ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ?A? พร้อมแนวโน้มอันดับเครดิต ?Negative? หรือ ?ลบ? ทั้งนี้ อันดับเครดิตองค์กรของบริษัทสะท้อนถึงสถานะของบริษัทในการเป็นบริษัทลูกหลักของ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) โดยอันดับเครดิตของบริษัทอยู่ในระดับเดียวกับอันดับเครดิตของบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (ระดับ ?A/Negative? ซึ่งจัดอันดับโดยทริสเรทติ้ง)
บริษัทเป็นแหล่งรายได้และกำไรหลักของกลุ่มบีทีเอส โดยบริษัทเป็นผู้ถือสัญญาสัมปทานในการให้บริการ ?รถไฟฟ้าสายสีเขียว? และเป็นผู้ดำเนินงานรถไฟฟ้าซึ่งให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M Contract) สำหรับรถไฟฟ้าทุกระบบที่ดำเนินงานโดยกลุ่มบีทีเอส นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นผู้ให้บริการสื่อโฆษณาในขบวนรถไฟฟ้าบีทีเอสและพื้นที่เชิงพาณิชย์ในบริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสผ่านบริษัทย่อยคือ บริษัท วี จี ไอ จำกัด (มหาชน) อีกด้วย ในส่วนของผลการดำเนินงานทางการเงินนั้น บริษัทมีผลงานเป็นที่น่าพอใจอย่างต่อเนื่องและยังคงเป็นผู้สร้างรายได้ส่วนใหญ่ให้แก่กลุ่มบีทีเอส โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีบัญชี 2564 รายได้รวมของบริษัทคิดเป็น 96% ของรายได้รวมของบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์
ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต
ถือสัญญาสัมปทานและสัญญาให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสำหรับการดำเนินงานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว
บริษัทถือสัญญาสัมปทานรูปแบบ Build-Transfer-Operate อายุ 30 ปีในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนหลักซึ่งได้รับการอนุมัติจากกรุงเทพมหานครให้ดำเนินงานในช่วงระหว่างปี 2542-2572 โดยในปี 2556 บริษัทได้ขายรายได้จากผู้โดยสารสุทธิจากการดำเนินงานในอนาคตภายใต้สัญญาสัมปทานให้แก่กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางรางบีทีเอสโกรท (BTSGIF) เป็นเงินจำนวน 6.1 หมื่นล้านบาท และยังได้ทำสัญญาให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าจำนวน 2 ฉบับกับ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางธุรกิจของกรุงเทพมหานครด้วย โดยสัญญาฉบับแรกได้มีการลงนามไปในปี 2555 ซึ่งครอบคลุมรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายส่วนแรกและรถไฟฟ้าส่วนหลัก ในขณะที่สัญญาฉบับที่ 2 ได้มีการลงนามในปี 2560 ซึ่งครอบคลุมรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายส่วนที่ 2 ซึ่งสัญญาทั้ง 2 ฉบับนี้จะหมดอายุพร้อมกันในปี 2585
รายได้ของบริษัทจากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าถือเป็นสัดส่วนหลักของกลุ่มบีทีเอส โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีบัญชี 2564 รายได้จากการให้บริการดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วน 59% ของรายได้ของกลุ่มบีทีเอสอีกทั้งยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและสามารถคาดการณ์ได้ในระดับสูงเนื่องจากมีการกำหนดอัตราค่าบริการแบบตายตัวไว้แล้ว ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือนแรกของปีบัญชี 2564 รายได้จากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 3.8 พันล้านบาทเมื่อเทียบกับระดับประมาณ 2.6 พันล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาหลังจากที่บริษัทให้บริการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายตลอดเส้นทางในช่วงปลายปี 2563 ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้จากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 6.8 พันล้านบาทในปีบัญชี 2566
ให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงสำหรับ ?รถไฟฟ้ารางเดี่ยวสายสีชมพูและสายสีเหลือง?
บริษัทได้มีการทำสัญญาให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้ากับ บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด และ บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน 2 แห่งของบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ และผู้ร่วมทุนอีก 2 รายเพื่อดำเนินงานโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยวสายสีชมพูและสายสีเหลือง โดยโครงการทั้งสองยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีบัญชี 2565 โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มเปิดให้บริการบางส่วนได้ในเดือนมกราคม 2565 สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและในเดือนมีนาคม 2565 สำหรับรถไฟฟ้าสายสีชมพู ในการนี้ บริษัทคาดว่าจะมีรายได้จากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าแต่ละโครงการที่ประมาณ 1.3-1.4 พันล้านบาทในปีบัญชี 2566
มีสถานะที่ดีในการประมูลโครงการขนส่งมวลชนโครงการใหม่ ๆ
กลยุทธ์ของกลุ่มบีทีเอสคือการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับผู้ร่วมทุนในการเข้าประมูลหรือพัฒนาโครงการขนส่งมวลชนโครงการใหม่ ๆ โดยการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนนั้นจะช่วยลดความเสี่ยงจากโครงการให้แก่บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ได้ บริษัทเป็นบริษัทหลักของกลุ่มบีทีเอสในการเข้าประมูลโครงการใหม่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการขนส่งมวลชน ทั้งนี้ เนื่องจากคุณสมบัติที่สำคัญสำหรับผู้เข้าร่วมประมูลนั้นจะต้องมีประสบการณ์และผลการดำเนินงานย้อนหลังทั้งในด้านการพัฒนาและการดำเนินงานโครงการ โดยบริษัทเป็นหนึ่งในสองของผู้ให้บริการรถไฟฟ้าในประเทศไทยซึ่งมีความสามารถและผลการดำเนินงานย้อนหลังที่เป็นที่ยอมรับมากกว่า 20 ปีในการดำเนินงานระบบรถไฟฟ้า ดังนั้น ความแข็งแกร่งดังกล่าวจึงถือเป็นจุดแข็งสำคัญที่ส่งผลให้กลุ่มบีทีเอสมีสถานะที่ดีในการชนะการประมูลโครงการขนส่งมวลชนโครงการใหม่ ๆ
รายได้เพิ่มมากขึ้นจากธุรกิจสื่อโฆษณา
บริษัทดำเนินธุรกิจสื่อโฆษณาผ่านบริษัทย่อยคือ บริษัท วี จี ไอ ซึ่งมีความได้เปรียบในการแข่งขันสูงเนื่องจากเป็นผู้ให้บริการสื่อโฆษณาในขบวนรถไฟฟ้าบีทีเอสและพื้นที่เชิงพาณิชย์ในบริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสแต่เพียงรายเดียว ทั้งนี้ รายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณาเป็นแหล่งกระแสเงินสดที่สำคัญของกลุ่มบีทีเอส อย่างไรก็ตาม รายได้จากธุรกิจนี้ก็มีความอ่อนไหวต่อสภาวะทางเศรษฐกิจและผันผวนมากกว่ารายได้จากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงในธุรกิจระบบขนส่งมวลชน ในช่วง 9 เดือนแรกของปีบัญชี 2564 รายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณามีสัดส่วนคิดเป็น 28% ของรายได้รวมของบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์
นอกจากนี้ บริษัท วี จี ไอ ยังได้ขยายธุรกิจไปสู่สื่อโฆษณานอกบ้านในรูปแบบอื่น ๆ ผ่านการซื้อหุ้นในหลาย ๆ กิจการที่เกี่ยวข้องอีกด้วย โดยในปี 2564 บริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 26.58% ใน บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) รวมถึงถือหุ้นในสัดส่วน 18.06% ใน บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด และ 18.59% ใน บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน)
รายได้คิดเป็นสัดส่วนหลักของกลุ่มบีทีเอส
รายได้ของบริษัทคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 70% ของรายได้รวมของกลุ่มบีทีเอสในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ในส่วนของกำไรนั้น บริษัทสร้างผลกำไรคิดเป็นสัดส่วนเกือบทั้งหมดของกำไรรวมของกลุ่มบีทีเอสในช่วง 9 เดือนแรกของปีบัญชี 2564 ในการนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้และกำไรของบริษัทจะยังคงเป็นสัดส่วนหลักของกลุ่มบีทีเอสต่อไปเนื่องจากรายได้จากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้านั้นสามารถคาดการณ์ได้
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต ?Negative? หรือ ?ลบ? สะท้อนถึงความเป็นไปได้ที่ภาระหนี้ของกลุ่มบีทีเอสจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากบริษัทมีโอกาสในการลงทุนในสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวโครงการใหม่ซึ่งอาจส่งผลให้สถานะเครดิตอ่อนแอลงอย่างมากจนอาจอยู่ในระดับที่ไม่สอดคล้องกับอันดับเครดิตในปัจจุบันได้
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้หากสถานะเครดิตของบริษัท
บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เปลี่ยนแปลงไป หรือหากทริสเรทติ้งมองเห็นความเปลี่ยนแปลงของสถานะในการเป็นบริษัทย่อยของบริษัทเมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทย่อยอื่น ๆ ของบริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ, 13 มกราคม 2564
- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562
- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงิน, 5 กันยายน 2561
บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BTSC)
อันดับเครดิตองค์กร: A
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
BTSC21NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A
BTSC23NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A
BTSC26NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 10,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 A
แนวโน้มอันดับเครดิต: Negative