ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ?BBB+? ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตให้แก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ของบริษัทในวงเงินไม่เกิน 5 พันล้านบาทที่ระดับ ?BBB+? ด้วย โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่นี้ไปใช้ชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระและ/หรือนำไปใช้ในการดำเนินกิจการ
อันดับเครดิต ?BBB+? ยังคงสะท้อนถึงกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอซึ่งบริษัทได้รับจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement ? PPA) ระยะยาวภายใต้โครงการผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (Small Power Producer ? SPP) ที่มีกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตดังกล่าวมีปัจจัยลดทอนบางส่วนจากการปรับโครงสร้างกิจการภายในกลุ่มที่เป็นไปอย่างต่อเนื่องและภาระหนี้ของบริษัทที่เพิ่มขึ้น
ในปี 2564 ผลการดำเนินงานของบริษัทได้รับแรงกดดันจากราคาถ่านหินที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ของบริษัทอยู่ที่ระดับประมาณ 3.8 พันล้านบาทซึ่งต่ำกว่าที่ทริสเรทติ้งประมาณการ 9% นอกจากนี้ บริษัทยังมีอัตราส่วนเงินหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA เพิ่มขึ้นเป็น 3.5 เท่าในปี 2564 จาก 3.0 เท่าในปี 2563 อีกด้วย
ทริสเรทติ้งเชื่อว่าผลการดำเนินงานของบริษัทที่ได้รับแรงกดดันจากราคาถ่านหินที่อยู่ในระดับสูงจะผ่อนคลายลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว กฟผ. จะทำการปรับราคารับซื้อไฟฟ้าเพื่อสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของราคาถ่านหินปีละ 1 ครั้งในเดือนเมษายน ซึ่งบริษัทมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. อยู่ประมาณ 180 เมกะวัตต์ (25% ของกำลังการผลิตรวม) โดยราคาซื้อขายไฟฟ้าผูกกับราคาถ่านหิน ในขณะที่ค่าไฟฟ้าที่บริษัทจำหน่ายให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรมนั้นจะเพิ่มขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงของค่าปรับปรุงเชื้อเพลิงหรือค่า Ft (Fuel Adjustment Charge) ซึ่งในปี 2564 ถูกตรึงไว้ที่ (-)0.1532 บาทต่อหน่วย ปัจจุบันค่า Ft นี้ได้ปรับเพิ่มขึ้นมาเป็น 0.0139 บาทต่อหน่วยในช่วงเดือนมกราคม?เมษายน 2565 และจะเพิ่มขึ้นเป็น 0.2477 บาทต่อหน่วยในช่วงเดือนพฤษภาคม?สิงหาคม 2565 ในส่วนของลูกค้าอุตสาหกรรมนั้น บริษัทมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวม 305 เมกะวัตต์ (42% ของกำลังการผลิตรวม) โดยบริษัทใช้ถ่านหินในการผลิตไฟฟ้าคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40%-45% ของค่าความร้อนทั้งหมด
ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเกินกว่า 4 เท่าในปี 2565 เนื่องจากราคาถ่านหินที่อยู่ในระดับสูงและแผนการลงทุนของบริษัท บริษัทมีแผนซื้อกิจการด้านสาธารณูปโภคมูลค่าประมาณ 5 พันล้านบาทซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างกิจการของกลุ่ม โดยบริษัทจะลงทุนในบริษัทด้านสาธารณูปโภคที่ไม่มีภาระหนี้เงินกู้และดำเนินกิจการแล้ว บริษัทคาดว่าการลงทุนในครั้งนี้จะช่วยเพิ่ม EBITDA ให้แก่บริษัทได้ประมาณ 500-600 ล้านบาทต่อปี ในการนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA ของบริษัทจะลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 3.5 เท่าในปี 2566 หลังจากรับรู้รายได้อย่างเต็มที่จากการซื้อกิจการและได้ประโยชน์จากการปรับราคาขายไฟฟ้า
ณ เดือนธันวาคม 2564 บริษัทมีภาระหนี้ทั้งสิ้นจำนวน 1.67 หมื่นล้านบาท โดยหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อน ประกอบด้วยเงินกู้ไม่มีหลักประกันของบริษัทย่อยจำนวน 131 ล้านบาท ดังนั้น บริษัทจึงมีอัตราส่วนหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนต่อภาระหนี้ทั้งหมดอยู่ที่ระดับประมาณ 0.8% ณ เดือนธันวาคม 2564
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนถึงความคาดหมายของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถดำรงผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าและสร้างกระแสเงินสดที่แน่นอนได้ตามแผน นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดว่าบริษัทจะสามารถจัดหาลูกค้าอุตสาหกรรมมาทดแทนสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. ที่กำลังจะทยอยหมดอายุลงในช่วงปี 2567-2570 ได้อย่างราบรื่น
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
โอกาสที่บริษัทจะได้รับการปรับอันดับเครดิตเพิ่มขึ้นในระยะ 12-18 เดือนข้างหน้านั้นมีค่อนข้างจำกัด ในทางตรงกันข้าม ปัจจัยที่อาจมีผลต่อการลดอันดับเครดิตอาจเกิดจากการที่ผลการดำเนินงานของบริษัทถดถอยลงอย่างมีสาระสำคัญ หรือบริษัทมีการลงทุนขนาดใหญ่โดยการใช้เงินกู้ซึ่งจะทำให้สถานะทางการเงินของบริษัทอ่อนแอลงมากกว่าที่ประมาณการไว้
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงินสำหรับธุรกิจทั่วไป, 11 มกราคม 2565
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564
- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562
บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) (NPS)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
NPS242A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,383.7 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 BBB+
NPS24NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,250 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 BBB+
NPS258A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,298.2 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 BBB+
NPS265A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 BBB+
NPS273A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,250 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2570 BBB+
NPS28NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2571 BBB+
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 10 ปี BBB+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable