ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB-” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “BBB-” ในขณะเดียวกันยังได้จัดอันดับเครดิตให้แก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 3.65 พันล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “BBB-” ด้วย โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้รับจากการออกหุ้นกู้ดังกล่าวไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและขยายธุรกิจ
อันดับเครดิต “BBB-” สะท้อนถึงสถานะผู้นำของบริษัทในอุตสาหกรรมการผลิตกระดาษพิมพ์เขียนของไทยและความแข็งแกร่งของตราสัญลักษณ์ผลิตภัณฑ์ “ดั๊บเบิ้ล เอ” อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากลักษณะที่เป็นวงจรขึ้นลงของอุตสาหกรรมการผลิตเยื่อกระดาษและกระดาษ อุปสงค์ของกระดาษพิมพ์เขียนในระดับโลกและในประเทศที่ชะลอตัว รวมถึงการปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัทที่กำลังดำเนินอยู่
ผลการดำเนินงานของบริษัทปรับตัวดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายของบริษัททำสถิติสูงสุดใหม่ที่ประมาณ 5.4 พันล้านบาทในปี 2562 อัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากต่ำสุดที่ระดับ 8.2% ในปี 2559 มาระดับสูงสุดที่ 27.9% ในปี 2562
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กำลังทำให้ความต้องการกระดาษทั่วโลกลดต่ำลง ขณะที่การทำงานจากที่บ้านก็อาจเร่งพฤติกรรมของผู้บริโภคให้หันไปนิยมใช้สื่อดิจิตอลเร็วขึ้นกว่าเดิมด้วยเช่นกัน โดยในเบื้องต้นนั้นทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้ของบริษัทอาจลดลงเกือบ 30% มาอยู่ที่ประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาทในปี 2563 ก่อนที่จะฟื้นตัวในปี 2564 อัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ของบริษัทน่าจะอยู่ที่ประมาณ 20% ในช่วงปี 2563-2565
ทริสเรทติ้งยังคงมุมมองว่าบริษัทจะสามารถจัดการกับสภาพคล่องได้อย่างเพียงพอแม้คาดหมายว่ากำไรและกระแสเงินสดจะลดลงในปี 2563 ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 บริษัทมีวงเงินกู้ที่ยังไม่ได้เบิกใช้รวมกับเงินสดและหลักทรัพย์ในความต้องการของตลาดอยู่ที่ประมาณ 6.9 พันล้านบาท ซึ่งแหล่งเงินสดดังกล่าวน่าจะเพียงพอในการรองรับหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในช่วงที่เหลือของปี 2563 จำนวนรวม 1.6 พันล้านบาทได้ทั้งหมด
หุ้นกู้ของบริษัทมีข้อกำหนดในการดำรงอัตราส่วนทางการเงินในส่วนของอัตราส่วนเงินกู้ที่มีดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนทุนที่ระดับไม่เกิน 2 เท่า ขณะที่อัตราส่วนดังกล่าว ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 อยู่ที่ 1.2 เท่า ทริสเรทติ้งเชื่อว่าบริษัทจะสามารถปฏิบัติได้ตามข้อกำหนดนี้ได้ตลอดช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงรักษาความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจการผลิตกระดาษพิมพ์เขียนเอาไว้ได้และการปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัทจะไม่ทำให้สถานะทางการเงินของบริษัทด้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
การเพิ่มอันดับเครดิตอาจเกิดขึ้นได้หากผลกำไรของบริษัทยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและการปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัทไม่ทำให้กระแสเงินสดและสถานะทางการเงินของบริษัทอ่อนแอลง ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิต และ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจปรับลดลงได้หากผลการดำเนินงานของบริษัทและกระแสเงินสดลดลงจากการคาดการณ์อย่างมีนัยสำคัญหรือหากโครงสร้างเงินทุนของบริษัทอ่อนแอกว่าที่คาดไว้ ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขวิธีการจัดอันดับเครดิตแบบกลุ่ม (Group Rating Methodology) ของทริสเรทติ้ง สถานะเครดิตของกลุ่มบริษัทและสมาชิกในกลุ่มบริษัทจะมีผลกระทบต่ออันดับเครดิตองค์กรและอันดับเครดิตตราสารหนี้ของบริษัทด้วยเช่นกัน
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562
- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงิน, 5 กันยายน 2561
- Group Rating Methodology, 10 กรกฎาคม 2558
บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) (DA)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
DA241A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,350 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 BBB-
DA235A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 BBB-
DA252A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 BBB-
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 3,650 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 10 ปี BBB-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable