แท็ก
ผลิตไฟฟ้า
ทริส พิจารณาผลทบทวนการจัดอันดับการกำกับดูแลกิจการของ บมจ. ผลิตไฟฟ้า ได้คะแนนรวม 8.05 ระดับ “ดีมาก” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการรักษาวัฒนธรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดีภายในบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้ปรับปรุงและพัฒนาการปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการในบางส่วนได้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกณฑ์สิทธิของผู้ถือหุ้น
ทริสกล่าวว่า ด้านสิทธิผู้ถือหุ้น ( 7.73 คะแนน) นั้น บริษัทได้ปรับปรุงดีขึ้นจากปีที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในเรื่องกลไกการให้ผู้ถือหุ้นสามารถใช้สิทธิออกเสียงได้อย่างเต็มที่ บริษัทให้สารสนเทศที่มีรายละเอียดชัดเจนขึ้นและครบถ้วนตามกฎหมายแก่ผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาล่วงหน้าก่อนการประชุม มีการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ถือหุ้นมากขึ้นโดยเสนอให้กรรมการอิสระของบริษัทจำนวน 6 ท่าน รับมอบฉันทะในการลงคะแนนเสียงแทนผู้ถือหุ้นที่ไม่สะดวกเข้าร่วมประชุมในวันประชุมผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ บริษัทยังจัดประชุมผู้ถือหุ้นได้ในเกณฑ์ดี การลงคะแนนเสียงเป็นไปตามระเบียบวาระที่กำหนดในหนังสือเชิญประชุม มีการเปิดเผยคะแนนเสียงที่เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย และงดออกเสียง รวมทั้งจัดทำรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นได้อย่างมีสาระสำคัญครบถ้วน
บริษัทยังคงรักษาวัฒนธรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัท (8.37 คะแนน)ได้อย่างต่อเนื่อง โดยคณะกรรมการบริษัทมีมติให้ วัฒนธรรมองค์กรและการปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี เป็นข้อหนึ่งในกรอบแผนธุรกิจของบริษัทประจำปี 2547-2551 และกำหนดให้การกำกับดูแลกิจการที่ดีเป็นตัวชี้วัดหนึ่งในระดับบริษัท (Corporate KPIs) นอกจากนี้ “คณะทำงานกำกับดูแลกิจการที่ดี” ได้จัดทำฐานข้อมูลการกำกับดูแลกิจการที่ดี และมีการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้พนักงานมีความเข้าใจมากขึ้นในเรื่องการกำกับดูแลกิจการที่ดี อย่างไรก็ตาม บริษัทยังสามารถปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นได้ โดยเฉพาะในส่วนของ “จรรยาบรรณทางธุรกิจของคณะกรรมการ” และ “จรรยาบรรณทางธุรกิจของพนักงาน” ให้มีเนื้อหาที่ครอบคลุมถึงวิธีการปฏิบัติที่ดีต่อผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทด้วย
ทริสกล่าวต่อไปอีกว่า องค์ประกอบและบทบาทของคณะกรรมการและคณะผู้บริหาร (7.62 คะแนน) บริษัทมีองค์ประกอบของกรรมการที่แสดงถึงการถ่วงดุลที่ดีขึ้น คือ มีกรรมการอิสระเพิ่มขึ้น 2 ท่าน และกรรมการที่ไม่ใช่ผู้บริหาร (Non-Executive Director) มีมากกว่ากึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมด โดยคณะกรรมการบริษัทได้มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายและแผนงานของบริษัท อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 2 รายของบริษัท คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และบริษัท ซีแอลพี เพาเวอร์ โปรเจ็คส์ (ประเทศไทย) จำกัด ยังคงมีบทบาทสำคัญในการกำหนดสัดส่วนจำนวนกรรมการและบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัท
สำหรับการเปิดเผยข้อมูล (8.80 คะแนน)นั้น บริษัทเปิดเผยข้อมูลทั้งทางการเงินและที่ไม่ใช่ทางการเงิน (Non-Financial) ได้ในเกณฑ์ดี แต่คะแนนที่ได้ลดลงเล็กน้อย ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ทริสได้เปรียบเทียบแนวปฏิบัติของบริษัทกับแนวปฏิบัติในเรื่องเดียวกันกับบริษัทจดทะเบียนอื่นๆ ซึ่งต่างก็ได้พัฒนาการปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีอย่างต่อเนื่อง จึงมีผลให้แนวปฏิบัติที่ดีที่สุด (Best Practices) ในแต่ละเรื่องได้รับการปรับมาตรฐานให้สูงขึ้นตามลำดับ
ทริสคาดว่า จะยังคงมีบริษัทเข้ามารับการจัดอันดับฯอย่างต่อเนื่อง จากการขยายระยะเวลาการให้สิทธิประโยชน์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกไปอีก 1 ปี -- จบ
ทริสกล่าวว่า ด้านสิทธิผู้ถือหุ้น ( 7.73 คะแนน) นั้น บริษัทได้ปรับปรุงดีขึ้นจากปีที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในเรื่องกลไกการให้ผู้ถือหุ้นสามารถใช้สิทธิออกเสียงได้อย่างเต็มที่ บริษัทให้สารสนเทศที่มีรายละเอียดชัดเจนขึ้นและครบถ้วนตามกฎหมายแก่ผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาล่วงหน้าก่อนการประชุม มีการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ถือหุ้นมากขึ้นโดยเสนอให้กรรมการอิสระของบริษัทจำนวน 6 ท่าน รับมอบฉันทะในการลงคะแนนเสียงแทนผู้ถือหุ้นที่ไม่สะดวกเข้าร่วมประชุมในวันประชุมผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ บริษัทยังจัดประชุมผู้ถือหุ้นได้ในเกณฑ์ดี การลงคะแนนเสียงเป็นไปตามระเบียบวาระที่กำหนดในหนังสือเชิญประชุม มีการเปิดเผยคะแนนเสียงที่เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย และงดออกเสียง รวมทั้งจัดทำรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นได้อย่างมีสาระสำคัญครบถ้วน
บริษัทยังคงรักษาวัฒนธรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัท (8.37 คะแนน)ได้อย่างต่อเนื่อง โดยคณะกรรมการบริษัทมีมติให้ วัฒนธรรมองค์กรและการปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี เป็นข้อหนึ่งในกรอบแผนธุรกิจของบริษัทประจำปี 2547-2551 และกำหนดให้การกำกับดูแลกิจการที่ดีเป็นตัวชี้วัดหนึ่งในระดับบริษัท (Corporate KPIs) นอกจากนี้ “คณะทำงานกำกับดูแลกิจการที่ดี” ได้จัดทำฐานข้อมูลการกำกับดูแลกิจการที่ดี และมีการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้พนักงานมีความเข้าใจมากขึ้นในเรื่องการกำกับดูแลกิจการที่ดี อย่างไรก็ตาม บริษัทยังสามารถปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นได้ โดยเฉพาะในส่วนของ “จรรยาบรรณทางธุรกิจของคณะกรรมการ” และ “จรรยาบรรณทางธุรกิจของพนักงาน” ให้มีเนื้อหาที่ครอบคลุมถึงวิธีการปฏิบัติที่ดีต่อผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทด้วย
ทริสกล่าวต่อไปอีกว่า องค์ประกอบและบทบาทของคณะกรรมการและคณะผู้บริหาร (7.62 คะแนน) บริษัทมีองค์ประกอบของกรรมการที่แสดงถึงการถ่วงดุลที่ดีขึ้น คือ มีกรรมการอิสระเพิ่มขึ้น 2 ท่าน และกรรมการที่ไม่ใช่ผู้บริหาร (Non-Executive Director) มีมากกว่ากึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมด โดยคณะกรรมการบริษัทได้มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายและแผนงานของบริษัท อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 2 รายของบริษัท คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และบริษัท ซีแอลพี เพาเวอร์ โปรเจ็คส์ (ประเทศไทย) จำกัด ยังคงมีบทบาทสำคัญในการกำหนดสัดส่วนจำนวนกรรมการและบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัท
สำหรับการเปิดเผยข้อมูล (8.80 คะแนน)นั้น บริษัทเปิดเผยข้อมูลทั้งทางการเงินและที่ไม่ใช่ทางการเงิน (Non-Financial) ได้ในเกณฑ์ดี แต่คะแนนที่ได้ลดลงเล็กน้อย ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ทริสได้เปรียบเทียบแนวปฏิบัติของบริษัทกับแนวปฏิบัติในเรื่องเดียวกันกับบริษัทจดทะเบียนอื่นๆ ซึ่งต่างก็ได้พัฒนาการปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีอย่างต่อเนื่อง จึงมีผลให้แนวปฏิบัติที่ดีที่สุด (Best Practices) ในแต่ละเรื่องได้รับการปรับมาตรฐานให้สูงขึ้นตามลำดับ
ทริสคาดว่า จะยังคงมีบริษัทเข้ามารับการจัดอันดับฯอย่างต่อเนื่อง จากการขยายระยะเวลาการให้สิทธิประโยชน์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกไปอีก 1 ปี -- จบ