ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน “บ. เบทาโกร” ที่ “A-” เนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 16, 2021 10:45 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ?A-? พร้อมแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? โดยอันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงสถานะความเป็นผู้นำของบริษัทในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร ตลอดจนปัจจัยเสี่ยงด้านอุตสาหกรรมอีกหลายประการ เช่น วงจรของสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัท ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ โรคระบาดในสัตว์ และการกีดกันทางการค้า อย่างไรก็ตาม การดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตลอดจนกลยุทธ์ที่เน้นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มซึ่งจำหน่ายภายใต้ตราสินค้าของบริษัทเองก็ช่วยลดความกังวลดังกล่าวลงไปได้บางส่วน นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงข้อกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจอันเกิดจากการกลายพันธุ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โรคโควิด 19) อีกด้วย

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

ผลการดำเนินงานที่อ่อนแอกว่าคาด

บริษัทมีผลการดำเนินงานอ่อนแอกว่าที่ทริสเรทติ้งเคยคาดการณ์ไว้อันเนื่องมาจากผลการดำเนินงานที่ตกต่ำอย่างมากของบริษัทในไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 จากสถานการณ์โรคโควิด 19 ที่ทวีความรุนแรงขึ้นตลอดจนมาตรการปิดเมือง (Lockdown) ประกอบกับราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ปรับตัวขึ้นสูงเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานจากผลกระทบของโรคโควิด 19 ที่ระบาดในโรงงานแปรรูปอาหารหลายแห่งและอุปสงค์ที่ลดลงของผู้บริโภคก็เป็นสาเหตุที่ส่งผลให้ราคาสัตว์บกลดลงอย่างมาก นอกจากนี้ บริษัทยังมีค่าใช้จ่ายพิเศษจำนวนมากจากมาตรการป้องกันโรคระบาดและการปิดโรงงานในไตรมาสดังกล่าวอีกด้วย จึงส่งผลทำให้กำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทลดลง 37.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ระดับ 3.5 พันล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 ในขณะที่อัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ก็ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 5.6% ในช่วงเดียวกันจากระดับ 8.9% ในปี 2563

ทริสเรทติ้งคาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะค่อยๆ ฟื้นตัวในปี 2565 แม้ว่ายังคงมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับความท้าทายในหลาย ๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นการฟื้นตัวของราคาสัตว์บกที่อาจเป็นไปอย่างเชื่องช้า ตลอดจนราคาวัตถุดิบที่อยู่ในระดับสูง ปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ รวมทั้งการกลายพันธุ์ของโรคโควิด 19 อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ที่บริษัทมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ตลอดจนแผนการขยายตลาด การออกสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม และแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวภายหลังจากสถานการณ์โรคโควิด 19 นั้นน่าจะช่วยให้บริษัทสามารถรักษาผลการดำเนินงานที่มีความมั่นคงต่อไปได้ในช่วงเวลา 2-3 ปีข้างหน้า

ภายใต้สมมติฐานของทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้จากการดำเนินงานของบริษัทจะเติบโตที่ระดับ 8.4-9.7 หมื่นล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2564-2566 อัตรากำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายคาดว่าจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับประมาณ 5.2%-6.6% และกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายจะอยู่ที่ระดับ 4.4-6.4 พันล้านบาทในช่วงเวลาเดียวกัน

ภาระหนี้จะยังคงอยู่ในระดับสูงจากแผนการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

ต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้นและการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานส่งผลให้ความต้องการเงินทุนหมุนเวียนและระดับหนี้ของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นในปี 2564 โดยระดับหนี้สินทางการเงินที่ปรับปรุงแล้วของบริษัทเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 2.8 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2564 จาก 2.3 หมื่นล้านบาทในปี 2563

ทริสเรทติ้งคาดว่าระดับหนี้สินของบริษัทจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไปในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าเนื่องจากบริษัทมีการวางแผนงบประมาณสำหรับการลงทุนไว้ที่จำนวน 5-6 พันล้านบาทต่อปีเพื่อให้เป็นไปตามแผนกลยุทธ์การเติบโต โดยทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนของบริษัทจะอยู่ที่ระดับประมาณ 60%-61% ในช่วงปี 2564-2566 และอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายจะอยู่ที่ระดับ 4.2-5.7 เท่า

เป็นผู้นำในธุรกิจภาคเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารของไทย

บริษัทเป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจภาคเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารของไทยมานานกว่า 50 ปี โดยบริษัทเป็นผู้แปรรูปไก่รายใหญ่ลำดับที่ 3 ในตลาดภายในประเทศโดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 11% ในปี 2563 (อันดับที่ 1 คือ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (21%) และอันดับที่ 2 คือ บริษัท สหฟาร์ม จำกัด (13%)) ทั้งนี้ จากข้อมูลของสมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทยระบุว่าส่วนแบ่งทางการตลาดในตลาดไก่ส่งออกของบริษัทอยู่ที่ระดับประมาณ 7% ในปี 2563 นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นผู้ผลิตเนื้อสุกรคุณภาพสูงระดับแนวหน้าในประเทศไทยอีกด้วยโดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ระดับ 10% ของการผลิตเนื้อสุกรภายในประเทศ

บริษัทดำเนินธุรกิจไก่และสุกรแบบครบวงจรอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่การผลิตอาหารสัตว์ไปจนถึงการขยายพันธุ์ การเลี้ยง และการแปรรูป ทั้งนี้บริษัทดำเนินกิจการทั้งการเลี้ยงสัตว์บกในฟาร์มของบริษัทเองและผ่านวิธีการเกษตรแบบพันธะสัญญา ซึ่งการดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรดังกล่าวทำให้บริษัทสามารถควบคุมคุณภาพและต้นทุนในการผลิตได้

บริษัทมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายซึ่งครอบคลุมทั้งอาหารสัตว์ ไก่ สุกร และผลิตภัณฑ์อาหาร ซึ่งความหลากหลายดังกล่าวช่วยลดความเสี่ยงในการดำเนินงานของบริษัทลงได้บางส่วน ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทมีรายได้จากธุรกิจอาหารสัตว์และฟาร์ม รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารคิดเป็นสัดส่วน 28% 58% และ 12% ของยอดขายรวมตามลำดับ

มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มและมีตราสินค้า

กลยุทธ์สำคัญของบริษัทคือการมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มและมีตราสินค้าของบริษัทเองซึ่งน่าจะช่วยเพิ่มผลกำไรและลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาผลิตภัณฑ์จากฟาร์มซึ่งมีลักษณะเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ได้บางส่วน

บริษัทมีกลยุทธ์ที่จะยกระดับผลิตภัณฑ์ที่เป็นเพียงสินค้าจากปศุสัตว์สู่การเป็นผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังได้ตั้งศูนย์นวัตกรรมอาหารขึ้นเพื่อดำเนินงานด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วย โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทมียอดขายผลิตภัณฑ์อาหารที่มีมูลค่าเพิ่มคิดเป็นสัดส่วน 12% ของยอดขายรวม ทั้งนี้ บริษัทมีแผนในการออกผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มใหม่ ๆ ให้มากขึ้นในอนาคต

ความพยายามในการส่งเสริมการขายเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่มีตราสินค้าของบริษัท ความตระหนักในตราสินค้าสร้างความได้เปรียบให้แก่บริษัทเนื่องจากลูกค้ามักจะเลือกตราสินค้าที่ไว้วางใจได้ สำหรับตลาดภายในประเทศนั้นบริษัทมีตราสินค้า 2 ตราคือ ?เอสเพียว? (S-Pure) และ ?เบทาโกร? (Betagro) โดยเอสเพียวเป็นตราสินค้าสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ในขณะที่เบทาโกรเป็นตราสินค้าสำหรับผลิตภัณฑ์มาตรฐาน

มีสภาพคล่องที่เพียงพอ

ทริสเรทติ้งประเมินว่าบริษัทจะมีสภาพคล่องที่เพียงพอในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดยในช่วงดังกล่าวบริษัทมีความต้องการเงินทุนสำหรับใช้ชำระหนี้หุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนจำนวน 3 พันล้านบาทและใช้เป็นงบเพื่อการลงทุนอีกจำนวน 3 พันล้านบาท ส่วนแหล่งเงินทุนในเบื้องต้นนั้นคาดว่าจะมาจากเงินทุนจากการดำเนินงานจำนวน 3.7-5.2 พันล้านบาทต่อปี ในขณะที่สภาพคล่องนั้นมาจากเงินสดสำรองจำนวน 0.5 พันล้านบาทที่มี ณ สิ้นเดือนกันยายน 2564 รวมทั้งวงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ได้เบิกใช้จากสถาบันการเงินหลายแห่งอีกประมาณ 3.4 หมื่นล้านบาท

ตามข้อกำหนดทางการเงินของตราสารหนี้ที่ระบุให้บริษัทต้องดำรงอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนให้ต่ำกว่า 2 เท่านั้น ณ เดือนกันยายน 2564 บริษัทมีอัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ 1.7 เท่า ซึ่งทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทน่าจะสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดทางการเงินดังกล่าวได้ตลอดช่วงระยะเวลาประมาณการระหว่างปี 2564-2566

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

? รายได้จากการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้น 4%-8% ในระหว่างปี 2564-2566

? อัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ในช่วงระหว่าง 14%-15% ในขณะที่อัตรากำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้จะทรงตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 5.2%-6.6%

? ค่าใช้จ่ายลงทุนจะอยู่ที่ระดับ 2.4 พันล้านบาทในปี 2564 และ 5-6 พันล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2565-2566

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนมุมมองของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจภาคเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารของไทยเอาไว้ได้ต่อไป ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าการลงทุนจำนวนมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันตลอดจนสร้างกระแสเงินสดให้แก่บริษัทได้ในอนาคตอันใกล้

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

อันดับเครดิตอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากบริษัทสามารถปรับปรุงผลการดำเนินงาน ตลอดจนกระแสเงินสด และความสามารถในการชำระหนี้ให้ดีขึ้นได้อย่างยั่งยืน ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิตอาจได้รับการปรับลดลงหากบริษัทมีการลงทุนโดยใช้เงินกู้จำนวนมากจนอาจทำให้งบการเงินและกระแสเงินสดเพื่อการชำระหนี้ของบริษัทอ่อนแอลง

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564

- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562

- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงิน, 5 กันยายน 2561

บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) (BTG)
อันดับเครดิตองค์กร: A-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
BTG227A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A-
BTG233A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A-
BTG238A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566	        A-
BTG247A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567	A-
BTG248A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567	A-
BTG258A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568	A-
แนวโน้มอันดับเครดิต:	Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2564 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ