณ สิ้นปี 2561 เพิ่มสูงขึ้นเป็น 14.8% เมื่อเทียบกับ 13.7% ณ สิ้นปี 2560 โดยอัตราส่วนดังกล่าวยังคงปรับเพิ่มขึ้นเป็น 16.3% ณ เดือนมิถุนายน 2562 ในมุมมองของทริสเรทติ้งเชื่อว่าคุณภาพสินทรัพย์ของ บตท. ในอนาคตน่าจะอยู่ในการควบคุมที่ดีขึ้นโดยสะท้อนจากเกณฑ์การซื้อสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่เข้มงวดขึ้นและการปรับโครงสร้างหนี้ลูกหนี้ที่มีปัญหาของ บตท. โดยทริสเรทติ้งคาดว่า บตท. จะสามารถดำรงค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองหนี้สูญต่อเงินให้สินเชื่อเฉลี่ยต่อปีให้อยู่ที่ระดับ 0.2%-0.4% ได้ในอีก 3 ปีข้างหน้า

ความไม่สอดคล้องกันของสินทรัพย์และหนี้สิน

บตท. มีอายุเฉลี่ยที่ไม่สอดคล้องกันในโครงสร้างสินทรัพย์และหนี้สิน โดยอายุเฉลี่ยของสินเชื่ออยู่ที่ 20 ถึง 30 ปี ในขณะที่ บตท. พึ่งพาการกู้ยืมเพื่อระดมทุนในระยะเวลาไม่ถึง 5 ปี อย่างไรก็ดี ทริสเรทติ้งเชื่อว่าความไม่สอดคล้องกันของอายุเฉลี่ยของสินทรัพย์และหนี้สินดังกล่าวไม่น่าจะเป็นอุปสรรคสำคัญเนื่องจาก บตท. มีวงเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินที่หลากหลายและยังสามารถออกพันธบัตรรัฐวิสาหกิจเพื่อจัดการกับปัญหาช่องว่างของสภาพคล่องในระยะสั้นนี้ได้

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

• การลดลงของสินเชื่อคงค้างจะอยู่ในระดับเฉลี่ยที่ประมาณ 15% ต่อปีในระหว่างปี 2562-2564

• ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ระดับประมาณ 0.6% ในระหว่างปี 2562-2564

• ค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญจะอยู่ที่ประมาณ 0.2%-0.4% ในระหว่างปี 2562-2564

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าความสัมพันธ์ระหว่าง บตท. กับรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการสนับสนุนทั้งทางด้านธุรกิจและการเงินจากรัฐบาลจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และยังคาดว่าสถานะทางการเงินของ บตท. จะยังคงมีความมั่นคง

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของ บตท. สามารถปรับเพิ่มขึ้นได้หาก บตท. มีผลประกอบการทางการเงินและคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีระดับเงินกองทุนที่เพิ่มขึ้น ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจปรับลดลงหาก บตท. มีสถานะทางการเงินที่ถดถอยลงอย่างมาก โดยที่ทริสเรทติ้งจะพิจารณาปรับเปลี่ยนอันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอีกครั้งหากความสัมพันธ์ที่ บตท. มีกับรัฐบาล หรือสถานะทางกฎหมายของ บตท. เปลี่ยนแปลงไป อนึ่ง จากร่างพระราชบัญญัติการยุบเลิก บตท. ให้ขึ้นกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ตามนโยบายของกระทรวงการคลังเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ตลาดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยซึ่งร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการพิจารณาจากผู้เกี่ยวข้องนั้น สถานะทางกฎหมายของ บตท. ก็อาจจะได้รับผลกระทบด้วยหากร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- การจัดอันดับเครดิตบริษัทให้สินเชื่อที่ไม่ใช่ธนาคาร, 7 พฤษภาคม 2561

- Rating Methodology for Government-Related Entities, 6 มิถุนายน 2560

บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (SMC)
อันดับเครดิตองค์กร: AA-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
SMCT20NA: พันธบัตรไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 AA-
SMCT216A: พันธบัตรไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,250 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 AA-
SMCT21OA: พันธบัตรไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 AA-
SMCT236A: พันธบัตรไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 750 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 AA-
SMCT238A: พันธบัตรไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 AA-
SMCT23OA: พันธบัตรไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 AA-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2562 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ