ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน “EDL-Gen” ที่ “BBB-” เปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิต เป็น “Stable” จาก “Negative”

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 20, 2022 17:02 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ EDL-Generation Public Company (EDL-Gen) ที่ระดับ ?BBB-? ในขณะเดียวกัน ได้ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของ EDL-Gen ขึ้นเป็น ?Stable? หรือ ?คงที่? จาก ?Negative? หรือ ?ลบ? ตามการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มอันดับเครดิตประเทศของ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) ทั้งนี้ ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 ทริสเรทติ้งได้ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของ สปป. ลาว เป็น ?Stable? หรือ ?คงที่? จาก ?Negative? หรือ ?ลบ? ในขณะที่คงอันดับเครดิตที่ระดับ ?BBB-? เช่นเดิม

อันดับเครดิตที่ระดับ ?BBB-? ของ EDL-Gen ยังคงสะท้อนถึงมุมมองของทริสเรทติ้งเกี่ยวกับสถานะของบริษัทที่เป็นบริษัทย่อยหลักของ Electricite du Laos (EDL) รวมถึงสถานะที่เป็นรัฐวิสาหกิจของ สปป. ลาว และบทบาทที่สำคัญของบริษัทในอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้าใน สปป. ลาว ในขณะที่ EDL ก็เป็นรัฐวิสาหกิจของ สปป. ลาว ซึ่งมีรัฐบาล สปป. ลาว เป็นผู้ถือหุ้น 100% ด้วยเช่นกัน ดังนั้น สถานะเครดิตของ EDL จึงเชื่อมโยงกับอันดับเครดิตของ สปป. ลาว

ทั้งนี้ อันดับเครดิตเฉพาะของบริษัท (Standalone Credit Profile ? SACP) ที่ ?bbb-? นั้นสะท้อนถึงสถานะทางการตลาดที่แข็งแรงของบริษัทในอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้าใน สปป. ลาว ตลอดจนผลการดำเนินงานซึ่งเป็นที่ยอมรับ และการมีโรงไฟฟ้าที่กระจายตัวเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทก็มีข้อจำกัดจากสถานะทางการเงินที่อ่อนแอของ EDL ซึ่งเป็นผู้รับซื้อไฟฟ้าที่บริษัทผลิตแต่เพียงผู้เดียว

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

เชื่อมโยมกับสถานะเครดิตของ EDL และ สปป. ลาว

สถานะเครดิตของ EDL-Gen สะท้อนถึงสถานะเครดิตของ EDL และ สปป. ลาว ทั้งนี้ EDL-Gen เป็นบริษัทย่อยหลักของ EDL โดยสืบทอดบทบาทในการเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าให้แก่ประเทศแทน EDL มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง ในขณะเดียวกัน EDL ก็เป็นลูกค้ารายเดียวของ EDL-Gen และยังเป็นเจ้าของระบบสายส่งไฟฟ้าแรงสูงของประเทศแต่เพียงผู้เดียวอีกด้วย ดังนั้น EDL-Gen จึงมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับ EDL ภายใต้โครงสร้างดังกล่าว

EDL มีอิทธิพลต่อทิศทางธุรกิจของ EDL-Gen ในหลายแง่ไม่ว่าจะเป็นโอกาสในการเติบโตของบริษัท โครงสร้างสัญญาซื้ขายไฟฟ้าในอนาคต รวมถึงนโยบายในการจ่ายเงินปันผล เป็นต้น

EDL เป็นรัฐวิสาหกิจซึ่งมีกระทรวงการเงินของ สปป. ลาว หรือ Ministry of Finance of Lao PDR (MOFL) เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด ดังนั้น สถานะเครดิตของ EDL จึงสะท้อนถึงความเป็นไปได้ในระดับสูงที่รัฐบาล สปป. ลาว จะให้การสนับสนุนในภาวะที่ EDL เผชิญกับความยากลำบาก จากการที่ทั้ง EDL และ EDL-Gen ต่างก็มีบทบาทสำคัญตามแผนพัฒนาระบบไฟฟ้าของ สปป. ลาว ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของแผนพัฒนาประเทศเพื่อพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมของ สปป. ลาว

มีสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมไฟฟ้าของ สปป. ลาว

EDL-Gen เป็นหนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ของ สปป. ลาว โดย ณ เดือนธันวาคม 2564 บริษัทมีกำลังการผลิตที่ดำเนินการแล้วตามสัดส่วนการถือหุ้นจำนวน 1,683 เมกะวัตต์ ซึ่งประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่ EDL-Gen ถือหุ้นเองทั้งหมดจำนวน 699 เมกะวัตต์ และการลงทุนในโครงการผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ (Independent Power Producer -- IPP) ผ่านบริษัทร่วมและกิจการร่วมค้าจำนวน 984 เมกะวัตต์

จากกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นทั้งหมด กำลังการผลิตจำนวน 926 เมกะวัตต์ (หรือ 55%) เป็นไฟฟ้าที่ผลิตเพื่อจำหน่ายภายในประเทศ ในขณะที่กำลังการผลิตจำนวน 705 เมกะวัตต์ (หรือ 42%) ส่งออกไปยังประเทศไทย และจำนวน 52 เมกะวัตต์ (หรือ 3%) ส่งออกไปยังประเทศกัมพูชา โดยกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทนั้นคิดเป็นประมาณ 15%-16% ของกำลังการผลิตติดตั้งทั้งหมดใน สปป. ลาว สำหรับตลาดในประเทศนั้น EDL-Gen เป็นผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดซึ่งมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ประมาณ 29% ของไฟฟ้าที่ใช้ใน สปป. ลาว

แผนการโอนโรงไฟฟ้าพลังน้ำ 3 แห่งจาก EDL ได้แก่ น้ำคาน 3, เซเซต 3, และ น้ำเชียน ซึ่งมีกำลังการผลิตรวมจำนวน 187 เมกะวัตต์ ยังคงล่าช้ากว่าแผน อันเนื่องจากขั้นตอนของระบบการดำเนินงานใน สปป. ลาว อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่าการโอนโรงไฟฟ้าดังกล่าวน่าจะเสร็จสิ้นภายในปี 2565 นี้ อีกทั้ง ทริสเรทติ้งยังคาดว่าจะมีการโอนการถือหุ้นในโครงการ IPP จาก EDL ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นอีก 18 เมกะวัตต์ด้วย จากเหตุดังกล่าว กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทน่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,888 เมกะวัตต์ในสิ้นปี 2565 นี้ จาก 1,683 เมกะวัตต์ ณ สิ้นปี 2564

อุปทานไฟฟ้าส่วนเกินคาดว่าจะผ่อนคลายลง

ณ สิ้นปี 2564 สปป. ลาว มีกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งสิ้นประมาณ 10,900 เมกะวัตต์ โดยกำลังการผลิตประมาณ 6,400 เมกะวัตต์เป็นการส่งออกไปยังประเทศไทย (96%) และกัมพูชา (4%) ส่วนกำลังการผลิตที่เหลืออีกประมาณ 4,500 เมกะวัตต์นั้นเป็นกำลังการผลิตสำหรับตลาดภายในประเทศ ในขณะที่อุปสงค์การใช้ไฟฟ้าสูงสุดภายในประเทศของ สปป. ลาว ในปี 2564 อยู่ที่ประมาณ 1,400-1,500 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ หากใช้สมมติฐานอัตราความสามารถในการผลิตเฉลี่ย (Capacity Factor) ที่ 50% ของโรงไฟฟ้าพลังน้ำแล้วก็คาดว่า สปป. ลาว จะมีอุปทานส่วนเกินของกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ประมาณ 800-1,000 เมกะวัตต์ ณ สิ้นปี 2564

ทริสเรทติ้งเชื่อว่ากำลังการผลิตไฟฟ้าส่วนเกินใน สปป. ลาว น่าจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้นจากการที่รัฐบาลมีนโยบายที่จะดึงดูดอุตสาหกรรมที่มีการใช้ไฟฟ้าในระดับสูงเข้ามาในประเทศ เช่น ธุรกิจบริการศูนย์ข้อมูล (Data Center) และธุรกิจทำเหมืองบิตคอยน์ (Bitcoin Mining) นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้อนุญาตให้ IPP สามารถปรับเปลี่ยนการจำหน่ายไฟฟ้าในประเทศไปสู่การส่งออกให้กับประเทศกัมพูชาและประเทศเวียดนามได้ตั้งแต่ปี 2562 ทั้งนี้ หากการก่อสร้างระบบสายส่งไฟฟ้าที่เชื่อมต่อไปยังประเทศเวียดนามแล้วเสร็จ การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์นี้ก็น่าจะทำให้อุปสงค์และอุปทานของปริมาณไฟฟ้าในประเทศมีความสมดุลมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงช่วยบรรเทาสถานการณ์อุปทานส่วนเกินในตลาดไฟฟ้าในประเทศลาวได้ด้วย

ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าในปี 2564 ยังคงน่าพอใจ

ในปี 2564 EDL-Gen สามารถจำหน่ายไฟฟ้าได้จำนวน 2,299 ล้านหน่วยให้กับ EDL ซึ่งใกล้เคียงกับปริมาณไฟฟ้าที่จำหน่ายในปีก่อนหน้าที่ 2,308 ล้านหน่วย อย่างไรก็ตาม รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าของบริษัทเพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยมีรายได้เท่ากับ 1.20 ล้านล้านกีบในปี 2564 จาก 1.17 ล้านล้านกีบในปี 2563 สาเหตุหลักมาจากการขึ้นปรับขึ้นค่าไฟฟ้าในอัตรา 1% และการอ่อนค่าของสกุลเงินกีบลาวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ ประมาณ 30% ของไฟฟ้าที่จำหน่ายให้กับ EDL นั้นมีอัตราค่าไฟฟ้าที่อิงกับดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่ค่าเงินลาวกีบอ่อนค่าลงคิดเป็นประมาณ 7.6% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงปี 2564

ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในโครงการ IPP เพิ่มขึ้นถึง 92.6% เป็น 9.61 แสนล้านกีบในปี 2564 จาก 4.98 แสนล้านกีบในปี 2563 โดยการเพิ่มขึ้นนั้นเกิดจากรายได้ที่มีการอิงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และปริมาณน้ำที่ดีขึ้นในโรงไฟฟ้าที่สำคัญ ๆ เช่น ไซยะบุรี เทินหินบูน และน้ำงึม 2 เป็นต้น ในขณะเดียวกัน เงินปันผลจากการลงทุนใน IPP ก็เพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 200% โดย EDL-Gen ได้รับเงินปันผลจากการลงทุนอยู่ที่ 4.75 แสนล้านกีบในปี 2564 เพิ่มขึ้นจาก 1.54 แสนล้านกีบในปี 2563

สถานะทางการเงินของ EDL น่าจะค่อย ๆ ฟื้นตัว

การค้างชำระค่าไฟฟ้าของ EDL ยังคงเป็นความเสี่ยงที่สำคัญของ EDL-Gen เนื่องจากปริมาณไฟฟ้าทั้งหมดที่ผลิตจากโรงไฟฟ้าที่ EDL-Gen ถือหุ้นเองทั้งหมดนั้นถูกจำหน่ายให้กับ EDL ทั้งนี้ สถานะทางการเงินของ EDL อ่อนแอลงมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากอุปทานส่วนเกินของไฟฟ้าภายในประเทศ รวมไปถึงการใช้เงินลงทุนจำนวนมากในการพัฒนาระบบสายส่งไฟฟ้าของประเทศ การค้างชำระค่าไฟฟ้านั้นส่งผลให้มูลค่าลูกหนี้การค้าของ EDL-Gen เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 โดยลูกหนี้การค้าเพิ่มขึ้นจาก 0.54 ล้านล้านกีบ ณ สิ้นปี 2562 เป็น 1.97 ล้านล้านกีบ ณ สิ้นปี 2564

อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งเชื่อว่าสภาพคล่องของ EDL น่าจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น โดยประเมินจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของปริมาณการใช้ไฟฟ้าใน สปป. ลาว และมาตรการที่ EDL กำลังดำเนินการอยู่เพื่อแก้ปัญหาสภาพคล่องดังกล่าว โดยมาตรการเหล่านั้นประกอบด้วย แผนการขึ้นอัตราค่าไฟฟ้าในประเทศ ความพยายามในการส่งออกไฟฟ้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านให้มากขึ้น และการปรับโครงสร้างหนี้ของเงินกู้ของ EDL เอง นอกจากนี้ EDL ยังอยู่ในขั้นตอนการโอนระบบสายส่งไฟฟ้าให้กับ EDLT ซึ่งเป็นบริษัทร่วมค้าระหว่าง Southern China Power Grid (ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วน 90%) และ EDL (ถือหุ้นในสัดส่วน 10%) โดยคาดว่าการโอนสินทรัพย์ดังกล่าวจะทำให้ EDL และกระทรวงการเงินได้รับเงินทุนจำนวน 500-700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าลูกหนี้การค้าของ EDL-Gen จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จากแผนที่จะนำค่าไฟฟ้าที่ EDL ค้างชำระอยู่กับ EDL-Gen มาหักลบกับเงินกู้ยืมที่บริษัทมีอยู่กับ EDL

มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของบริษัทเกิดจากความไม่สอดคล้องกันของสกุลเงินในส่วนของรายรับและรายจ่าย ยังคงเป็นข้อจำกัดต่อสถานะทางธุรกิจของบริษัทและผลการดำเนินงาน โดยโครงสร้างรายได้ของบริษัทประมาณ 51% เป็นเงินกีบลาว ในขณะที่ 44% เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และอีก 5% เป็นเงินบาทไทย ในขณะที่เงินกู้ส่วนใหญ่อยู่ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และเงินบาท ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2564 บริษัทมีเงินกู้ในสกุลเงินบาทประมาณ 42% และในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จำนวน 57% ส่วนที่เหลืออยู่ในสกุลเงินยูโร

ในระหว่างปี 2564 ค่าเงินกีบลาวอ่อนค่าลง 7.6% เมื่อเทียบกับเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ และอ่อนค่าลง 4.8% เมื่อเทียบกับเงินบาทไทย ส่งผลทำให้ EDL-Gen มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจำนวน 6.13 แสนล้านกีบในปี 2564 ในขณะที่มีภาระหนี้เงินกู้เพิ่มขึ้นเป็น 16.1 ล้านล้านกีบในปี 2564 จาก 14.6 ล้านล้านกีบในปี 2563

มีการลงทุนในระดับปานกลางในช่วงปี 2565-2567

เงินลงทุนของ EDL-Gen คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 8.9 ล้านล้านกีบในช่วงปี 2565-2567 โดยเงินลงทุนจะถูกจัดสรรไว้สำหรับการบำรุงรักษาประจำปีประมาณ 0.31 ล้านล้านกีบ การซื้อโรงไฟฟ้าซึ่งรับโอนมาจาก EDL จำนวน 6.1 ล้านล้านกีบ (ชำระเงินแล้ว) การซื้อเงินลงทุนในโครงการ IPP จาก EDL จำนวน 0.1 ล้านล้านกีบ (ชำระเงินแล้ว) ในขณะที่ส่วนที่เหลือจะใช้สำหรับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ และการลงทุนโดยตรงของในโครงการ IPP ต่าง ๆ ของบริษัทเอง

ภาระหนี้เงินกู้ยังอยู่ในระดับสูง

ทริสเรทติ้งคาดว่าภาระหนี้เงินกู้ของ EDL-Gen จะยังคงเพิ่มขึ้นในช่วงปี 2565-2567 จากการรวมเงินกู้โครงการของโรงไฟฟ้าพลังน้ำประมาณ 4.5-5.0 ล้านล้านกีบที่จะรับโอนมาจาก EDL ส่งผลทำให้ภาระหนี้รวมของบริษัทน่าจะอยู่ที่ 19-20 ล้านล้านกีบ ทั้งนี้ สัดส่วนภาระหนี้สินของบริษัท ซึ่งวัดด้วยอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุน น่าจะยังอยู่ในระดับสูงที่ 60%-65% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม โรงไฟฟ้าพลังน้ำที่จะรับโอนเข้ามาน่าจะทำให้กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เพิ่มขึ้นถึงประมาณ 4-5 แสนล้านกีบต่อปีด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดว่าบริษัทจะได้รับเงินปันผลจากการลงทุนในโครงการ IPP ที่เพิ่มมากขึ้นด้วยในช่วงเวลา 3 ปีข้างหน้าจากโครงการเขื่อนดอนสะโฮงซึ่งมีกำลังการผลิต 260 เมกะวัตต์และการเพิ่มขึ้นของการผลิตไฟฟ้าในโครงการ IPP อื่น ๆ

ในการคาดการณ์กรณีพื้นฐานของทริสเรทติ้ง คาดว่า EBITDA จะเพิ่มขึ้นและอยู่ที่ประมาณ 2.0-2.2 ล้านล้านกีบระหว่างปี 2566-2567 จาก 1.5 ล้านล้านกีบในปี 2564 อัตราส่วนทางการเงินจะค่อย ๆ ปรับดีขึ้นแต่ยังคงแสดงถึงสัดส่วนภาระหนี้สินที่อยู่ในระดับสูง โดยอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินสุทธิต่อ EBITDA ของบริษัทคาดว่าจะดีขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 9-10 เท่าในช่วงปี 2565-2567 จาก 11 เท่าในปี 2564 อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินสุทธิจะอยู่ที่ประมาณ 5% ในช่วงเวลาเดียวกัน จาก 3.9% ในปี 2564

ณ เดือนธันวาคม 2564 บริษัทมีภาระหนี้ทั้งหมดจำนวน 17.2 ล้านล้านกีบ โดยจำนวนประมาณ 2.53 แสนล้านกีบเป็นเงินกู้ไม่ด้อยสิทธิ และไม่มีหลักประกันซึ่งกู้โดยบริษัทย่อยของ EDL-Gen ดังนั้น อัตราส่วนของภาระหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนต่อภาระหนี้เงินกู้ทั้งหมดจึงอยู่ที่ 1.5% ณ สิ้นปี 2564

การรีไฟแนนซ์ยังคงจำเป็นต่อการรักษาสภาพคล่อง

บริษัทมีภาระหนี้เงินกู้ที่จะครบชำระในอีก 12 เดือนข้างหน้ารวมทั้งสิ้น 1.045 ล้านล้านกีบ ซึ่งประกอบด้วยเงินกู้ระยะยาวกับ EDL จำนวน 4.66 แสนล้านกีบ และหุ้นกู้ในสกุลเงินไทยบาทจำนวนประมาณ 4.09 แสนล้านกีบ (หรือ 1.08 พันล้านบาท) จากประวัติการออกหุ้นกู้ในอดีต บริษัทน่าจะสามารถรีไฟแนนซ์หุ้นกู้ที่กำลังจะครบกำหนดไถ่ถอนในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2565 นี้ได้

ทริสเรทติ้งเชื่อว่า จากการที่บริษัทมีบทบาทที่สำคัญต่อระบบการผลิตไฟฟ้าของประเทศ กระทรวงการเงินของ สปป. ลาว จะยังคงให้ความช่วยเหลือแก่บริษัทอย่างเต็มที่หากบริษัทไม่สามารถออกหุ้นกู้ได้ครบจำนวนตามแผน

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

? รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าของ EDL-Gen จะอยู่ที่ประมาณ 1.5-1.9 ล้านล้านกีบต่อปีในระหว่างปี 2565-2567

? อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงาน ( Operating Margin ) จะอยู่ที่ประมาณ 80% ตลอดระยะเวลาประมาณการ

? เงินลงทุนในช่วงปี 2565-2567 คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 8.9 ล้านล้านกีบ

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนถึงแนวโน้มอันดับเครดิตของ สปป. ลาว โดยทริสเรทติ้งคาดว่าโครงสร้างธุรกิจและระดับของความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทและ EDL จะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากปัจจุบันอีกทั้ง EDL จะยังคงถือหุ้นส่วนใหญ่ใน EDL-Gen และจะยังคงได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากรัฐบาล สปป. ลาว ต่อไป

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

การเปลี่ยนอันดับเครดิตและแนวโน้มอันดับเครดิตของ สปป. ลาว จะส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตหรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัท ทั้งนี้ อันดับเครดิตของบริษัทสะท้อนถึงสถานะเครดิตของ EDL และสถานะอันดับเครดิตประเทศของ สปป. ลาว

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงินสำหรับธุรกิจทั่วไป, 11 มกราคม 2565

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ, 13 มกราคม 2564

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตองค์กรที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐ, 30 กรกฎาคม 2563

- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562

EDL-Generation Public Company (EDL-Gen)

อันดับเครดิตองค์กร: BBB-

อันดับเครดิตตราสารหนี้:

EDLGEN227A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,085.5 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 BBB-

EDLGEN237A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,078.1 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 BBB-

EDLGEN247A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,660.7 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 BBB-

EDLGEN247B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,099.4 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 BBB-

EDLGEN249A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 837.1 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 BBB-

EDLGEN24DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 BBB-

EDLGEN257A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,443.1 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 BBB-

EDLGEN259A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,690.3 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 BBB-

EDLGEN287A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,897.9 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2571 BBB-

EDLGEN307A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 809.8 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2573 BBB-

EDLGEN311A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,093.4 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2574 BBB-

EDLGEN337A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,621.2 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2576 BBB-

EDLGEN239A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 51 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไถ่ถอนปี 2566 BBB-

EDLGEN269A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 166 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไถ่ถอนปี 2569 BBB-

EDLGEN289A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 95 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไถ่ถอนปี 2571 BBB-

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2564 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ