ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร และหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด ที่ระดับ ?AAA? พร้อมแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? โดยอันดับเครดิตสะท้อนสถานะของบริษัทในการเป็นบริษัทลูกหลัก (Core Subsidiary) ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ทั้งนี้ อันดับเครดิตของบริษัทบัตรกรุงศรีอยุธยาอยู่ในระดับเดียวกับอันดับเครดิตของธนาคารกรุงศรีอยุธยา (ระดับ ?AAA/Stable? ซึ่งจัดอันดับโดยทริสเรทติ้ง)
ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต
ได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากกลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยาในฐานะที่เป็นบริษัทลูกที่สำคัญ
ทริสเรทติ้งเชื่อว่าบริษัทจะยังคงได้รับการสนับสนุนทั้งทางด้านธุรกิจและแหล่งเงินทุนอย่างต่อเนื่องจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาในฐานะที่บริษัทเป็นบริษัทลูกที่ดำเนินธุรกิจหลักของกลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยา โดยธนาคารกรุงศรีอยุธยาเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดของบริษัทและได้วางตำแหน่งให้บริษัทเป็นหน่วยธุรกิจหลักของธนาคารที่ให้บริการทางด้านบัตรเครดิตภายใต้ตราสัญลักษณ์ ?กรุงศรี? ในการนี้ บริษัทมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดและมีแนวทางการดำเนินงานที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับ ?กลุ่มกรุงศรี คอนซูมเมอร์? ซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มบริษัทที่ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตหลากหลายประเภท
บริษัทมีระบบปฏิบัติการร่วมกับธนาคารอย่างเต็มรูปแบบ โดยบริษัทสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายสาขาของธนาคารที่มีอยู่ทั่วประเทศเป็นช่องทางในการขยายฐานลูกค้าบัตรเครดิตรวมทั้งใช้เป็นช่องทางการชำระเงินและให้บริการ ทั้งนี้ จำนวนบัตรเครดิตใหม่ที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานั้น ประมาณ 50% ของจำนวนบัตรเครดิตใหม่มาจากการแนะนำผ่านสาขาของธนาคารเป็นช่องทางหลัก นอกจากนี้ ธนาคารยังให้การสนับสนุนบริษัทในด้านการรวมศูนย์ระบบปฏิบัติการทั้งในด้านการบริหารความเสี่ยง ตลอดจนการตรวจสอบภายใน และเทคโนโลยีสารสนเทศที่ได้มาตรฐานอีกด้วย ในฐานะที่เป็นบริษัทลูกประเภท Solo Consolidation ของกลุ่มฯ บริษัทจึงได้รับการสนับสนุนทางการเงินอย่างต่อเนื่องจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาในรูปของวงเงินสินเชื่ออีกด้วย
มีสถานะที่แข็งแกร่งในธุรกิจบัตรเครดิตและคุณภาพสินทรัพย์ที่ดี
บริษัทยังคงรักษาสถานะทางการตลาดของบริษัทในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ระดับประมาณ 10% ของทั้งมูลค่าสินเชื่อคงค้างของบัตรเครดิตและปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของบริษัทในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่ายอดสินเชื่อคงค้างของบริษัทจะหดตัวลงมาเป็น 4.5 หมื่นล้านบาท หรือ 6% ณ สิ้นปี 2563 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของบริษัทจะลดลงถึง 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนแต่ก็สอดคล้องกับภาพรวมของอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นผลจากมาตรการปิดประเทศและภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแออันเนื่องมาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19) ทริสเรทติ้งคาดว่ายอดสินเชื่อคงค้างของบริษัทจะฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ใน 2-3 ปีข้างหน้า โดยมีแรงผลักดันมาจากกิจกรรมทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพและความร่วมมือที่มีกับธนาคารแม่
สถานะเงินทุนมีความแข็งแกร่ง
ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะยังคงรักษาระดับฐานทุนให้แข็งแรงและอยู่ในระดับที่เพียงพอสำหรับแผนการขยายธุรกิจในระยะปานกลางได้ โดยฐานทุนที่แข็งแรงนี้ยังจะช่วยรองรับผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นภายหลังจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้สิ้นสุดลง โดยบริษัทมีอัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 21% ณ สิ้นปี 2563 ซึ่งปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 17.4% ณ สิ้นปี 2562 ทั้งนี้ ฐานทุนที่แข็งแรงขึ้นนั้นเป็นผลมาจากความสามารถในการทำกำไรที่ยังคงแข็งแกร่งของบริษัทและเงินทุนที่ได้รับจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาจากนโยบายของธนาคารที่งดการจ่ายเงินปันผลของบริษัทย่อยในปี 2563 อันเนื่องมาจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน
การสนับสนุนทางด้านการเงินอย่างต่อเนื่องจากธนาคารกรุงศรี
บริษัทมีสถานะเงินทุนและสภาพคล่องอยู่ในระดับที่เพียงพอจากการสนับสนุนทางการเงินอย่างต่อเนื่องจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาในรูปของวงเงินสินเชื่อ นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนอื่น ๆ ได้อีก เช่น การออกหุ้นกู้ในตลาดทุน โดย ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2564 บริษัทได้รับวงเงินสินเชื่อจากธนาคารเป็นจำนวน 4.05 หมื่นล้านบาท โดยที่ 98% ของวงเงินดังกล่าวนั้นยังไม่ได้เบิกใช้
คาดว่ายอดสินเชื่อและปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตจะฟื้นตัว
ธุรกิจสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเผชิญกับผลกระทบทางเศรษฐกิจและการปิดประเทศอันเนื่องมาจากโรคโควิด 19 โดยในปี 2563 ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรลดลง 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรมีแนวโน้มฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้นโดยมีอัตราการเติบโต 4.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรกลับมาหดตัวอีกครั้งในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากมาตรการการปิดประเทศอีกครั้ง การปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) บังคับใช้ในเดือนสิงหาคม 2563 ยังส่งผลกดดันต่อความสามารถในการทำกำไรของผู้ประกอบการอีกด้วย อย่างไรก็ตาม คุณภาพสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลที่เสื่อมถอยลงจากสภาพเศรษฐกิจที่อ่อนแอยังคงสามารถจัดการได้ โดยมีการปัจจัยสนับสนุนจากการปรับลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำของทั้งสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของอุตสาหกรรมสำหรับสินเชื่อบัตรเครดิตเพิ่มขึ้นเป็น 2.60% ณ ไตรมาส 2 ของปี 2564 จาก 1.91% ณ สิ้นปี 2563 สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 3.60% ณ ไตรมาส 2 ของปี 2564 จาก 3.45% ณ สิ้นปี 2563 การคาดการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจมีแนวโน้มช่วยสนับสนุนปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและการเติบโตของสินเชื่อในไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 ในขณะที่มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ขยายระยะเวลาต่อจะช่วยประคับประคองคุณภาพสินเชื่ออีกด้วย อย่างไรก็ตาม การกระตุ้นปริมาณการใช้จ่ายและสร้างรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพื่อชดเชยผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยรับที่ลดลงยังเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการทั้งหมด
สมมติฐานกรณีพื้นฐาน
สมมติฐานกรณีพื้นฐานของทริสเรทติ้งตั้งอยู่บนความคาดหมายที่บริษัทจะยังคงดำรงสถานะในการเป็นบริษัทลูกหลักของธนาคารกรุงศรีอยุธยาต่อไป
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงสถานะความเป็นบริษัทย่อยที่เป็นธุรกิจหลักของกลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยาเอาไว้ได้และจะยังคงได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากธนาคารแม่ต่อไป
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
สถานะเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับลดลงในกรณีที่สถานะเครดิตของกลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยาเปลี่ยนแปลงไปหรือมุมมองของทริสเรทติ้งเกี่ยวกับความสำคัญของบริษัทที่มีต่อกลุ่มหรือระดับของการสนับสนุนที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยามีต่อบริษัทเปลี่ยนแปลงไป
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ, 13 มกราคม 2564
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร, 17 กุมภาพันธ์ 2563
บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด (KCC)
อันดับเครดิตองค์กร: AAA
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
KCC223A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 AAA
KCC229A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 AAA
KCC239A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 AAA
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable