ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “AA” ในขณะเดียวกัน
ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 5 พันล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “AA” ด้วย ทั้งนี้ อันดับเครดิตของหุ้นกู้ชุดใหม่ใช้แทนอันดับเครดิตหุ้นกู้เดิมที่ได้รับการจัดอันดับเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2562 เนื่องจากบริษัทเพิ่มอายุของหุ้นกู้เป็นไถ่ถอนภายใน 15 ปี จากเดิมไถ่ถอนภายใน 10 ปี โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ไปใช้คืนหนี้และใช้เป็นเงินเพื่อการลงทุน
อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงสถานะของบริษัทในการเป็นบริษัทโฮลดิ้งหลักของกลุ่มสหพัฒน์ ตลอดจนการลงทุนที่หลากหลายในบริษัทด้านสินค้าอุปโภคบริโภคภายในกลุ่มสหพัฒน์ และการมีเครือข่ายที่เข้มแข็ง ทั้งนี้ การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงการมีรายได้จากเงินปันผลที่สม่ำเสมอ นโยบายทางธุรกิจที่ระมัดระวัง และความยืดหยุ่นทางการเงินที่เข้มแข็งของบริษัทอีกด้วย
ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต
เป็นหนึ่งในบริษัทโฮลดิ้งหลักของกลุ่มสหพัฒน์
บริษัทสหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้งเป็นบริษัทโฮลดิ้งหลักของกลุ่มสหพัฒน์ โดยกลุ่มสหพัฒน์เป็นกลุ่มบริษัทด้านสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศไทยซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าหลายประเภทภายใต้ตราสินค้าชั้นนำมากมายในตลาดที่หลากหลาย อาทิ มาม่า วาโก้ เปา เอสเซ้นซ์ มิสทีน ฯลฯ ทั้งนี้ กลุ่มสหพัฒน์ได้พัฒนาเครือข่ายห่วงโซ่อุปทานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งแบบครบวงจรตั้งแต่กระบวนการจัดหาวัตถุดิบไปจนถึงการผลิตและการจัดจำหน่าย
บริษัทเป็นผู้ดำเนินธุรกิจสวนอุตสาหกรรมของกลุ่มสหพัฒน์ซึ่งให้บริการสาธารณูปโภคและบริการอื่น ๆ แก่บริษัทต่าง ๆ ที่ประกอบการในสวนอุตสาหกรรมดังกล่าว นอกจากนี้ บริษัทยังทำหน้าที่เป็นบริษัทโฮลดิ้งซึ่งถือหุ้นในบริษัทต่าง ๆ ในกลุ่มสหพัฒน์อีกด้วย
มีการลงทุนที่หลากหลาย
บริษัทสหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้งมีการลงทุนที่หลากหลายและกระจายตัวเป็นอย่างดี ณ เดือนมีนาคม 2563 บริษัทมีการลงทุนในบริษัทต่าง ๆ จำนวน 183 แห่งซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่อยู่ในกลุ่มสหพัฒน์ การลงทุนของบริษัทครอบคลุมในหลากหลายกลุ่มธุรกิจ เช่น อาหารและเครื่องดื่ม เสื้อผ้า เครื่องสำอาง สินค้าอุปโภคบริโภค และอื่น ๆ ในปี 2562 บริษัทมีเงินปันผลรับจากกลุ่มบริษัทด้านอาหารและเครื่องดื่มคิดเป็น 41% ของกระแสเงินสดรวมของบริษัท ในขณะที่เงินปันผลจากกลุ่มบริษัทด้านสินค้าอุปโภคบริโภค เสื้อผ้า และเครื่องสำอางมีสัดส่วน 21% 16% และ 14% ตามลำดับ
กลุ่มสหพัฒน์มักจะร่วมลงทุนกับพันธมิตรต่าง ๆ และได้สร้างความสัมพันธ์ที่ยาวนานกับหุ้นส่วนทางธุรกิจจำนวนมากทั้งที่เป็นชาวไทยและชาวต่างประเทศ การร่วมลงทุนกับหุ้นส่วนทางธุรกิจจะช่วยลดภาระการลงทุนเริ่มต้นของบริษัทและช่วยให้บริษัทได้รับการสนับสนุนจากผู้ร่วมลงทุน อีกทั้งยังช่วยให้บริษัทสามารถขยายการลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง การมีพันธมิตรทางธุรกิจที่หลากหลายยังช่วยลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงพันธมิตรทางธุรกิจเพียงรายใดรายหนึ่งได้อีกด้วย
ไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบปานกลางต่อเงินปันผลรับ
ทริสเรทติ้งคาดว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบปานกลางต่อเงินปันผลรับ โดยกระแสเงินสดหลักของบริษัทมาจากเงินปันผลจากการลงทุน สำหรับปี 2563 ทริสเรทติ้งคาดว่าผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบทางลบในบางธุรกิจของกลุ่มสหพัฒน์โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องสำอางและสินค้าแฟชั่น อย่างไรก็ตาม ในบางธุรกิจเช่นอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคจะได้รับผลกระทบที่น้อยกว่า หรืออาจมีผลประกอบการที่ดีในช่วงที่มีมาตรการปิดเมืองเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ทริสเรทติ้งคาดว่าธุรกิจของกลุ่มสหพัฒน์จะค่อย ๆ ฟื้นตัวเมื่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สามารถควบคุมได้ในวงกว้างในช่วงสิ้นครึ่งแรกของปี 2563 ดังนั้น ทริสเรทติ้งคาดว่าเงินปันผลรับที่บริษัทได้รับจากการลงทุนจะไม่เปลี่ยนแปลงในปี 2563 และจะเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 5% ในช่วงปี 2564-2565
งบดุลยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง
บริษัทยังคงมีงบดุลอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง ณ เดือนมีนาคม 2563 เงินกู้รวมของบริษัทอยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท โดยอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนของบริษัทปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 21.1% เมื่อเทียบกับระดับ 25.0% ในปี 2561 โดยอัตราส่วนที่ปรับดีขึ้นเนื่องจากการเพิ่มขึ้นอย่างมากของส่วนของผู้ถือหุ้นตามการปรับมูลค่าของเงินลงทุน ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนของบริษัทจะยังคงอยู่ที่ระดับระหว่าง 20%-25% ในช่วงปี 2563-2565
มีสถานะสภาพคล่องที่เพียงพอและมีความยืดหยุ่นสูง
ทริสเรทติ้งประเมินว่าสภาพคล่องของบริษัทยังคงมีเพียงพอในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2563 บริษัทมีแหล่งเงินทุนซึ่งประกอบด้วยเงินสดจำนวน 165 ล้านบาทและเงินลงทุนชั่วคราวจำนวน 278 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังมีวงเงินกู้ที่ยังไม่ได้เบิกใช้อีกจำนวน 4 พันล้านบาทจากสถาบันการเงินหลายแห่ง ทริสเรทติ้งคาดว่าในระหว่างปี 2563-2565 บริษัทจะมีเงินทุนจากการดำเนินงานประมาณ 1.3-1.5 พันล้านบาทต่อปี ภาระในการชำระหนี้ในช่วง 12 เดือนข้างหน้าของบริษัทประกอบไปด้วยหนี้ระยะยาวจำนวน 992 ล้านบาทและหนี้ระยะสั้นจำนวน 3 พันล้านบาท โดยในปี 2563 บริษัทมีงบลงทุนประมาณ 2.2 พันล้านบาท โดยบริษัทอยู่ในกระบวนการออกหุ้นกู้จำนวน 5 พันล้านบาทเพื่อชำระคืนหนี้ระยะสั้นและสำหรับเงินลงทุน ความยืดหยุ่นทางการเงินของบริษัทได้รับการสนับสนุนจากการลงทุนที่มีสภาพคล่อง ทั้งนี้ มูลค่าตลาดของเงินลงทุนของบริษัทในบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั้ง 52 แห่งคิดเป็น 3.4 หมื่นล้านบาท ณ เดือนมีนาคม 2563 โดยมูลค่าเงินลงทุนของบริษัทคิดเป็นมากว่า 3 เท่าของเงินกู้รวมคงค้างของบริษัท
สมมติฐานกรณีพื้นฐาน
ในระหว่างปี 2563-2565 ทริสเรทติ้งมีสมมติฐานดังต่อไปนี้
• รายได้ค่าสาธารณูปโภครับจะไม่เปลี่ยนแปลงในช่วงประมาณการในขณะที่รายได้จากการขายที่ดินจะอยู่ประมาณ 350 ล้านบาทต่อปี
• ส่วนแบ่งกำไรจาเงินลงทุนในบริษัทร่วมจะไม่เปลี่ยนแปลงในปี 2563 และเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 3% ในช่วงปี 2564-2565
• อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ 50%-60%
• งบลงทุนรวมทั้งหมดของบริษัทจะอยู่ที่ 4 พันล้านบาทในช่วงประมาณการ
• อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนของบริษัทคาดว่าจะอยู่ระหว่าง 20%-25%
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะได้รับเงินปันผลที่แน่นอนจากธุรกิจในกลุ่มสหพัฒน์
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
อันดับเครดิตอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ ในกลุ่มสหพัฒน์ปรับตัวดีขึ้นเป็นอย่างมากซึ่งจะช่วยเพิ่มกระแสเงินสดให้แก่บริษัทอย่างมีนัยสำคัญ ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิตอาจลดลงหากรายได้จากเงินปันผลของบริษัทลดลงอย่างมากจากผลการดำเนินงานที่อ่อนแอของบริษัทในเครือของกลุ่มสหพัฒน์ หรือบริษัทมีนโยบายก่อหนี้จำนวนมาก
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562
- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงิน, 5 กันยายน 2561
บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (SPI)
อันดับเครดิตองค์กร: AA
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 15 ปี AA
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable