ทริสเรทติ้งยกเลิก “เครดิตพินิจ” แนวโน้ม “Negative” หรือ “ลบ” ที่ให้ไว้แก่อันดับเครดิตองค์กรและตราสารหนี้ของ บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) พร้อมทั้งประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ “BB+” และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของบริษัทที่ระดับ “BB” ในขณะเดียวกันยังกำหนดแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น “Negative” หรือ “ลบ” ด้วย
การประกาศผลอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงความเสี่ยงด้านสภาพคล่องในระยะสั้นที่ลดลงหลังจากที่บริษัทสามารถขอขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ออกไปได้ อีกทั้งยังได้รับเงินจากการลงนามในสัญญาระงับข้อพิพาทกับอู่ต่อเรือด้วย ทั้งนี้ บริษัทได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นกู้ PSL206A มูลค่า 54.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้ขยายเวลาครบกำหนดไถ่ถอนออกไปอีก 1.5 ปีจากเดิม ณ วันที่ 9 มิถุนายน 2563 เป็นวันที่ 9 ธันวาคม 2564 โดยหุ้นกู้ดังกล่าวมีมูลค่าคงค้างอยู่ที่ 50.47 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (1.57 พันล้านบาท) และบริษัทยังได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นกู้ PSL211A มูลค่า 99.72 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ซึ่งมีการทำสัญญาแลกเปลี่ยนสกุลเงินตราจากจำนวน 3.59 พันล้านบาท) ให้ขยายเวลาครบกำหนดไถ่ถอนออกไปอีก 1.5 ปีจากเดิม ณ วันที่ 22 มกราคม 2564 เป็นวันที่ 22 กรกฎาคม 2565 นอกจากนี้ บริษัทยังได้ทำสัญญาระงับข้อพิพาทกับอู่ต่อเรือแห่งหนึ่งและได้รับเงินล่วงหน้าค่าต่อเรือคืนจำนวน 40.50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อีกด้วย โดยบริษัทได้บันทึกผลขาดทุนจากสัญญาระงับข้อพิพาทดังกล่าวจำนวน 27.40 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
สำหรับในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ผลการดำเนินงานของบริษัทได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19) กล่าวคือ ค่าระวางเรือ (Time Charter Rate -- TC) โดยเฉลี่ยของบริษัทในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 ลดลง 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ 7,249 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อลำต่อวัน ในขณะที่รายได้ก็ลดลงเช่นเดียวกันกับค่าระวางเรือ บริษัทมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายอยู่ที่ 16 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีเงินทุนจากการดำเนินงานอยู่ที่ 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงเดียวกัน ส่วนภาระหนี้นั้นยังอยู่ในระดับสูง บริษัทมีหนี้สินที่ปรับปรุงแล้วอยู่ที่ 377 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2563 ในขณะที่อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายที่ปรับปรุงแล้วอยู่ที่ระดับ 9.2 เท่าอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินที่ปรับปรุงแล้วอยู่ที่ระดับ 5.2% (ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปีโดยใช้ข้อมูลย้อนหลัง 12 เดือน)
แม้ว่าแรงกดดันเรื่องปัญหาสภาพคล่องของบริษัทได้ผ่อนคลายลงและมีแนวโน้มจะดำเนินต่อไปในระยะ 12 เดือนข้างหน้า แต่ทริสเรทติ้งก็มีมุมมองว่าบริษัทจะยังคงเผชิญกับความท้าทายในการดำเนินงานเป็นอย่างมากในตลอดช่วงปี 2563-2564 ทั้งจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยทั่วโลก ผลกระทบที่ยืดเยื้อจากโรคโควิด 19 และปัญหาเรื่องข้อพิพาททางการค้าระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกาและจีน
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” สะท้อนถึงมุมมองของทริสเรทติ้งว่าผลการดำเนินงานและสถานะทางการเงินของบริษัทจะยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันต่อไปในปี 2563-2564 จากทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยทั่วโลก ผลกระทบที่ยืดเยื้อจากโรคโควิด 19 และปัญหาเรื่องข้อพิพาททางการค้าระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกาและจีน
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
แนวโน้มอันดับเครดิตอาจปรับเปลี่ยนมาเป็น “Stable” หรือ “คงที่” ได้หากบริษัทแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าบริษัทจะสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้ โดยที่ผลการดำเนินงานของบริษัทยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและบริษัทสามารถดำรงสถานะสภาพคล่องเอาไว้ได้อย่างเพียงพอ อันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับลดลงหากภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการดำเนินธุรกิจต่าง ๆ มีความยืดเยื้อยาวนานจนส่งผลให้ฐานะการเงินของบริษัทอ่อนแอยิ่งขึ้นและ/หรือสถานะสภาพคล่องของบริษัทอ่อนแอลงอย่างมีสาระสำคัญ
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562
- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงิน, 5 กันยายน 2561
บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) (PSL)
อันดับเครดิตองค์กร: BB+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
PSL211A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงิน 3,590 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 BB
แนวโน้มอันดับเครดิต: Negative