ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ?BBB+? และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ ?BBB? ขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ของบริษัทในวงเงินไม่เกิน 2 พันล้านบาทที่ระดับ ?BBB? ด้วย โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้รับจากการออกหุ้นกู้ดังกล่าวไปใช้ชำระหนี้และ/หรือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งยังคงแนวโน้มอันดับเครดิต ?Negative? หรือ ?ลบ? เพื่อสะท้อนผลการดำเนินงานและสถานะทางการเงินของบริษัทที่ถดถอยลงอย่างมีนัยสำคัญ
อันดับเครดิตสะท้อนถึงความสามารถในการแข่งขันของบริษัท ตลอดจนความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวลดทอนลงบางส่วนจากการกระจุกตัวของงานในมือ อันดับเครดิตยังพิจารณาถึงการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและความเป็นไปได้ที่การประมูลโครงการก่อสร้างภาครัฐจะล่าช้าออกไป ซึ่งอาจขัดขวางการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานของบริษัทได้
อันดับเครดิตหุ้นกู้ของบริษัทซึ่งต่ำกว่าอันดับเครดิตองค์กรอยู่ 1 ขั้นนั้นสะท้อนถึงลักษณะการด้อยสิทธิ์ของหุ้นกู้ที่ไม่มีหลักประกันเมื่อเปรียบเทียบกับหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อน (Priority Debt) ทั้งนี้ ณ เดือนกันยายน 2564 หนี้เงินกู้รวมของบริษัทไม่นับรวมหนี้สินตามสัญญาเช่ามีจำนวนทั้งสิ้น 1.76 หมื่นล้านบาทซึ่งจำนวน 1.1 หมื่นล้านบาทเป็นหนี้ที่มีหลักประกันหรือหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อน ทำให้อัตราส่วนหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนต่อหนี้สินรวมอยู่ที่ระดับ 63% สูงกว่าเกณฑ์ของทริสเรทติ้งที่ระดับ 50% ส่งผลให้เจ้าหนี้ที่ไม่มีหลักประกันมีความด้อยสิทธิ์กว่าเจ้าหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนอย่างมีนัยสำคัญเมื่อพิจารณาจากสิทธิ์เรียกร้องในสินทรัพย์ของบริษัทตามเกณฑ์ ?การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้? ของทริสเรทติ้ง
ผลการดำเนินงานของบริษัทได้รับผลกระทบจากการแข่งขันประมูลงานที่เข้มข้นและความยากลำบากในการบริหารงานก่อสร้างในช่วงของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19) โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 รายได้จากการดำเนินงานรวมของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในทางตรงกันข้าม กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทอยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท ลดลง 7.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่หนี้สินของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นเป็น 1.82 หมื่นล้านบาท ณ เดือนกันยายน 2564 จากความต้องการเงินทุนหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยบริษัทมีลูกหนี้การค้าที่ยังไม่เรียกเก็บและลูกหนี้การค้าจำนวนมากจากโครงการรถไฟทางคู่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม สัญญาที่ 4 และโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งยังคงประมาณการอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทในระดับสูงกว่า 6 เท่าในปี 2564 และปรับตัวลดลงเป็นประมาณ 5 เท่าในปี 2565-2566 เมื่อกำไรฟื้นตัว
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต ?Negative? หรือ ?ลบ? สะท้อนการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่ากำไรและสถานะทางการเงินของบริษัทจะถดถอยลงอย่างมีนัยสำคัญในปี 2564 ก่อนที่จะปรับตัวดีขึ้นในปีถัด ๆ ไปจากการคาดว่าบริษัทจะได้สัญญาก่อสร้างใหม่ ๆ อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนจากการแพร่ระบาดของโรคระบาดที่ยาวนาน ความล่าช้าในการเปิดประมูลโครงการภาครัฐ ตลอดจนการแข่งขันที่เข้มข้นยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
อันดับเครดิตอาจปรับลดลงได้หากสถานะทางการเงินของบริษัทถดถอยลงกว่าที่คาดไว้ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากความล่าช้าของโครงการ หรือต้นทุนในการก่อสร้างที่สูงกว่าคาด หรือการจัดการด้านเงินทุนหมุนเวียนที่ไม่มีประสิทธิภาพ จนทำให้อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายยังคงสูงกว่า 5 เท่าโดยไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน นอกจากนี้ การได้สัญญาก่อสร้างใหม่ที่มีมูลค่าน้อยกว่าที่คาดไว้ก็อาจกระทบต่ออันดับเครดิตเช่นกัน ในทางตรงกันข้าม การปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น ?Stable? หรือ ?คงที่? อาจเกิดขึ้นได้หากการจัดการด้านเงินทุนหมุนเวียนและความสามารถในการทำกำไรสอดคล้องกับการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งและบริษัทได้สัญญาก่อสร้างใหม่ตามที่ตั้งเป้าไว้
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564
- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562
- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงิน, 5 กันยายน 2561
บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) (UNIQ)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
UNIQ222A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 BBB
UNIQ232A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 BBB
UNIQ257A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,440.1 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 BBB
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 4 ปี BBB
แนวโน้มอันดับเครดิต: Negative