ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนของบริษัทที่ระดับ “BBB+” นอกจากนี้
ทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 1 หมื่นล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “A” ด้วย โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ชำระคืนเงินกู้เดิมของบริษัท รวมถึงเพื่อการขยายธุรกิจและเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทด้วย
อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแกร่งของบริษัทในธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน รวมถึงสถานะทางการตลาดที่มั่นคงในธุรกิจการตลาดเชื้อเพลิง และประโยชน์ที่ได้รับจากการกระจายความหลากหลายของธุรกิจ ในทางตรงข้าม อันดับเครดิตถูกลดทอนลงบางส่วนจากความผันผวนของราคาน้ำมันและการเพิ่มขึ้นของภาระหนี้เพื่อสนับสนุนการลงทุนของบริษัท
สำหรับปี 2562 บริษัทมีผลการดำเนินงานเป็นไปตามประมาณการของทริสเรทติ้ง โดยบริษัทมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย ทั้งสิ้น 9.9 พันล้านบาท ในขณะที่มีหนี้สินทางการเงินที่ปรับปรุงแล้วจำนวน 5.37 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นปี 2562 ดังนั้น อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายของบริษัทอยู่ที่ 5.4 เท่า ณ สิ้นปี 2562
จากสถานการณ์ในปัจจุบันสำหรับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) ได้เพิ่มแรงกดดันให้แก่ค่าการกลั่น เนื่องจากความต้องการใช้เชื้อเพลิงมีแนวโน้มลดลง นอกจากนี้ สงครามราคาน้ำมันที่เกิดขึ้นเป็นเหตุให้ราคาน้ำมันดิบลดลงอย่างมากในเดือนมีนาคม 2563 ดังนั้นบริษัทอาจจะต้องรับรู้ขาดทุนจากสินค้าคงคลัง (Inventory Loss) อย่างมากในไตรมาสที่ 1 ของปี 2563 เช่นเดียวกับโรงกลั่นน้ำมันอื่น ๆ ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งมองว่าราคาน้ำมันดิบน่าจะอยู่ในระดับต่ำในระยะสั้นและจะเริ่มกลับเพิ่มสูงขึ้นในปี 2564 เป็นต้นไป นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดว่าบริษัทจะปรับลดค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนลงหากการแพร่ระบาดยังคงยืดเยื้อออกไป เพื่อรักษากระแสเงินสดให้เพียงพอต่อการชำระคืนหนี้เงินกู้
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถดำรงสถานะที่แข็งแกร่งในธุรกิจกลั่นน้ำมันและธุรกิจการตลาดของบริษัทเอาไว้ได้ ในขณะที่การลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้านั้นคาดว่าจะสร้างกระแสเงินสดที่แน่นอนให้แก่บริษัทซึ่งจะช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาน้ำมันได้บางส่วน
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
ปัจจัยที่มีผลในเชิงบวกต่ออันดับเครดิตของบริษัท ได้แก่ การที่บริษัทสามารถเพิ่มกระแสเงินสดจำนวนมากได้อย่างสม่ำเสมอจากการกระจายธุรกิจโดยที่ไม่ส่งผลกระทบทำให้โครงสร้างเงินทุนของบริษัทอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่ปัจจัยที่มีผลในเชิงลบต่ออันดับเครดิตอาจเกิดขึ้นจากการที่โครงสร้างเงินทุนของบริษัทอ่อนแอลงอย่างมากจากการลงทุนขนาดใหญ่โดยการก่อหนี้เป็นหลัก หรือการที่บริษัทประสบผลขาดทุนอย่างมากจากการดำเนินงานหรือจากการลงทุน
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน (Hybrid Securities), 12 กันยายน 2561
- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงิน, 5 กันยายน 2561
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BCP)
อันดับเครดิตองค์กร: A
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
BCP208A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A
BCP214A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A
BCP224A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A
BCP238A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 400 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A
BCP244A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A
BCP258A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A
BCP273A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2570 A
BCP28DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 7,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2571 A
BCP303A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2573 A
BCP19PA: หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุน 10,000 ล้านบาท BBB+
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 10,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 10 ปี A
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable