ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ?A+? ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? พร้อมกันนี้ ทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 6.6 หมื่นล้านบาทอีกด้วย โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่นี้ไปจ่ายชำระคืนหนี้เดิม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัทซึ่งเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ อาทิ การเป็นผู้นำในธุรกิจร้านค้าสะดวกซื้อในประเทศไทย ลักษณะของธุรกิจค้าปลีกที่สามารถสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน การมีเครือข่ายสาขาที่แข็งแกร่งและครอบคลุมทั่วประเทศ และการมีธุรกิจสนับสนุนที่เข้มแข็ง
ผลประกอบการของบริษัทได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ส่งผลให้รายได้และกำไรของ 7-Eleven ลดลง รายได้ของบริษัทลดลง 4.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ 5.5 แสนล้านบาทในปี 2563 เทียบกับอัตราการเติบโตที่ระดับ 8%-11% ต่อปีในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายลดลง 7.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ระดับ 4.9 หมื่นล้านบาท อัตรากำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทลดลงมาอยู่ที่ระดับ 8.9% ในปี 2563 เทียบกับระดับ 9.2%-9.5% ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
ในอนาคตข้างหน้า ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะยังคงเผชิญความท้าทายหลายประการจากผลกระทบของโรคโควิด 19 และภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้ง คาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้นจากกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการขายสินค้าในหลากหลายช่องทาง (Omni-channel) และบริการใหม่ ๆ ที่เพิ่มขึ้นของบริษัท ตลอดจนผลประโยชน์จากการซื้อกิจการในช่วงที่ผ่านมาจะช่วยให้ผลการดำเนินงานของบริษัทแข็งแกร่งขึ้นได้ในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า
ภาระหนี้ของบริษัทเพิ่มขึ้นมากเมื่อรวมกับภาระหนี้สำหรับการลงทุนในบริษัท เทสโก้ สโตร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ Tesco Stores (Malaysia) Sdn.Bhd. หนี้สินทางการเงินที่ปรับปรุงแล้วของบริษัทเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 2.8 แสนล้านบาท ณ สิ้นปี 2563 จากระดับ 1.8 แสนล้านบาท ณ สิ้นปี 2562 อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนของบริษัทเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 75.3% ในปี 2563 จากระดับ 67.5% ในปี 2562 ในขณะเดียวกันอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.7 เท่าในปี 2563 จากระดับ 3.5 เท่าในปี 2562
ณ เดือนธันวาคม 2563 บริษัทมีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยจำนวน 2.6 แสนล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นกู้จำนวน 1.7 แสนล้านบาท เงินกู้ระยะยาวจำนวน 3 พันล้านบาท และเงินกู้ระยะสั้นชั่วคราว (Bridge Loan) จำนวน 8.5 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่นี้ไปจ่ายชำระคืนหนี้เงินกู้ระยะสั้นชั่วคราว
ตามข้อกำหนดทางการเงินสำหรับตราสารหนี้และเงินกู้ธนาคารที่ระบุให้บริษัทต้องดำรงอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนให้ต่ำกว่า 2 เท่านั้น ณ สิ้นปี 2563 บริษัทมีอัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ 1.6 เท่า ซึ่งทริสเรทติ้งเชื่อว่าบริษัทน่าจะสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดทางการเงินดังกล่าวได้ตลอดช่วงระยะเวลาที่ประมาณการ
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถรักษาสถานะความเป็นผู้นำและความสามารถในการแข่งขัน ตลอดจนสามารถมีผลการดำเนินงานทางการเงินที่ดีต่อไปในอนาคตได้
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากโครงสร้างเงินทุนและกระแสเงินสดที่ใช้รองรับการชำระหนี้ของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอย่างมากจนส่งผลทำให้อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่ำกว่า 5 เท่าอย่างต่อเนื่อง ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากผลการดำเนินงานของบริษัทอ่อนแอลงกว่าที่คาด หรือมีการก่อหนี้เพื่อขยายการลงทุนจำนวนมากจนส่งผลให้โครงสร้างเงินทุนและความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญ
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562
- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงิน, 5 กันยายน 2561
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) (CPALL)
อันดับเครดิตองค์กร: A+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
CPALL221A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A+
CPALL22NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 9,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A+
CPALL233B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 6,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A+
CPALL256B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 13,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A+
CPALL263B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 10,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 A+
CPALL271A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,466 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2570 A+
CPALL275A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,698.7 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2570 A+
CPALL27NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 9,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2570 A+
CPALL283B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 6,800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2571 A+
CPALL291A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,920 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2572 A+
CPALL305A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,169.3 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2573 A+
CPALL305B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,350 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2573 A+
CPALL311A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,614 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2574 A+
CPALL313A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2574 A+
CPALL325A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,632 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2575 A+
CPALL359A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,450 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2578 A+
CPALL363A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2579 A+
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 66,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 15 ปี A+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable