ทริสเรทติ้งยกเลิก ?เครดิตพินิจ? แนวโน้ม ?Positive? หรือ ?บวก? ที่ให้ไว้แก่หุ้นกู้มีการค้ำประกันชนิดทยอยชำระคืนเงินต้นอายุ 5 ปี (หุ้นกู้มีประกัน) ของ บริษัท นิติบุคคลเฉพาะกิจ บตท. (8) จำกัด (ผู้ออกตราสาร หรือเอสพีวี) พร้อมกันนี้ ทริสเรทติ้งยังปรับเพิ่มอันดับเครดิตหุ้นกู้มีประกันดังกล่าวเป็นระดับ ?AAA(sf)? จากเดิมที่ระดับ ?AA-(sf)? เพื่อให้สะท้อนสถานะเครดิตของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกัน (Guarantor) รายใหม่อีกด้วย
การทบทวนอันดับเครดิตหุ้นกู้มีประกันในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากการควบรวมผู้ค้ำประกันหุ้นกู้คือบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) เข้ากับ ธอส. ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติยุบเลิกบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย พ.ศ. 2563 ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2563 และมีการโอนสินทรัพย์และหนี้สินทั้งหมดของ บตท. ไปยัง ธอส. ในการนี้
ทริสเรทติ้งได้ทำการประเมินสถานะของ ธอส. จนเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้วโดยอันดับเครดิตอยู่ที่ระดับ ?AAA? พร้อมแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่?
หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการค้ำประกันเต็มจำนวนแบบไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้โดย ธอส. นอกจากนี้ อันดับเครดิตดังกล่าวยังมีปัจจัยสนับสนุนจากหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่เอสพีวีออกให้แก่ ธอส. รวมทั้งเงินกู้ยืมที่ ธอส. ให้แก่เอสพีวีเพื่อเสริมสภาพคล่อง และหน้าที่ของ ธอส. ในการซื้อกองลูกหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัย (กองสินทรัพย์) คงเหลือคืนจากเอสพีวี ณ วันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้อีกด้วย
ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต
สถานะเครดิตของ ธอส.
ธอส. มีสถานะเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจซึ่งได้รับการจัดตั้งขึ้นในปี 2496 ภายใต้พระราชบัญญัติธนาคารอาคารสงเคราะห์ พ.ศ. 2496 ธนาคารมีผู้ถือหุ้นแต่เพียงผู้เดียวคือกระทรวงการคลังและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ในมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่รัฐบาลจะให้การช่วยเหลือเป็นพิเศษอย่างทันท่วงทีและเพียงพอแก่ ธอส. ในยามที่ธนาคารมีความต้องการ ทั้งนี้ อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่าง ธอส. กับรัฐบาลที่อยู่ใน ?ระดับสูงสุด? และบทบาทของ ธอส.ในการดำเนินนโยบายของรัฐบาลที่อยู่ในระดับ ?สำคัญมากที่สุด? ซึ่งทริสเรทติ้งคาดว่าจะยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้นี้
ธอส. เป็นผู้ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิ
เอสพีวีได้ออกหุ้นกู้เสนอขายรวมมูลค่าทั้งสิ้น 7.03 พันล้านบาทซึ่งประกอบไปด้วยหุ้นกู้มีประกันชนิดทยอยชำระคืนเงินต้นในวงเงิน 5 พันล้านบาทและหุ้นกู้ด้อยสิทธิมูลค่า 2.03 พันล้านบาท โดยมูลค่าของหุ้นกู้ด้อยสิทธิคิดเป็นประมาณ 28.8% ของมูลค่ารวมของหุ้นกู้ที่ออกเสนอขาย ในการนี้ ได้มีการเสนอขายหุ้นกู้มีประกันแก่นักลงทุน ส่วนหุ้นกู้ด้อยสิทธินั้นถือโดยผู้เสนอโครงการ หรือ บตท. ซึ่งปัจจุบันมี ธอส. เป็นผู้ถือแทน บตท. อนึ่ง หุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวมีสถานะในสิทธิเรียกร้องที่ด้อยกว่าหุ้นกู้มีประกันที่ไดัรับการจัดอันดับเครดิตและเป็นปัจจัยที่ช่วยเสริมอันดับเครดิตให้แก่หุ้นกู้มีประกัน
เงินที่ได้รับจากการออกและเสนอขายหุ้นกู้นำไปใช้ซื้อสิทธิเรียกร้องค่างวดของกองสินทรัพย์ที่ บตท. ซื้อมาจากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็น ?ผู้ขาย? (Seller) โดยมูลค่าเงินต้นของกองสินทรัพย์ดังกล่าวอยู่ที่ 6.77 พันล้านบาท
ณ สิ้นเดือนกันยายน 2563 มูลค่าคงเหลือของหุ้นกู้มีประกันอยู่ที่ 4.46 พันล้านบาท ในขณะที่กองสินทรัพย์มีมูลค่าเงินต้นคงเหลือจำนวน 3.4 พันล้านบาท และมูลค่าของหุ้นกู้ด้อยสิทธิคงเหลืออยู่ที่ 202.5 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4.34% ของมูลค่าหุ้นกู้รวมคงค้างทั้งหมด ซึ่งลดลงจาก 28.8% ของมูลค่าหุ้นกู้ทั้งหมดที่ออกเสนอขายในช่วงเริ่มต้นโครงการ อย่างไรก็ตาม มูลค่าของหุ้นกู้ด้อยสิทธิจะต้องคงไว้ไม่ให้น้อยกว่า 10% ของมูลค่าที่ออกไปจนถึงเวลาสิ้นสุดโครงการ
เงินกู้ยืมจาก ธอส. ช่วยเสริมสภาพคล่อง
ธอส. ยังทำหน้าที่เป็นตัวแทนเรียกเก็บหนี้ (Servicer) และผู้จัดหาสภาพคล่อง (Liquidity Provider) ให้แก่โครงการนี้อีกด้วย ทั้งนี้ ภายใต้สัญญาที่ ธอส. ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่เอสพีวีนั้น ธอส. ตกลงจะให้เงินกู้ยืมแก่เอสพีวีตลอดอายุของหุ้นกู้ในกรณีที่เอสพีวีมีสภาพคล่องไม่เพียงพอจะชำระหนี้ในแต่ละงวดได้
เงินค่างวดจากลูกหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ได้รับในแต่ละเดือนจะนำไปฝากเข้าบัญชีของตัวแทนเรียกเก็บหนี้ก่อนแล้วหลังจาก นั้น จะโอนเข้าบัญชีของเอสพีวีทุกเดือน โดยเงินค่าผ่อนชำระที่เป็นส่วนของเงินต้นนั้นจะนำไปใช้ชำระเงินต้นของหุ้นกู้มีการค้ำประกัน หลังจากนั้นจะนำไปใช้ชำระคืนเงินต้นของเงินที่กู้ยืมมาจากผู้จัดหาสภาพคล่องเพื่อนำมาใช้ชำระคืนหนี้เงินต้นของหุ้นกู้มีการค้ำประกัน (ถ้ามี) จากนั้นจะนำไปจัดสรรเข้าบัญชีสำรองในสัดส่วน 10% ของเงินต้นสุทธิที่ได้รับหรือเงินที่เหลืออยู่ แล้วแต่ว่าจำนวนใดจะต่ำกว่า ส่วนที่เหลือจะนำไปใช้ชำระคืนเงินต้นของหุ้นกู้ด้อยสิทธิหรือจัดสรรเข้าบัญชีสำรองทั้งหมดในกรณีที่มีการชำระคืนเงินต้นของหุ้นกู้ด้อยสิทธิในสัดส่วน 90% ของมูลค่ารวมของหุ้นกู้ด้อยสิทธิแล้ว ในส่วนของดอกเบี้ยงวดนั้นจะนำไปจ่ายชำระดอกเบี้ยรวมทั้งค่าบริการและค่าธรรมเนียมของหุ้นกู้ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิต โดย ธอส. จะให้การสนับสนุนทางการเงินแก่เอสพีวีในกรณีที่รายรับไม่เพียงพอสำหรับการจัดสรรเงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้มีประกันดังกล่าว
ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2558 จนถึงเดือนกันยายน 2563 เอสพีวีได้รับเงินค่าผ่อนชำระรายเดือนจากลูกหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนทั้งสิ้น 4.53 พันล้านบาทซึ่งประกอบไปด้วยเงินต้นที่ได้รับชำระคืนตามกำหนดเวลาจำนวน 1.44 พันล้านบาท ค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยจำนวน 1.17 พันล้านบาท และเงินต้นที่ได้รับคืนก่อนกำหนดจำนวน 1.92 พันล้านบาท ทั้งนี้ จำนวนเงินต้นที่ได้รับคืนก่อนกำหนดนั้นคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 28.42% ของมูลค่าเงินต้นเริ่มแรกซึ่งอยู่ที่จำนวน 6.77 พันล้านบาท ในขณะที่หนี้ที่มีการผิดนัดชำระสุทธิอยู่ที่ 429.2 ล้านบาทหรือ 6.34% ของมูลค่าเงินต้นเริ่มแรกของกองสินทรัพย์ โดยเงินค่าผ่อนชำระที่ได้รับจากผู้กู้นั้นมีเพียงพอที่จะรองรับเงินต้นและดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้มีประกัน
เงื่อนไขการรับซื้อคืนกองสินทรัพย์ที่ยังคงเหลืออยู่จากเอสพีวีโดย ธอส. ณ วันครบกำหนดไถ่ถอน
ภายใต้สัญญาโอนสิทธิเรียกร้องนั้น ธอส. มีหน้าที่ซื้อคืนสิทธิเรียกร้องดังกล่าวจากเอสพีวีในวันครบกำหนดไถ่ถอนโดยราคาซื้อคืนจะเป็นราคาที่เทียบเท่ากับ (1) มูลค่าทางบัญชีที่เหลือของสินทรัพย์รวมดอกเบี้ยค้างชำระ หรือ (2) มูลค่าเงินต้นคงเหลือบวกดอกเบี้ยค้างชำระของทั้งหุ้นกู้มีประกันและหุ้นกู้ด้อยสิทธิซึ่งรวมภาระผูกพันต่าง ๆ ของเอสพีวีหลังจากหักด้วยเงินสดคงเหลือในบัญชีสำรองของเอสพีวีแล้วซึ่งแล้วแต่ว่าราคาใดจะต่ำกว่าโดยเอสพีวีจะนำเงินที่ได้จากการขายคืนสิทธิเรียกร้องให้แก่ ธอส. ไปใช้ไถ่ถอนหุ้นกู้มีประกันและหุ้นกู้ด้อยสิทธิ ซึ่งหากยังมีส่วนที่ขาดอยู่ ธอส. ก็จะรับชำระให้ตามสัญญาค้ำประกัน
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
หุ้นกู้มีประกันภายใต้โครงการนี้จะมีการทยอยชำระคืนเงินต้นตลอดอายุหุ้นกู้ประมาณ 10% ดังนั้น การชำระคืนเงินต้นทั้งหมดในวันที่ครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้จึงขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้ค้ำประกันคือ ธอส. ในการที่จะซื้อคืนสิทธิเรียกร้องคงเหลือทั้งหมดกลับไป นอกจากนี้ ธอส. ยังตกลงที่จะให้เงินกู้ยืมแก่เอสพีวีตลอดอายุของหุ้นกู้มีประกันในกรณีที่เอสพีวีขาดสภาพคล่องอีกด้วย ดังนั้น อันดับเครดิตของหุ้นกู้มีประกันจึงสะท้อนถึงอันดับเครดิตของผู้ค้ำประกันและจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามการเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตของผู้ค้ำประกัน
หมายเหตุ
ผู้ออกตราสารได้แจ้งให้ทริสเรทติ้งทราบว่าผู้ออกตราสารได้เปิดเผยข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับตราสารหนี้ที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ให้สาธารณชนรับทราบแล้ว ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนด
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- วิธีการจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้ประเภท Securitization, 31 พฤษภาคม 2553
บริษัท นิติบุคคลเฉพาะกิจ บตท. (8) จำกัด (SPV-SMC (8))
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
MBSE20NA: หุ้นกู้มีการค้ำประกันชนิดทยอยชำระคืนเงินต้น 4,453.62 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 AAA(sf)