ทริสเรทติ้งประกาศ “เครดิตพินิจ” แนวโน้ม “Negative” หรือ “ลบ” สำหรับอันดับเครดิตองค์กรระดับ “BB” ของ บริษัท
แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) โดยเครดิตพินิจสะท้อนความกังวลของทริสเรทติ้งเกี่ยวกับผลกระทบที่รุนแรงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 (COVID-19) ที่จะมีต่อผลการดำเนินงานและสภาพคล่องของบริษัทในช่วงที่เหลือของปี 2563
ธุรกิจโรงแรมได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากอัตราการเข้าพักที่คาดว่าจะลดลงอย่างมากจากผลของมาตรการของภาครัฐที่ห้ามและจำกัดการเดินทางของประชาชนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส อีกทั้งการแพร่ระบาดยังมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมซึ่งในที่สุดจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าการแพร่ระบาดนี้จะมีผลกระทบที่รุนแรงต่อรายได้และกระแสเงินสดของบริษัท อีกทั้งจะกดดันสภาพคล่องของบริษัทในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
อัตราการเข้าพักโรงแรมของบริษัทในภาพรวมปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 50% ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราประมาณ 77% ในปี 2562 ในการนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราการเข้าพักจะลดลงอย่างมากในช่วงครึ่งหลังของเดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นไปตราบที่สถานการณ์การแพร่ระบาดยังคงดำรงอยู่
บริษัทมีระดับหนี้สินที่สูงอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดและมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอีกจากผลกระทบของการแพร่ระบาดที่มีต่อการดำเนินงานของบริษัท โดยบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนอยู่ที่ระดับ 66% และอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่ระดับ 11.5 เท่าในปี 2562 ระดับหนี้สินที่สูงเป็นผลจากการเข้าซื้อกิจการโรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน และการลงทุนในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ทริสเรทติ้งคาดว่าในปี 2563 กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทมีโอกาสที่จะลดลงอย่างมากซึ่งจะส่งผลทำให้อัตราส่วนหนี้สินของบริษัทเพิ่มระดับสูงขึ้น
ทริสเรทติ้งประเมินว่าบริษัทจะมีสภาพคล่องที่ตึงตัวในระยะใกล้นี้ โดยบริษัทมีหนี้ที่จะครบกำหนดชำระในช่วงที่เหลือของปี 2563 ประกอบไปด้วยเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงินจำนวน 120 ล้านบาทและหุ้นกู้จำนวน 1.1 พันล้านบาท ในขณะที่แหล่งสภาพคล่องของบริษัทประกอบด้วยวงเงินกู้จากสถาบันการเงินจำนวนประมาณ 330 ล้านบาทและเงินสดที่ติดภาระค้ำประกันแต่คาดว่าจะปลอดภาระในเดือนเมษายน 2563 ที่ประมาณ 800 ล้านบาท ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการขอวงเงินสินเชื่อเพิ่มเติมเป็นจำนวนประมาณ 1.4 พันล้านบาทจากสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง ในการนี้ ทริสเรทติ้งพิจารณาเห็นว่าบริษัทอาจประสบกับภาวะขาดสภาพคล่องในกรณีที่การแพร่ระบาดของไวรัสยืดเยื้อออกไปและตลาดตราสารหนี้อยู่ในสภาวะที่ผู้ลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเป็นเวลานาน
หุ้นกู้ของบริษัทมีเงื่อนไขให้บริษัทต้องดำรงอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนไม่เกิน 3 เท่า โดย ณ สิ้นปี 2562 บริษัทมีอัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ 1.6 เท่า ทริสเรทติ้งพิจารณาเห็นว่าบริษัทมีส่วนเผื่อสำหรับเงื่อนไขทางการเงินที่เพียงพอในกรณีที่การแพร่ระบาดของไวรัสสามารถควบคุมได้ในช่วงกลางปี 2563
ทริสเรทติ้งอาจปรับลดอันดับเครดิต/แนวโน้มอันดับเครดิตลงหากสถานการณ์การแพร่ระบาดเป็นไปในทิศทางที่ทำให้ทริสเรทติ้งเชื่อว่าอุตสาหกรรมโรงแรมจะไม่น่าฟื้นตัวได้ภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังอาจจะปรับลดอันดับเครดิตของบริษัทลงหากสภาพคล่องของบริษัทลดลงเร็วกว่าที่ทริสเรทติ้งคาดการณ์
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562
- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงิน, 5 กันยายน 2561
บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (GRAND)
อันดับเครดิตองค์กร: BB
แนวโน้มเครดิตพินิจ: Negative