ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ?A? พร้อมแนวโน้มอันดับเครดิต ?Negative? หรือ ?ลบ? ทั้งนี้ อันดับเครดิตองค์กรสะท้อนถึงสถานะของบริษัทในการเป็นบริษัทลูกหลักของ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งตาม ?เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ? (Group Rating Methodology) ของทริสเรทติ้งนั้น อันดับเครดิตของบริษัทลูกหลักโดยปกติแล้วจะอยู่ในระดับเดียวกับสถานะเครดิตของกลุ่ม โดยอันดับเครดิตของบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์อยู่ที่ระดับ ?A/Negative? ซึ่งจัดอันดับโดยทริสเรทติ้ง
ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต
มีฐานะเป็นบริษัทลูกหลักของบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์
ทริสเรทติ้งประเมินให้บริษัทมีสถานะเป็นบริษัทลูกหลักของบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ โดยบริษัทเป็นผู้ถือสัญญาสัมปทานในการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวรวมทั้งให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M Contract) สำหรับรถไฟฟ้าทุกระบบที่ดำเนินงานโดยกลุ่มบีทีเอส นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นผู้ให้บริการสื่อโฆษณาในขบวนรถไฟฟ้าบีทีเอสและพื้นที่เชิงพาณิชย์ในบริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสผ่านบริษัทย่อยคือ บริษัท วี จี ไอ จำกัด (มหาชน) อีกด้วย บริษัทเป็นแหล่งรายได้และกำไรหลักของกลุ่มบีทีเอส โดยรายได้ของบริษัทคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 70% ของรายได้รวมของกลุ่มบีทีเอสในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ในส่วนของกำไรนั้น บริษัทสร้างผลกำไรคิดเป็นสัดส่วนเกือบทั้งหมดของกำไรรวมของกลุ่มบีทีเอสในช่วง 9 เดือนแรกของปีบัญชี 2565 ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้และกำไรของบริษัทจะยังคงเป็นสัดส่วนหลักของกลุ่มบีทีเอสต่อไปเนื่องจากรายได้จากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้านั้นสามารถคาดการณ์ได้และรายได้จากการขยายธุรกิจสื่อโฆษณาก็ปรับตัวดีขึ้น
ณ เดือนมีนาคม 2565 บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ถือหุ้นในบริษัทในสัดส่วน 97% ในขณะเดียวกันผู้บริหารและกลยุทธ์กลุ่มของบริษัททั้ง 2 แห่งยังมีบูรณาการร่วมกันและพึ่งพากันในระดับสูงอีกด้วย
ถือสัญญาสัมปทานและสัญญาให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า
บริษัทถือสัญญาสัมปทานในรูปแบบ Build-Transfer-Operate อายุ 30 ปีในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนหลักซึ่งได้รับการอนุมัติจากกรุงเทพมหานครให้ดำเนินงานในช่วงระหว่างปี 2542-2572 โดยในปี 2556 บริษัทได้ขายรายได้จากผู้โดยสารสุทธิจากการดำเนินงานในอนาคตภายใต้สัญญาสัมปทานให้แก่กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางรางบีทีเอสโกรท (BTS Rail Mass Transit Growth Infrastructure Fund -- BTSGIF) เป็นเงินจำนวน 6.1 หมื่นล้านบาท บริษัทยังได้ทำสัญญาให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าจำนวน 2 ฉบับกับ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางธุรกิจของกรุงเทพมหานครด้วย โดยสัญญาฉบับแรกได้มีการลงนามไปในปี 2555 ซึ่งครอบคลุมรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายส่วนแรกและรถไฟฟ้าส่วนหลัก ในขณะที่สัญญาฉบับที่ 2 ได้มีการลงนามในปี 2560 ซึ่งครอบคลุมรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายส่วนที่ 2 ซึ่งสัญญาทั้ง 2 ฉบับนี้จะหมดอายุพร้อมกันในปี 2585
บริษัทยังได้มีการทำสัญญาให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้ากับบริษัทร่วมทุน 2 แห่งของบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ และผู้ร่วมทุนอีก 2 ราย คือ บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอก โมโนเรล จำกัด และ บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด เพื่อดำเนินงานโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยวสายสีชมพูและสายสีเหลือง โดยทั้งสองโครงการยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการเต็มเส้นทางได้ในปี 2566 ในขณะที่ในช่วงปลายปี 2565 คาดว่าจะสามารถเริ่มเปิดให้บริการได้ในบางส่วน
รายได้ของบริษัทจากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าถือเป็นสัดส่วนหลักของรายได้ของกลุ่มบีทีเอส โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีบัญชี 2565 รายได้จากการให้บริการดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 57% ของรายได้ของกลุ่มบีทีเอส รายได้จากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามค่าบริการเพิ่มที่ได้กำหนดไว้สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเขียวและรายได้จากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าที่จะได้รับเพิ่มขึ้นจากรถไฟฟ้ารางเดี่ยวสายสีชมพูและสายสีเหลืองที่จะเริ่มตั้งแต่ปีบัญชี 2567 เป็นต้นไป ในการนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีรายได้จากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 9 พันล้านบาทในปีบัญชี 2567 เมื่อเทียบกับระดับ 5.3 พันล้านบาทในปีบัญชี 2564
มีสถานะที่ดีในการประมูลโครงการขนส่งมวลชนโครงการใหม่ ๆ
กลยุทธ์ของกลุ่มบีทีเอสคือการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับผู้ร่วมทุนในการเข้าประมูลหรือพัฒนาโครงการขนส่งมวลชนโครงการใหม่ ๆ โดยการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนนั้นจะช่วยลดความเสี่ยงจากโครงการให้แก่บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ได้ ทั้งนี้ บริษัทได้รับการวางบทบาทให้เป็นบริษัทหลักของกลุ่มบีทีเอสในการเข้าประมูลโครงการสาธารณูปโภคใหม่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการขนส่งมวลชนต่าง ๆ เนื่องจากคุณสมบัติที่สำคัญสำหรับผู้เข้าร่วมประมูลนั้นจะต้องมีประสบการณ์และผลการดำเนินงานย้อนหลังทั้งในด้านการพัฒนาและการดำเนินงานโครงการ โดยบริษัทเป็นหนึ่งในสองของผู้ให้บริการรถไฟฟ้าในประเทศไทยซึ่งมีผลงานที่เป็นที่ยอมรับมามากกว่า 20 ปีในการดำเนินงานระบบรถไฟฟ้า ดังนั้น ความแข็งแกร่งดังกล่าวจึงถือเป็นจุดแข็งสำคัญที่ส่งผลให้กลุ่มบีทีเอสมีสถานะที่ดีในการชนะการประมูลโครงการขนส่งมวลชนโครงการใหม่ ๆ
สถานะสภาพคล่องน่าจะอยู่ในระดับที่ยอมรับได้
ทริสเรทติ้งประเมินว่าบริษัทจะมีสภาพคล่องที่เพียงพอในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดย ณ เดือนธันวาคม 2564 บริษัทมีเงินสดในมือจำนวน 1.9 พันล้านบาทและมีเงินลงทุนระยะสั้นจำนวน 1.1 พันล้านบาท นอกจากนี้ ในช่วง 12 เดือนข้างหน้าบริษัทจะมีเงินทุนจากการดำเนินงานจำนวนประมาณ 5 พันล้านบาท อีกทั้งบริษัทยังมีวงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ได้เบิกใช้จากธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ อีกจำนวน 1.37 หมื่นล้านบาทอีกด้วย ในขณะที่บริษัทมีภาระในการชำระหนี้ในช่วง 12 เดือนข้างหน้าซึ่งประกอบด้วยหนี้ระยะยาวจำนวน 1.3 พันล้านบาทและหนี้ระยะสั้นจำนวน 1 หมื่นล้านบาท
ณ เดือนธันวาคม 2564 บริษัทมีหนี้สินรวมอยู่ที่จำนวนทั้งสิ้น 2.88 หมื่นล้านบาทซึ่งเป็นหนี้ที่มีสิทธิ์ได้รับชำระคืนก่อนจำนวน 8.2 พันล้านบาท โดยหนี้ที่มีสิทธิ์ได้รับชำระคืนก่อนเป็นหนี้ที่ไม่มีการค้ำประกันของบริษัทย่อย ในการนี้ บริษัทมีอัตราส่วนหนี้ที่มีสิทธิ์ได้รับชำระคืนก่อนต่อหนี้สินรวมอยู่ที่ระดับ 28.5%
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต ?Negative? หรือ ?ลบ? ของบริษัทขึ้นอยู่กับแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้หากสถานะเครดิตของบริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เปลี่ยนแปลงไป หรือหากทริสเรทติ้งมองเห็นความเปลี่ยนแปลงของสถานะในการเป็นบริษัทย่อยของบริษัทเมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทย่อยอื่น ๆ หรือบริษัทในเครือของบริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงินสำหรับธุรกิจทั่วไป, 11 มกราคม 2565
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ, 13 มกราคม 2564
- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562
บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BTSC)
อันดับเครดิตองค์กร: A
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
BTSC23NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A
BTSC24NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A
BTSC26NB: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 A
BTSC28NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2571 A
BTSC31NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2574 A
แนวโน้มอันดับเครดิต: Negative