ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร “บล. อาร์ เอช บี (ประเทศไทย)” ที่ “AA-” แนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 27, 2022 11:38 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัทหลักทรัพย์ อาร์ เอช บี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ?AA-? ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะของบริษัทในการเป็นบริษัทย่อยที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับสูงของ RHB Group เป็นหลัก ซึ่ง RHB Group มีหน่วยธุรกิจที่ดำเนินงานหลักคือ RHB Bank Berhad (ได้รับอันดับเครดิต ?AA/Stable? จากทริสเรทติ้ง) ทั้งนี้ จากสถานะในการเป็นบริษัทย่อยที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับสูง อันดับเครดิตของบริษัทจึงอยู่ในระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตของ RHB Bank Berhad อยู่หนึ่งขั้นตาม ?เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ? (Group Rating Methodology) ของทริสเรทติ้ง

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

เป็นบริษัทย่อยที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับสูงของ RHB Group

ทริสเรทติ้งประเมินว่า บล. อาร์ เอช บี (ประเทศไทย) มีสถานะเป็นบริษัทย่อยที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับสูงของ RHB Group (ประกอบด้วย RHB Bank Berhad และบริษัทในเครือทั้งหมด) โดยบริษัทเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นในสัดส่วน 99.9% โดย RHB Investment Bank Berhad (RHBIB) ซึ่งในทางกลับกันนั้นมีสถานะเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นทั้งหมดโดย RHB Bank Berhad เช่นเดียวกัน ดังนั้น บล. อาร์ เอช บี (ประเทศไทย) จึงทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายวาณิชธนกิจและเป็นสำนักงานระดับภูมิภาคของกลุ่มที่ช่วยให้กลุ่มสามารถเข้าถึงตลาดทุนในประเทศไทยได้โดยทำหน้าที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย อาทิ หุ้น ตราสารอนุพันธ์ บริการวาณิชธนกิจ (IB) และตราสารหนี้ เป็นต้น

บริษัทดำเนินงานภายใต้นโยบายการบริหารจัดการความเสี่ยงและรูปแบบการดำเนินงานของกลุ่มที่มีบูรณาการร่วมกันโดยมีนายลี หยวน ตั๊ก เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยตรงจากบริษัทแม่ นอกจากนี้ เป้าหมายทางการเงินของบริษัทยังถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของผลการดำเนินงานของเครือข่ายในภูมิภาคโดยรวมของกลุ่มอีกด้วย ในขณะที่กลยุทธ์และนโยบายของบริษัทก็มีความสอดคล้องกับกลยุทธ์และนโยบายของกลุ่มและได้รับการตรวจสอบโดยบริษัทแม่

มีสถานะทางการตลาดอยู่ในระดับปานกลางซึ่งมีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้น

สถานะทางการตลาดในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ในประเทศไทยของบริษัทยังคงอยู่ในระดับปานกลาง โดยในปี 2564 บริษัทมีส่วนแบ่งรายได้ในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์อยู่ที่ระดับ 1.3% ซึ่งอยู่ในลำดับที่ 27 ในบรรดาคู่แข่ง ซึ่งใกล้เคียงกับระดับในช่วงปี 2561-2563 ในส่วนของธุรกิจนายหน้าซื้อขายตราสารอนุพันธ์นั้น บริษัทมีส่วนแบ่งรายได้ค่อนข้างคงที่อยู่ที่ระดับ 2.4% ในปี 2564 (อยู่ในลำดับที่ 19)

บริษัทยังมีพัฒนาการที่เป็นไปในเชิงบวกมากยิ่งขึ้น กล่าวคือ อัตราค่านายหน้าโดยเฉลี่ยของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นเป็น 10 จุดในปี 2564 จาก 8 จุดในปี 2563 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ 8 จุด ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทมีกลยุทธ์ในการวางตำแหน่งของตนให้เป็นนายหน้าที่ให้บริการเต็มรูปแบบมากกว่าจะเป็นนายหน้าที่แข่งขันด้านราคา ในขณะเดียวกัน เงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ของบริษัทก็เพิ่มขึ้นเป็น 1.7 พันล้านบาทในปี 2564 จาก 1.1 พันล้านบาทในปี 2563 ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทที่จะเพิ่มเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ให้เป็นประมาณ 5 พันล้านบาทในระยะ 2-3 ปีข้างหน้าอีกด้วย

คณะผู้บริหารชุดใหม่ของบริษัทที่ได้รับการแต่งตั้งในปี 2564 ได้ตั้งเป้าหมายที่จะสร้างธุรกิจขึ้นมาใหม่ในประเทศไทยและสร้างความมั่นคงให้แก่ธุรกิจของบริษัทในหลาย ๆ ด้านซึ่งรวมถึงการจัดตั้งธุรกิจตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตราสารหนี้และตราสารอนุพันธ์ซึ่งบริษัทระงับไปตั้งแต่ปี 2563 ในการนี้ บริษัทมีแผนการที่จะปรับปรุงและขยายผลิตภัณฑ์ของบริษัทรวมถึงสรรหาทีมงานที่มีประสบการณ์มาร่วมงาน ซึ่งหากแผนดังกล่าวประสบผลสำเร็จก็น่าจะช่วยทำให้สัดส่วนรายได้ของบริษัทมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นและจะช่วยเพิ่มฐานรายได้ในระยะ 2-3 ปีข้างหน้าได้

ได้รับการสนับสนุนด้านการเงินที่แข็งแกร่งจากกลุ่ม

บริษัทได้รับการสนับสนุนทั้งทางด้านธุรกิจและการเงินจาก RHB Bank Group ซึ่งแสดงให้เห็นถึงข้อผูกพันที่กลุ่มจะให้การสนับสนุนแก่บริษัทอย่างทันท่วงทีในยามจำเป็น ซึ่งทริสเรทติ้งคาดว่าการสนับสนุนดังกล่าวจะยังคงดำเนินต่อไปในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 บริษัทได้รับวงเงินสินเชื่อจากธนาคาร อาร์ เอช บี จำกัด ประเทศไทย จำนวน 489 ล้านบาทและอีกจำนวน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก RHB Bank Berhad (สาขาลาบวน ประเทศมาเลเซีย) ซึ่งรวมแล้วคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 35% ของวงเงินสินเชื่อทั้งสิ้นจำนวน 3.4 พันล้านบาทของบริษัท โดยวงเงินสินเชื่อดังกล่าวช่วยให้บริษัทมีความยืดหยุ่นทางการเงินสำหรับการดำเนินกิจการ

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

สมมติฐานกรณีพื้นฐานของทริสเรทติ้งอยู่ภายใต้ความคาดหมายที่บริษัทจะยังคงดำรงสถานะในการเป็นบริษัทย่อยที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับสูงของ RHB Group ต่อไป

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนถึงมุมมองของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงดำรงสถานะความเป็นบริษัทย่อยที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับสูงของ RHB Group ซึ่งมี RHB Bank Berhad ในประเทศมาเลเซียทำหน้าที่เป็นหน่วยธุรกิจหลักในการดำเนินงาน อีกทั้งจะยังคงดำเนินธุรกิจที่เป็นส่วนสำคัญหน่วยหนึ่งของกลุ่มและได้รับการสนับสนุนที่แข็งแกร่งจากกลุ่มต่อไป

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงหากเกิดการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถานะเครดิตของ RHB Bank Berhad หรือเมื่อมีสาเหตุสำคัญที่ส่งผลทำให้มุมมองของทริสเรทติ้งเกี่ยวกับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของบริษัทที่มีต่อ RHB Group นั้นเปลี่ยนแปลงไป

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ, 13 มกราคม 2564

บริษัทหลักทรัพย์ อาร์ เอช บี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (RHBS)

อันดับเครดิตองค์กร: AA-

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2564 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ