ทริสเรทติ้งประกาศ ?เครดิตพินิจ? แนวโน้ม ?Negative? หรือ ?ลบ? สำหรับอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) การประกาศเครดิตพินิจในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากความสำเร็จของบริษัทในการซื้อหุ้นของ บริษัท เจ. เอส. พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (JSP) ในสัดส่วน 35.35% หรือคิดเป็นเงิน 742 ล้านบาท โดย JSP เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI) ทั้งนี้ แหล่งเงินทุนประมาณ 80% ของมูลค่าการซื้อหุ้นดังกล่าวมาจากการกู้ยืมจากธนาคาร เนื่องจากบริษัทมีอำนาจควบคุมในกิจการของ JSP ทริสเรทติ้งจึงคาดว่าบริษัทน่าจะรวมผลการดำเนินงานของ JSP เข้ากับบริษัทตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป
?เครดิตพินิจ? แนวโน้ม ?Negative? หรือ ?ลบ? สะท้อนความกังวลของทริสเรทติ้งต่อภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้นของบริษัทจากการซื้อหุ้นดังกล่าวรวมถึงความสามารถในการทำกำไรของบริษัทที่อาจลดต่ำลงหลังรวมผลการดำเนินงานของ JSP ทั้งนี้ JSP มีอัตรากำไรจากการดำเนินงานที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมและประสบผลขาดทุนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ณ เดือนธันวาคม 2564 JSP มีโครงการที่อยู่อาศัยระหว่างการพัฒนาจำนวน 20 โครงการ ประกอบด้วย โครงการบ้านจัดสรร 13 โครงการ โครงการคอนโดมิเนียม 3 โครงการ และโครงการอาคารพาณิชย์ 4 โครงการ โดยมีมูลค่าเหลือขายรวมกัน 7.2 พันล้านบาท รายได้จากโครงการที่อยู่อาศัยของ JSP อยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2563-2564 ขณะที่กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายติดลบ ทริสเรทติ้งประเมินว่าบริษัทน่าจะต้องเผชิญกับความท้าทายสำคัญในการฟื้นฟูผลการดำเนินงานของ JSP ภายใต้สภาวะแวดล้อมทางการตลาดที่ไม่ค่อยเป็นใจนัก
นอกจากนี้ ระดับการก่อหนี้ของบริษัทก็สูงกว่าการคาดการณ์ของทริสเรทติ้ง โดยอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 53% ในปี 2563 เป็น 58% ในปี 2564 ซึ่งสูงกว่าประมาณการของทริสเรทติ้งที่ 52% อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินของบริษัทลดต่ำลงมาอยู่ที่ 8% ในปี 2564 จากระดับสูงกว่า 10% ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ การขยายโครงการคอนโดมิเนียมเชิงรุกอย่างต่อเนื่องทั้งโครงการของบริษัทเองและโครงการร่วมทุน รวมทั้งการซื้อหุ้น JSP ด้วยการใช้แหล่งเงินทุนจากการกู้ยืมเป็นส่วนใหญ่จะสร้างแรงกดดันมากยิ่งขึ้นต่อโครงสร้างเงินทุนและกระแสเงินสดเมื่อเปรียบเทียบกับภาระหนี้ให้แก่บริษัท
ความสำเร็จในการซื้อหุ้นในสัดส่วน 35.35% ดังกล่าวทำให้บริษัทต้องทำคำเสนอซื้อหุ้น JSP ในสัดส่วนที่เหลืออีก 64.65% ซึ่งคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จในช่วงกลางเดือนเมษายน 2565 ในกรณีที่บริษัทสามารถซื้อหุ้นที่เหลืออยู่ทั้งหมดได้ บริษัทจะใช้เงินเพิ่มเติมอีกประมาณ 1.36 พันล้านบาท โดยแหล่งเงินทุนประมาณ 60% ของมูลค่าการทำคำเสนอซื้อจะมาจากการกู้ยืมจากธนาคาร อย่างไรก็ตาม เนื่องจากราคาเสนอซื้อหุ้นสามัญของ JSP ที่ 0.50 บาทต่อหุ้นนั้นต่ำกว่าราคาตลาดในปัจจุบันอย่างมีนัยสำคัญ ทริสเรทติ้งจึงมองว่ามีความเป็นไปได้น้อยที่บริษัทจะต้องซื้อหุ้นที่เหลืออยู่ของ JSP ทั้งนี้ หากบริษัทต้องซื้อหุ้นที่เหลืออยู่ทั้งหมด ก็คาดว่าระดับการก่อหนี้ของบริษัทอาจเพิ่มขึ้นอีกได้
ทริสเรทติ้งจะทบทวนแนวโน้มเครดิตพินิจของบริษัทเมื่อการทำคำเสนอซื้อหุ้นดังกล่าวแล้วเสร็จและเมื่อได้ทำการวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนถึงผลกระทบต่อสถานะเครดิตของบริษัทจากการซื้อหุ้น JSP
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงินสำหรับธุรกิจทั่วไป, 11 มกราคม 2565
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564
- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562
บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
SENA253A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 BBB
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 6,800 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 5 ปี BBB
แนวโน้มเครดิตพินิจ: Negative