ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด (DBSVT) ที่ระดับ ?AAA? ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะของบริษัทในการเป็นบริษัทย่อยที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับสูงของ DBS Group ซึ่งมีหน่วยธุรกิจหลักเป็น DBS Bank Ltd. (ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ ?AA-/Stable? จาก S&P Global Ratings)
ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต
เป็นบริษัทย่อยที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับสูงของ DBS Group
ทริสเรทติ้งประเมินว่า DBSVT มีสถานะเป็นบริษัทย่อยที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับสูงของ DBS Group โดยบริษัทเป็นบริษัทลูกที่ถือหุ้นทั้งหมดโดย DBS Vickers Securities Holding Pte. (DBSVH) ซึ่งให้บริการด้านธุรกิจหลักทรัพย์ของ DBS Group ในประเทศสิงคโปร์ บริษัทดำรงสถานะเป็นหน่วยธุรกิจที่สำคัญของ DBS Group ในการให้บริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์แก่ลูกค้าในเครือข่ายของกลุ่มและบริษัทในเครือในประเทศไทย บริษัทยังคงมีความเชื่อมโยงที่แข็งแกร่งกับกลุ่มสะท้อนให้เห็นจากการแนะนำลูกค้าและความร่วมมือภายในกลุ่ม นอกจากนี้ บริษัทยังนำกลยุทธ์และเป้าหมายทางการเงินของ DBS Group มาปรับใช้ และยังต่อยอดความแข็งแกร่งในธุรกิจธนบดีธนกิจ (Private Banking) ของ DBS Bank ด้วยเพื่อสร้างประโยชน์ในธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) ในประเทศไทยที่มีอัตราการเติบโตที่เข้มแข็งด้วย
ในมุมมองของทริสเรทติ้ง DBS Group มีข้อผูกพันที่แน่นแฟ้นในการให้การสนับสนุนแก่บริษัทในระยะยาวเนื่องจากกลุ่มเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดในบริษัทและบทบาทของบริษัทในฐานะที่เป็นส่วนสำคัญของการดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ในเอเชีย ในฐานะที่เป็นหน่วยธุรกิจที่สำคัญส่วนหนึ่งของกลุ่ม กลยุทธ์ทางธุรกิจและนโยบายการบริหารความเสี่ยงของบริษัทถูกกำหนดและติดตามอย่างใกล้ชิด โดย DBS Group ในมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่าชื่อเสียงของบริษัทนั้นมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอย่างแยกไม่ออกเนื่องจากใช้ชื่อแบรนด์เดียวกัน ในการนี้ ทริสเรทติ้งเห็นว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ความเชื่อมโยงระหว่าง DBS Group และบริษัทจะยังคงอยู่ต่อไปในอนาคตอันใกล้
สถานะทางการตลาดอยู่ในระดับปานกลาง
ทริสเรทติ้งประเมินว่าสถานะทางการตลาดในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ของ DBSVT อยู่ในระดับปานกลาง ส่วนแบ่งรายได้จากธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทอยู่ที่ระดับ 1.8% ในปี 2564 ลดลงจาก 2.3% ในปี 2563 โดยเป็นผลมาจากปริมาณการซื้อขายที่ลดลงจากนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการซื้อขายผ่านระบบ Direct Market Access (DMA) ในปี 2564 ทั้งนี้ การซื้อขายหลักทรัพย์จากนักลงทุนต่างชาติคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 68% ของปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท ลดลงจาก 75%-90% ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
บริษัทยังคงเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจการบริหารความมั่งคั่งอย่างต่อเนื่อง โดยต่อยอดจากแพลตฟอร์มการลงทุนของบริษัทแม่ บริษัทเพิ่มการนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนในต่างประเทศ ให้กับลูกค้าที่มีความมั่งคั่งอย่างค่อยเป็นค่อยไป นอกจากนี้ ธุรกิจการบริหารความมั่งคั่งของบริษัทยังช่วยกระจายแหล่งรายได้ของบริษัทออกจากธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์อีกด้วย ในปี 2564 ส่วนแบ่งรายได้ค่าธรรมเนียมจากการเป็นตัวแทนขายอยู่ที่ระดับ 12.4% ของรายได้ทั้งหมด เพิ่มขึ้นจาก 9.1% และ 10.2% ในปี 2562 และ 2563 ตามลำดับ
การบริหารจัดการความเสี่ยงที่สอดคล้องกับกลุ่ม
นโยบายในการดำเนินงานและการบริหารความเสี่ยงของบริษัทเป็นไปตามนโยบายของกลุ่ม นโยบายและการบริหารความเสี่ยงด้านตลาดและความเสี่ยงด้านเครดิตได้รับการติดตามอย่างใกล้ชิดโดยคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงของกลุ่ม ความเสี่ยงด้านตลาดของบริษัทมีค่อนข้างจำกัดเนื่องจากบริษัทไม่มีนโยบายในการเก็งกำไรจากการซื้อขายหลักทรัพย์ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการบริหารความเสี่ยงของกลุ่ม นอกจากนี้ บริษัทยังมีนโยบายในการป้องกันความเสี่ยงจากหุ้นกู้อนุพันธ์อีกด้วย และในส่วนของความเสี่ยงด้านเครดิตนั้น บริษัทยังนำนโยบายการให้สินเชื่อเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ที่รอบคอบของกลุ่มมาใช้อีกด้วย
ได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจาก DBS Group อย่างต่อเนื่อง
ทริสเรทติ้งคาดว่าสถานะเงินทุนและสภาพคล่องของบริษัทจะยังคงได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มในระดับที่เพียงพอ โดยบริษัทได้รับการสนับสนุนทางการเงินอย่างต่อเนื่องจากกลุ่มในรูปแบบของวงเงินสินเชื่อ ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 บริษัทใช้วงเงินสินเชื่อจากกลุ่มไปแล้วประมาณ 45 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ โดยทริสเรทติ้งประเมินว่า DBS Group มีความเต็มใจและมีความสามารถในการให้การสนับสนุนทางการเงินแก่บริษัทในยามที่จำเป็น นอกจากนี้ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 บริษัทยังมีวงเงินสินเชื่ออีกประมาณ 4.4 พันล้านบาทจากสถาบันการเงินในประเทศหลายแห่งอีกด้วย
สมมติฐานกรณีพื้นฐาน
สมมติฐานกรณีพื้นฐานของทริสเรทติ้งตั้งอยู่บนความคาดหมายว่าบริษัทจะยังคงดำรงสถานะในการเป็นบริษัทย่อยที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับสูงของ DBS Group ต่อไป
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงสถานะในการเป็นบริษัทย่อยที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับสูงของ DBS Group และจะยังคงดำเนินงานโดยเป็นส่วนที่สำคัญในธุรกิจหลักทรัพย์ของ DBS Group ในภูมิภาคเอเชียอย่างต่อเนื่องต่อไป
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
อันดับเครดิตของบริษัทอยู่ในระดับสูงที่สุดคือ ?AAA? พร้อมแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? ทั้งนี้ อันดับเครดิตและแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับลดลงหากอันดับเครดิตของ DBS Bank ลดลง ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกิดกับโครงสร้างและนโยบายของกลุ่มที่ทำให้บริษัทไม่อยู่ในสถานะที่เป็นบริษัทย่อยที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับสูงของกลุ่มก็อาจส่งผลในทางลบต่ออันดับเครดิตและแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทได้ด้วยเช่นกัน
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ, 13 มกราคม 2564
บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด (DBSVT)
อันดับเครดิตองค์กร: AAA
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable