ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกัน “บ. บางกอกมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ลิส” ที่ “AAA” แนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 22, 2020 15:46 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันของ บริษัท บางกอกมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ลิส จำกัด ที่ระดับ “AAA” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” โดยหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการค้ำประกันเต็มจำนวนโดยบริษัทแม่ของบริษัทในประเทศญี่ปุ่นคือ Mitsubishi UFJ Lease and Finance Co., Ltd. (MUL) ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตในระดับ “A-/Stable” จาก

S&P Global Ratings ทั้งนี้ อันดับเครดิตของหุ้นกู้ดังกล่าวอยู่บนพื้นฐานคุณภาพเครดิตของผู้ค้ำประกันซึ่งค้ำประกันหุ้นกู้แบบไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

เป็นการค้ำประกันแบบไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้

ภายใต้ข้อตกลงการค้ำประกันซึ่งบังคับใช้ภายใต้กฎหมายของประเทศญี่ปุ่นระบุว่า ผู้ค้ำประกันจะให้การค้ำประกันเต็มจำนวนแบบไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้สำหรับหุ้นกู้ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตดังกล่าว โดยผู้ค้ำประกันพร้อมที่จะชำระหนี้ให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ภายใต้ข้อตกลงการค้ำประกันในกรณีที่บริษัทบางกอกมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ลิส ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด

นอกจากนี้ หากมีการควบรวมหรือการครอบงำกิจการของ MUL บริษัทใหม่ที่เกิดขึ้นหลังการควบรวมกิจการหรือบริษัทที่เข้าครอบงำกิจการของ MUL จะต้องยอมรับข้อผูกพันในการค้ำประกันหุ้นกู้ดังกล่าวด้วย ในกรณีที่ MUL ไม่สามารถจ่ายชำระหนี้ได้ตามกำหนดหลังจากได้รับหนังสือบอกกล่าวแล้ว ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้สามารถดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ค้ำประกัน ณ ศาลในประเทศญี่ปุ่นเพื่อฟ้องร้องเรียกเงินที่ผิดนัดชำระคืนได้ อนึ่ง ภาระการค้ำประกันนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขหรือเพิกถอนได้โดยปราศจากฉันทามติจากผู้ถือหุ้นกู้

MUL จะยังคงได้รับการสนับสนุนจาก MUFG และ MC

ทริสเรทติ้งคาดหวังว่า Mitsubishi UFJ Financial Group Inc. (MUFG) และ Mitsubishi Corporation (MC) จะยังคงให้การสนับสนุนแก่ธุรกิจของ MUL อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เนื่องจากทริสเรทติ้งมีมุมมองว่า MUL เป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญในเชิง

กลยุทธ์ของกลุ่ม MUFG ซึ่ง กลุ่ม MUFG ถือหุ้นในสัดส่วน 23% และ MC ยังถือหุ้นในสัดส่วน 20% อีกด้วย

MUL มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งและกว้างขวางยิ่งขึ้นซึ่งส่งต่อมาจาก MUFG และ MC ความเชี่ยวชาญและเครือข่ายลูกค้าจาก MUFG และ MC มีส่วนช่วยในการขยายธุรกิจของบริษัทซึ่งประกอบด้วยธุรกิจให้บริการทางการเงินและธุรกิจเช่าซื้อหรือลีสซิ่งทั้งในและต่างประเทศ รวมไปถึงธุรกิจขนส่ง อสังหาริมทรัพย์ การบิน สิ่งแวดล้อมและพลังงาน การดูแลสุขภาพ ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐาน

การกระจายตัวของธุรกิจช่วยรักษาความสามารถในการทำกำไร

MUL สามารถทำกำไรได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ในแผนธุรกิจระยะปานกลางระหว่างปี 2560-2562 โดยบริษัทมีกำไรสุทธิ 7.07 หมื่นล้านเยนในปีบัญชี 2562 สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2563 (1 เมษายน 2562 - 31 มีนาคม 2563) เพิ่มขึ้น 2.8% จากปีบัญชี 2561 การขยายตัวของธุรกิจนั้นมาจากการลงทุนอย่างต่อเนื่องในประเทศที่หลากหลายและต่างอุตสาหกรรม เช่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจให้บริการทางการเงินในประเทศสหรัฐอเมริกา และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ส่วนการขยายธุรกิจ

ลีสซิ่งไปในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องนั้นก็ส่งผลทำให้สินทรัพย์ดำเนินงานของบริษัทขยายฐานเพิ่มขึ้น โดย ณ เดือนมีนาคม 2563 สินทรัพย์ดำเนินงานของ MUL มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 5.2 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น 3.6% จากช่วงเดียวกันของปีบัญชีก่อนหน้า ซึ่งในจำนวนนี้เป็นสินทรัพย์ดำเนินงานของบริษัทลูกที่อยู่ในต่างประเทศในสัดส่วน 39% ของสินทรัพย์ดำเนินงานทั้งหมดของ MUL โดยเพิ่มขึ้นระดับ 37% ในปีบัญชีก่อนหน้า

เมื่อเร็ว ๆ นี้ MUL ได้ประกาศแผนธุรกิจระยะปานกลางสำหรับปี 2563-2565 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนธุรกิจระยะยาว 10 ปีของบริษัท โดยบริษัทได้ตั้งเป้าหมายกำไรอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 8.5 หมื่นล้านเยนภายในปีบัญชี 2565 อย่างไรก็ตาม แผนธุรกิจสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของธุรกิจที่ดำเนินงานอยู่ ทั้งนี้ การขยายธุรกิจออกจากธุรกิจลิสซิ่งไปยังธุรกิจอื่น ๆ และการลงทุนอย่างต่อเนื่องเป็นแนวทางการเติบโตเพื่อจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ของบริษัท

กลยุทธ์ของบริษัทคือการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินทรัพย์ของกลุ่มโดยการบูรณาการกิจกรรมทางธุรกิจทั้ง 8 กิจกรรมหลัก ซึ่งประกอบไปด้วย การซื้อกิจการ การพัฒนา การเข้าครอบครอง การให้เช่า การจัดการ การบำรุงรักษา การดำเนินงาน และการขาย ทั้งนี้ เพื่อที่จะสร้างแพรตฟอร์มในการดำเนินธุรกิจสินทรัพย์ (Asset Business Platform) โดยแพรตฟอร์มดังกล่าวนั้นจะรองรับธุรกิจ 5 สาขา ได้แก่ Asset Utilization Business, Provision of Asset Utilization, Asset Investment and Loans, Asset-based Financial Solution และ Asset-related Services โดย Asset Unitization Business ได้แก่ การดำเนินธุรกิจพลังงานจากแสงอาทิตย์และการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ สำหรับธุรกิจในสาขา Provision of Asset Utilization คือการที่บริษัทได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นจากการให้เช่าสินทรัพย์แก่ผู้เช่าหลายราย ในขณะที่ Asset Investment and Loans นั้นอาจจะเป็นในรูปแบบของการให้เช่าดำเนินงานสินทรัพย์ต่างๆ ทั่วโลกหรือการให้สินเชื่อโครงการหรือการให้สินเชื่อผ่านโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ ในส่วนของ Asset-based Financial Solution นั้นอาจประกอบไปด้วยการให้เช่าการเงินในสินทรัพย์หรืออสังหาริมทรัพย์ และลำดับสุดท้ายคือ Asset-related Services ซึ่งจะก่อให้เกิดรายได้ค่าธรรมเนียมนั้นอาจจะเป็นในรูปแบบของการบริหารจัดการสินทรัพย์หรือบริการซ่อมบำรุง เป็นต้น

ในปัจจุบันตลาดในต่างประเทศมีการขยายตัวที่รวดเร็วมากกว่าตลาดภายในประเทศ ถึงแม้ว่าความพยายามในการขยายธุรกิจไปในตลาดต่างประเทศนั้นจะเป็นผลดีต่อการรักษาการเติบโตและระดับผลกำไรแต่ก็จะเพิ่มความเสี่ยงให้แก่บริษัทได้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะสถานการณ์ปัจจุบันที่การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิต-19 ทำให้หลายประเทศและอุตสาหกรรมมากมายได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนตัวลงจากผลของการแพร่ระบาด อย่างไรก็ตาม แผนในการบูรณาการธุรกิจภายในกลุ่มและการรวมฝ่ายบริหารและฝ่ายบุคคลทั่วโลกให้เป็นหนึ่งเดียวของบริษัทน่าจะช่วยลดผลกระทบจากสถานการณ์ไม่พึงประสงค์ที่จะเกิดจากภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่อ่อนตัวลงได้

ความสัมพันธ์ที่ดีกับสถาบันการเงินช่วยสนับสนุนสภาพคล่องของบริษัท

สภาพคล่องที่แข็งแรงของบริษัทมาจากการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสถาบันการเงินต่างๆ รวมถึงกลุ่ม MUFG ด้วย บริษัทยังสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่หลากหลายทั้งในรูปแบบของการออกหุ้นกู้และตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือการแปลงสินทรัพย์ให้เป็นหลักทรัพย์ หรือการกู้ยืมได้อีกด้วย บริษัทมีสัดส่วนเงินกู้ยืมในสกุลเงินตราต่างประเทศในระดับปานกลางคิดเป็น 37% ของเงินกู้ทั้งหมดของบริษัท ณ เดือนมีนาคม 2563 การที่บริษัทมีการกู้ยืมที่กระจุกตัวอยู่ในสถาบันการเงินและพึ่งพาแหล่งเงินทุนระยะสั้นซึ่งทริสเรทติ้งมองว่าเป็นความเสี่ยงด้านแหล่งเงินทุนที่สูงกว่า แต่การที่บริษัทเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ของกลุ่ม MUFG ก็ช่วยทำให้ความเสี่ยงดังกล่าวลดทอนลงไป

ภาระหนี้ยังคงอยู่ในระดับปานกลาง

ในมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่า MUL มีการก่อหนี้ในระดับปานกลาง โดยบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับประมาณ 6-7 เท่าในปีบัญชี 2559-2562 ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2563 บริษัทมีอัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ 6.9 เท่า การกู้ยืมที่เพิ่มสูงขึ้นเพื่อใช้ลงทุนในการขยายธุรกิจต่าง ๆ อาจทำให้ภาระหนี้ของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่า MUL จะยังคงมีความพยายามในการรักษาสัดส่วนหนี้ให้อยู่ในระดับปานกลางจากการมีผลกำไรที่เข้มแข็งซึ่งช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่ฐานทุนของบริษัท

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

• อันดับเครดิตของ MUL ที่จัดโดย S&P Global Ratings จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

• ภาระในการค้ำประกันหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัทบางกอกมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ลิส ที่กระทำแบบไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้โดย MUL จะยังคงเป็นเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ของหุ้นกู้มีการค้ำประกันของบริษัทบางกอกมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ลิส สะท้อนถึงคุณภาพเครดิตของผู้ค้ำประกันคือ MUL ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ของ MUFG โดย MUL ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ “A-” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” จาก S&P Global Ratings

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของหุ้นกู้มีการค้ำประกันที่ออกโดยบริษัทบางกอกมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ลิส อาจได้รับการปรับลดลงได้ในกรณีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงในคุณภาพเครดิตของผู้ค้ำประกัน

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร, 17 กุมภาพันธ์ 2563

- Group Rating Methodology, 10 กรกฎาคม 2558

บริษัท บางกอก มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ลิส จำกัด (BMUL)

อันดับเครดิตตราสารหนี้:

BMUL218A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 AAA

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2563 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ