ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB-” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “BBB-” ในขณะเดียวกันยังได้จัดอันดับเครดิตให้แก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 3.5 พันล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “BBB-” ด้วย โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้รับจากการออกหุ้นกู้ดังกล่าวไปใช้ไถ่ถอนหุ้นกู้ของบริษัท
อันดับเครดิต “BBB-” สะท้อนถึงสถานะผู้นำของบริษัทในอุตสาหกรรมการผลิตกระดาษพิมพ์เขียนของไทยและความแข็งแกร่งของตราสัญลักษณ์ผลิตภัณฑ์ “ดั๊บเบิ้ล เอ” อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากลักษณะที่เป็นวงจรขึ้นลงของอุตสาหกรรมการผลิตเยื่อกระดาษและกระดาษ อุปสงค์ของกระดาษพิมพ์เขียนในระดับโลกและในประเทศที่ชะลอตัวเล็กน้อย รวมถึงการปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัทที่กำลังดำเนินอยู่
ผลการดำเนินงานของบริษัทปรับตัวดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีนัยสำคัญมาอยู่ที่ระดับ 29.1% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 จากต่ำสุดที่ระดับ 8.2% ในปี 2559 ในช่วง 3 ปีข้างหน้า ทริสเรทติ้งคาดว่าผลกำไรและรายได้ของบริษัทจะลดลงเล็กน้อยแต่ยังคงแข็งแรง โดยอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ของบริษัทน่าจะอยู่ในช่วง 18%-23% และเงินทุนจากการดำเนินงานน่าจะอยู่ในช่วง 2.7-3.6 พันล้านบาทต่อปี ในขณะที่รายได้จากการดำเนินงานโดยรวมน่าจะอยู่ในระดับที่มากกว่า 19 พันล้านบาทต่อปี
ทริสเรทติ้งคาดว่าการก่อหนี้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วง 3 ปีข้างหน้า เนื่องจากบริษัทกำลังพัฒนาโรงงานผลิตเยื่อกระดาษแห่งใหม่ที่ใช้กระดาษใช้แล้วมาเป็นวัตถุดิบ โดยน่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 900 ล้านบาท เมื่อพิจารณาถึงรายจ่ายอื่น ๆ ซึ่งรวมไปถึงภาระหนี้ที่ต้องชำระรายปีร่วมด้วยแล้ว เงินทุนจากการดำเนินงานของบริษัทไม่น่าจะมีเพียงพอสำหรับรายจ่ายทั้งหมด ทั้งนี้ บริษัทสามารถขายสินทรัพย์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานหลักของบริษัทเพื่อใช้เป็นแหล่งเงินทุนอีกทางหนึ่ง
ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะจัดการกับสภาพคล่องอย่างระมัดระวัง ทั้งนี้ หุ้นกู้จำนวนประมาณ 2.2 พันล้านบาทจะครบกำหนด
ไถ่ถอนในปี 2563 ซึ่งบริษัทน่าจะหาแหล่งเงินทดแทนบางส่วนด้วยการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ ณ วันที่ 15 มกราคม 2563 บริษัทยังมีวงเงินกู้ที่ยังไม่ได้เบิกใช้อีกประมาณ 4.4 พันล้านบาทสำหรับเป็นแหล่งเงินสดได้อีกทางหนึ่งด้วย
หุ้นกู้ของบริษัทมีข้อกำหนดในการดำรงอัตราส่วนทางการเงินในส่วนของอัตราส่วนเงินกู้ที่มีดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนทุนที่ระดับไม่เกิน 2 เท่า ขณะที่อัตราส่วนดังกล่าว ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 อยู่ที่ 1.2 เท่า ทริสเรทติ้งเชื่อว่าบริษัทจะสามารถปฏิบัติได้ตามข้อกำหนดนี้ได้ตลอดช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงรักษาความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจการผลิตกระดาษพิมพ์เขียนเอาไว้ได้ ในขณะที่การปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัทจะไม่ทำให้สถานะทางการเงินของบริษัทด้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
การเพิ่มอันดับเครดิตอาจเกิดขึ้นได้หากผลกำไรของบริษัทยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและการปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัทไม่ทำให้กระแสเงินสดและสถานะทางการเงินของบริษัทอ่อนแอลง ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิต และ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจปรับลดลงได้หากผลการดำเนินงานของบริษัทและกระแสเงินสดลดลงจากการคาดการณ์หรือหากโครงสร้างเงินทุนของบริษัทอ่อนแอกว่าที่คาดไว้ ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขวิธีการจัดอันดับเครดิตแบบกลุ่ม (Group Rating Methodology) ของทริสเรทติ้ง สถานะเครดิตของกลุ่มบริษัทและสมาชิกในกลุ่มบริษัทจะมีผลกระทบต่ออันดับเครดิตองค์กรและอันดับเครดิตตราสารหนี้ของบริษัทด้วยเช่นกัน
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562
- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงิน, 5 กันยายน 2561
- Group Rating Methodology, 10 กรกฎาคม 2558
บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) (DA)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
DA241A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,350 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 BBB-
DA235A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 BBB-
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 3,500 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 10 ปี BBB-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable