ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ?AA-? ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 3 พันล้านบาทของบริษัทที่ระดับ ?AA-? อีกด้วย โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้รับจากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่นี้ไปใช้จ่ายชำระหนี้
อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะผู้นำในการแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้านในประเทศไทยของบริษัท ตลอดจนสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และเงินทุนหมุนเวียนที่มีการบริหารจัดการเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวถูกลดทอนลงจากวงจรที่ขึ้นลงของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย ความกดดันจากการแข่งขันที่สูง และการชะลอการเติบโตของสภาวะเศรษฐกิจในประเทศไทย
รายได้จากการดำเนินงานรวมและกำไรสุทธิของบริษัทในปี 2564 ยังคงเป็นไปตามประมาณการของทริสเรทติ้งสำหรับ ทั้งนี้ รายได้รวมของบริษัทได้รับความกดดันจากผลกระทบจากการปิดเมืองอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 อย่างไรก็ตาม รายได้ทั้งหมดของบริษัทในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 ปรับตัวกลับมาเติบโตดีขึ้น 26% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากการทยอยผ่อนคลายมาตรการเพื่อป้องกันโรคโควิด 19 ดังนั้น รายได้จากการดำเนินงานรวมในปี 2564 จึงเติบโตขึ้น 3.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ระดับ 6.39 หมื่นล้านบาท
อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทในปี 2564 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 25.8% เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่ระดับ 25.3% ทั้งนี้ บริษัทยังคงใช้กลยุทธ์ในการมุ่งเน้นไปยังผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรที่สูง โดยรายได้จากกลุ่มสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทและสินค้านำเข้าซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่านั้นมีสัดส่วนคิดเป็น 19.5% ของยอดขายรวมของบริษัทในปี 2564 ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะรักษาสัดส่วนของสินค้าในกลุ่มนี้ให้อยู่ที่ระดับ 20%-20.5% ของยอดขายในปี 2565 กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทในปี 2564 ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ระดับ 1.03 หมื่นล้านบาท ดังนั้น บริษัทจึงรายงานกำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 5.4 พันล้านบาทในปี 2564 เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่ระดับ 5.2 พันล้านบาท
ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 รายได้จากการดำเนินงานรวมและกำไรสุทธิของบริษัทยังคงอยู่ระดับที่น่าพอใจ บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานรวมเติบโต 5.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2565 ก็ปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนมาอยู่ที่ระดับ 2.8 พันล้านบาท ดังนั้น บริษัทจึงรายงานกำไรสุทธิที่ระดับ 1.5 พันล้านบาทในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 ซึ่งเมื่อเทียบกับปี 2564 จะอยู่ที่ระดับ 1.4 พันล้านบาท
ทริสเรทติ้งคาดว่าสถานะทางการเงินของบริษัทจะยังคงแข็งแกร่งต่อไปในช่วงเวลาประมาณการ โดยอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนของบริษัทอยู่ที่ระดับ 38.7% ณ เดือนธันวาคม 2564 ลดลงจากระดับ 41.7% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2563 ทั้งนี้ ภายใต้สมมติฐานของทริสเรทติ้ง คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนของบริษัทจะอยู่ที่ระดับ 32%-35% ในช่วงปี 2565-2567
ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะยังคงมีสภาพคล่องที่เพียงพอในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า ทั้งนี้ บริษัทมีภาระหนี้ที่จะครบกำหนดชำระจำนวน 3.2-5.2 พันล้านบาทต่อปีในระหว่างปี 2565-2567 โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 บริษัทมีเงินสดในมือและเงินลงทุนระยะสั้นจำนวน 4.7 พันล้านบาทและมีวงเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินอีกกว่า 1.17 หมื่นล้านบาท
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถรักษาสถานะผู้นำในธุรกิจค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้านในประเทศไทยได้ต่อไป อีกทั้งยังคาดว่าภาระหนี้ของบริษัทจะยังคงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้แม้ว่าบริษัทจะมีการขยายธุรกิจก็ตาม
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
อันดับเครดิตมีโอกาสที่จะได้รับการปรับเพิ่มขึ้นได้หากบริษัทสามารถสร้างกระแสเงินสดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่ยังคงสามารถรักษาความแข็งแกร่งของงบการเงินเอาไว้ได้ ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากบริษัทมีผลการดำเนินงานที่อ่อนแอกว่าคาดหรือหากระดับภาระหนี้ของบริษัทสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญไม่ว่าจะมีสาเหตุมาจากการขยายการลงทุนเชิงรุกหรือการมีผลการดำเนินงานที่ปรับตัวลดลงก็ตาม
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงินสำหรับธุรกิจทั่วไป, 11 มกราคม 2565
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564
บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (HMPRO)
อันดับเครดิตองค์กร: AA-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 3 ปี AA-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable