ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร “บ. บีเอสแอล ลีสซิ่ง” ที่ “BBB” แนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 20, 2020 15:56 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท บีเอสแอล ลีสซิ่ง จำกัด ที่ระดับ “BBB” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงการที่บริษัทมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่ง มีระดับการก่อนหนี้ที่ต่ำ และได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจากผู้ถือหุ้นใหญ่ อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนลงจากการที่บริษัทมีคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอลง รวมถึงมีความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของลูกค้าในระดับสูง และความไม่สอดคล้องกันของสินทรัพย์และหนี้สิน นอกจากนี้ การแข่งขันที่รุนแรงก็จำกัดความสามารถในการทำกำไรของบริษัทด้วย

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

ฐานเงินทุนที่แข็งแกร่ง

ทริสเรทติ้งเชื่อว่าฐานเงินทุนของบริษัท ณ ปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่เพียงพอต่อการสนับสนุนแผนการดำเนินธุรกิจในระยะ 3 ปีข้างหน้า ฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งนี้เกิดจากอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ต่ำ การเติบโตของสินเชื่ออย่างระมัดระวัง และการมีผลกำไรอย่างสม่ำเสมอ

ความแข็งแรงของฐานทุนซึ่งวัดโดยอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทนั้น อัตราส่วนดังกล่าวอยู่ในระดับปานกลางและลดลงอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยอยู่ในระดับต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับบริษัทคู่แข่งอื่น ๆ ในฐานข้อมูลของ

ทริสเรทติ้ง ทั้งนี้ ณ เดือนกันยายน 2562 อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทอยู่ที่ 2.8 เท่าเทียบกับ 3.2 เท่าในเดือนธันวาคม 2561 และเมื่อเทียบกับบริษัทคู่แข่งที่มีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10 เท่า

มีสภาพคล่องเพียงพอจากการสนับสนุนของผู้ถือหุ้นใหญ่

ทริสเรทติ้งมองว่าการสนับสนุนทางการเงินจากผู้ถือหุ้นใหญ่ และการมีแหล่งเงินกู้ยืมที่หลากหลายจากสถาบันการเงินอื่น ๆ ช่วยให้บริษัทยังคงสามารถดำเนินกิจการและชำระคืนหนี้ต่าง ๆ ได้ตามกำหนด

ณ เดือนกันยายน 2562 บริษัทมีวงเงินกู้ที่ยังไม่ได้เบิกใช้จำนวน 1.18 พันล้านบาทจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และจำนวน 2.11 พันล้านบาทจากธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงค์กิ้ง คอร์ปอเรชั่น อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่ได้พึ่งพาแหล่งเงินทุนจากธนาคารกรุงเทพเป็นหลักโดยบริษัทได้เก็บวงเงินกู้นี้เป็นแหล่งเงินทุนสำรองกรณีฉุกเฉินและเพื่อการบริหารสภาพคล่องของบริษัท ทั้งนี้ ณ เดือนธันวาคม 2562 บริษัทมีภาระหนี้คงค้างกับธนาคารกรุงเทพเพียง 2.0% ของหนี้สินทั้งหมดของบริษัท

การแข่งขันจำกัดความสามารถในการทำกำไร

การแข่งขันที่รุนแรงกดดันต่อการเติบโตของสินทรัพย์และอัตราผลตอบแทนจากสินเชื่อของบริษัท ในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนมีทิศทางที่ลดลงจากค่าเฉลี่ย 6.8% เป็น 6.4% อย่างไรก็ตาม อัตราผลตอบแทนของบริษัทเมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้วยังอยู่ในระดับที่สูงกว่า แต่ก็จำกัดสถานะทางการแข่งขันของบริษัทในตลาด

ทริสเรทติ้งคาดว่าการแข่งขันในตลาดลิสซิ่งเครื่องจักรและอุปกรณ์จะอยู่ในระดับสูงต่อไป ซึ่งเกิดจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนแหล่งเงินทุนที่ต่ำจากธนาคารแม่และสถาบันการเงินที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จากญี่ปุ่น จึงทำให้ผู้ประกอบการเหล่านี้มีความสามารถในการรับอัตราผลตอบแทนที่ต่ำเนื่องจากได้รับเงินทุนต้นทุนต่ำจากบริษัทแม่ ดังนั้น ทริสเรทติ้งยังคงมองว่าอุตสาหกรรมนี้จะเผชิญกับแรงกดดันในด้านอัตราผลตอบแทนต่อไปอีกระยะหนึ่ง

คุณภาพสินทรัพย์ยังคงอ่อนแอต่อเนื่อง

คุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอยังคงเป็นประเด็นหลักที่ทริสเรทติ้งกังวล การกระจุกตัวของสินเชื่อเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญซึ่งทำให้สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในปี 2559 ลูกค้ารายใหญ่รายหนึ่งประสบกับปัญหาทางการเงินทำให้อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 8.7% อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ตั้งสำรองสำหรับลูกหนี้รายนี้ไว้เต็มจำนวนในปี 2560

ในปี 2562 คุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทอ่อนแอลงต่อเนื่อง ส่งผลให้อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 11% ซึ่งหากไม่รวมสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้รายใหญ่ที่เริ่มเกิดขึ้นในปี 2559 นั้น บริษัทจะมีอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ 4.1% ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 0.69% ณ สิ้นปี 2561 ทริสเรทติ้งมองว่าคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทจะอยู่ในระดับที่อ่อนแอต่อไปเนื่องจากบริษัทไม่มีนโยบายตัดหนี้สูญหรือการขายหนี้ตราบเท่าที่สินเชื่อยังไม่ได้รับการจัดการจนถึงที่สุด ณ เดือนธันวาคม 2562 ลูกหนี้รายใหญ่ 10 รายแรกของบริษัทคิดเป็นสัดส่วนถึง 27% ของพอร์ตสินเชื่อทั้งหมดของบริษัท ทริสเรทติ้งยังมองว่าสภาพเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงอาจทำให้สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มสูงขึ้นหากไม่มีการจัดการที่ดีพอ

ความไม่สอดคล้องกันของสินทรัพย์และหนี้สิน

บริษัทมีความไม่สอดคล้องกันในด้านอายุเฉลี่ยของโครงสร้างสินทรัพย์และหนี้สิน โดยบริษัทมีอายุเฉลี่ยของสินเชื่อที่ 42 ถึง 48 เดือน ในขณะที่บริษัทพึ่งพิงการกู้ยืมระยะสั้นเพื่อรักษาต้นทุนทางการเงินให้อยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งเชื่อว่าความไม่สอดคล้องกันในอายุเฉลี่ยของสินทรัพย์และหนี้สินดังกล่าวไม่ได้เป็นประเด็นที่น่ากังวลนัก เนื่องจากเชื่อว่าบริษัทยังมีวงเงินที่เพียงพอซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นใหญ่ในการลดความเสี่ยงด้านสภาพคล่องในระยะสั้นได้

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

ทริสเรทติ้งตั้งสมมติฐานกรณีพื้นฐานสำหรับการดำเนินงานของบริษัทในระหว่างปี 2563-2565 ดังนี้

• สินเชื่อใหม่ ทั้งสัญญาเช่าซื้อและเช่าการเงินของบริษัทจะเติบโต 5%-10% ต่อปี

• สัญญาเช่าดำเนินงานใหม่จะคงที่ในระดับเดิม

• อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ต่ำกว่า 3 เท่า

• อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยของดอกเบี้ยรับจะอยู่ที่ระดับ 6%-7%%

• ค่าใช้จ่ายทางด้านเครดิตอยู่ที่ระดับประมาณ 3% ในปี 2563 เพื่อรองรับมาตราฐานบัญชีใหม่ TFRS9 และต่ำกว่า 1% ในปีต่อไป

• ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้รวมอยู่ระหว่าง 42%-44% ต่อปี

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงได้รับการสนับสนุนทางการเงินอย่างต่อเนื่องจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ไปพร้อม ๆ กับการเพิ่มความหลากหลายของแหล่งเงินกู้ไปด้วย การพิจารณาแนวโน้มอันดับเครดิตยังรวมไปถึงความคาดหมายที่บริษัทจะยังคงฐานทุนที่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะรองรับความเสี่ยงจากคุณภาพสินทรัพย์ที่เสื่อมถอย และบริษัทจะมีผลประกอบการทางการเงินตามที่ทริสเรทติ้งคาดการณ์ไว้ด้วย

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจปรับลดลงได้หากบริษัทมีการเสื่อมถอยอย่างมีนัยสำคัญของฐานทุน อัตราการก่อหนี้และสถานะความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น การลดอันดับเครดิตอาจเกิดขึ้นได้ในกรณีที่อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากหรือคุณภาพสินทรัพย์ถดถอยลงอย่างมีนัยสำคัญ

ในขณะเดียวกัน อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจปรับเพิ่มขึ้นได้หากสถานะทางการตลาดและ/หรือผลประกอบการทางการเงินปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งอาจปรับเพิ่มอันดับเครดิตหากบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากบริษัทมีสถานะเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจการเงินของธนาคารกรุงเทพภายใต้การกำกับดูแลแบบรวมกลุ่มของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งอันดับเครดิตของบริษัทมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นจากการคาดว่าจะได้รับการสนับสนุนที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มธนาคารกรุงเทพ

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- การจัดอันดับเครดิตบริษัทให้สินเชื่อที่ไม่ใช่ธนาคาร, 7 พฤษภาคม 2561

บริษัท บีเอสแอล ลีสซิ่ง จำกัด (BSL)

อันดับเครดิตองค์กร: BBB

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2563 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ