ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ?BBB-? พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ ?BBB-? ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ?Negative? หรือ ?ลบ? ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ของบริษัทในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาทและหุ้นกู้สำรองเพื่อการเสนอขายเพิ่มเติม (Greenshoe) ในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ ?BBB-? ด้วย โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าสถานะทางการเงินของบริษัทจะยังคงได้รับแรงกดดันอีกระยะหนึ่งจากผลกระทบของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19) ที่มีต่อการดำเนินธุรกิจโรงแรมและภาระหนี้ของบริษัทที่จะเพิ่มสูงขึ้นจากการลงทุนในโครงการ ?ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค? โดยคาดว่าระดับหนี้สินทางการเงินของบริษัทจะอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องอีกระยะเวลาหนึ่ง
ทริสเรทติ้งคาดว่าการดำเนินธุรกิจโรงแรมของบริษัทโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยนั้นจะยังคงได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์ของโรคโควิด 19 ที่ไม่หยุดนิ่งต่อไปในอีกหลายไตรมาสข้างหน้าและอาจกินเวลายาวนานไปจนถึงปี 2567 จึงจะฟื้นตัวกลับไปสู่ระดับก่อนการเกิด
โรคโควิด 19 ได้ ด้วยแนวโน้มผลกำไรของบริษัทที่อ่อนแอรวมทั้งภาระจากการลงทุนในโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ทริสเรทติ้งจึงคาดว่าหนี้สินทางการเงินของบริษัทจะอยู่ในระดับสูงโดยอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายที่ปรับปรุงแล้วจะอยู่ในระดับเกินกว่า 10 เท่าไปจนถึงปี 2567 และจะปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2568 หากการพัฒนาโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์คดำเนินไปได้ตามแผน
ตามเงื่อนไขของข้อกำหนดทางการเงินที่สำคัญของเงินกู้ระบุให้บริษัทต้องดำรงอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนให้ต่ำกว่า 1.75 เท่านั้น ณ เดือนมิถุนายน 2564 บริษัทมีอัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 1.18 เท่า ส่วนข้อกำหนดทางการเงินของหุ้นกู้ชุดใหม่ของบริษัทนั้นระบุให้บริษัทต้องดำรงอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนไม่ให้เกินกว่า 3 เท่า จากการคาดการณ์ว่าอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า ทริสเรทติ้งจึงคาดหวังว่าบริษัทจะบริหารจัดการสถานะทางการเงินอย่างรอบคอบเพื่อให้สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดทางการเงินดังกล่าวได้
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต ?Negative? หรือ ?ลบ? สะท้อนถึงความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรมจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ไม่แน่นอนและยืดเยื้อซึ่งจะยังคงส่งผลกดดันต่อผลการดำเนินงานและสถานะทางการเงินของบริษัทต่อไปอีกอย่างน้อยในระยะเวลา 12-18 เดือนข้างหน้า
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
อันดับเครดิตอาจได้รับการปรับลดลงหากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 มีความรุนแรงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้และสถานะทางการเงินของบริษัทเสื่อมถอยลงมากกว่าที่ทริสเรทติ้งคาดไว้อย่างมีนัยสำคัญ หรือสถานะสภาพคล่องของบริษัทอ่อนแอลงอย่างมาก แนวโน้มอันดับเครดิตอาจได้รับการปรับเปลี่ยนมาเป็น ?Stable? หรือ ?คงที่? ได้หากผลการดำเนินงานของบริษัทมีสัญญาณฟื้นตัวอย่างยั่งยืนและบริษัทสามารถดำรงสถานะสภาพคล่องเอาไว้ได้อย่างเพียงพอที่จะรองรับภาวะ
ผันผวนใด ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564
- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562
- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงิน, 5 กันยายน 2561
บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) (DUSIT)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
DUSIT237A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 BBB-
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท และหุ้นกู้สำรองเพื่อการเสนอขายเพิ่มเติม (Greenshoe) ในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 2 ปี BBB-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Negative