ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร “สหกรณ์ออมทรัพย์วชิรพยาบาล” ที่ “BBB+” แนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 10, 2022 10:20 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ สหกรณ์ออมทรัพย์วชิรพยาบาล จำกัด (สอ.วชพ.) ที่ระดับ ?BBB+? ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่น่าพึงพอใจของ สอ.วชพ. ตลอดจนฐานสมาชิกที่แข็งแกร่ง สินเชื่อที่มีคุณภาพดี และความได้เปรียบทางการแข่งขันจากสิทธิพิเศษด้านกฎระเบียบที่สหกรณ์ได้รับการยกเว้นภาษีและมีบุริมสิทธิ์เป็นลำดับแรกก่อนเจ้าหนี้อื่น ๆ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สหกรณ์ อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของอันดับเครดิตก็มีข้อจำกัดจากการที่ สอ.วชพ. มีการกระจุกตัวของเงินให้กู้ยืมแก่สหกรณ์ออมทรัพย์อื่นและความไม่สอดคล้องกันของโครงสร้างสินทรัพย์และหนี้สินของ สอ.วชพ. รวมทั้งการกำกับดูแลตามกฎระเบียบของสหกรณ์ออมทรัพย์โดยทั่วไปที่ยังไม่ค่อยเพียงพอในมุมมองของทริสเรทติ้ง

ทั้งนี้ ในการพิจารณาอันดับเครดิตดังกล่าว ทริสเรทติ้งยังคำนึงถึงความพร้อมของ สอ.วชพ. ที่จะปรับตัวและปฏิบัติให้เป็นไปตามการเปลี่ยนแปลงของกฎระเบียบภายหลังจากที่กฎระเบียบใหม่ที่ใช้ควบคุมการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์มีผลบังคับใช้ด้วย

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

สหกรณ์ออมทรัพย์ยังคงได้ประโยชน์จากสิทธิพิเศษ

สิทธิพิเศษในรูปแบบต่าง ๆ ที่สหกรณ์ออมทรัพย์ได้รับอันได้แก่การยกเว้นภาษีหลัก ๆ และการมีบุริมสิทธิ์เป็นลำดับแรกก่อนเจ้าหนี้อื่น ๆ นั้นยังคงไม่เปลี่ยนแปลง กล่าวคือ สหกรณ์ออมทรัพย์และสมาชิกได้รับการยกเว้นภาษีหลัก ๆ เช่น ภาษีดอกเบี้ยออมทรัพย์ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีจากเงินลงทุน นอกจากนี้ ภายใต้ พ.ร.บ. สหกรณ์นั้น สอ.วชพ. ยังมีบุริมสิทธิ์เป็นลำดับแรกก่อนเจ้าหนี้อื่น ๆ ในการได้รับดอกเบี้ยและได้รับชำระคืนเงินกู้จากลูกหนี้อีกด้วย สิทธิพิเศษด้านบุริมสิทธิ์ดังกล่าวช่วยให้สหกรณ์ออมทรัพย์มีข้อได้เปรียบในการให้กู้แก่สมาชิกเหนือกว่าสถาบันการเงินอื่น ๆ ในขณะที่เงินกู้ส่วนใหญ่ที่ให้แก่สมาชิกสามัญของสหกรณ์ออมทรัพย์ขั้นปฐมภูมินั้นดำเนินการภายใต้ข้อตกลงกับนายจ้างหรือหน่วยงานต้นสังกัดว่าการชำระดอกเบี้ยหรือเงินต้นของเงินกู้ตามงวดนั้นสามารถใช้วิธีหักจากเงินเดือนของสมาชิกได้ กรณีดังกล่าวจึงส่งผลให้สหกรณ์ออมทรัพย์ขั้นปฐมภูมิส่วนใหญ่มีคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีและมีความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายหนี้เสียของเงินที่ให้กู้แก่สมาชิกของสหกรณ์ที่ต่ำกว่าด้วย

มีฐานทุนและฐานสมาชิกที่แข็งแกร่ง

ในมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่า สอ.วชพ. มีสถานะฐานทุนที่เพียงพอ โดย ณ สิ้นปีบัญชี 2564 (สิ้นสุด 30 กันยายน 2564) สอ.วชพ. มีอัตราส่วนทุนต่อสินทรัพย์รวมอยู่ที่ระดับ 29.4% ทั้งนี้ สมาชิกสามัญส่วนใหญ่ของ สอ.วชพ. เป็นเจ้าหน้าที่และลูกจ้างของหน่วยงานภาครัฐที่มีสถานะเครดิตที่ดี ความมั่นคงของหน้าที่การงานและเงินเดือนที่สม่ำเสมอของสมาชิกเป็นปัจจัยบ่งชี้ถึงฐานสมาชิกสามัญที่มั่นคงของ สอ.วชพ. และความสามารถในการจ่ายชำระคืนหนี้ของสมาชิก การมีฐานสมาชิกที่มั่นคงทำให้ฐานทุนของ สอ.วชพ. เติบโตอย่างสม่ำเสมอจากการที่สมาชิกสามัญสามารถซื้อหุ้นเพิ่มได้ทุกเดือน ผลที่ตามมาก็คือ สอ.วชพ. สามารถเพิ่มฐานเงินฝากตลอดจนพอร์ตสินเชื่อและทุนเรือนหุ้นที่ชำระแล้วได้อย่างมั่นคงมาโดยตลอด โดยฐานทุนของ สอ.วชพ. เติบโตอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 5.9 พันล้านบาท ณ สิ้นปีบัญชี 2564 จาก 3.2 พันล้านบาท ณ สิ้นปีบัญชี 2560 ซึ่งคิดเป็นอัตราเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปีที่ 7%

มีการกระจุกตัวของเงินให้กู้ยืมแก่สหกรณ์อื่น

ในมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่า สอ.วชพ. มีความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของเงินให้กู้ยืมอย่างมีนัยสำคัญอันเนื่องมาจากการให้กู้ยืมแก่สหกรณ์ออมทรัพย์อื่นในจำนวนที่ค่อนข้างมาก โดยเงินให้กู้ยืมแก่สหกรณ์ออมทรัพย์อื่นมีสัดส่วนถึง 79% ของเงินให้กู้ยืมรวมของ สอ.วชพ. ณ สิ้นเดือนกันยายน 2564 และจากสัดส่วนดังกล่าวนั้นยังเป็นเงินที่ สอ.วชพ. ให้กู้ยืมแก่สหกรณ์ออมทรัพย์รายใหญ่ 10 อันดับแรกในสัดส่วนถึง 49% อีกด้วย สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเนื่องมาจาก สอ.วชพ. มีฐานเงินฝากจากสมาชิกที่ค่อนข้างมากกว่าความต้องการสินเชื่อของสมาชิก ซึ่งส่งผลทำให้ สอ.วชพ. มีเงินรับฝากส่วนเกินที่นำไปให้กู้ยืมแก่สหกรณ์ออมทรัพย์รายอื่นเป็นหลัก ในการนี้ สอ.วชพ. คาดหวังว่าเงินที่ให้กู้ยืมแก่สหกรณ์ออมทรัพย์อื่นน่าจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าผลตอบแทนจากการลงทุนทั่วไป อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของเงินให้กู้ยืมแก่สหกรณ์ออมทรัพย์อื่นของ สอ.วชพ. ก็ลดทอนลงไปบ้างจากการมีเกณฑ์ในการพิจารณาให้กู้ยืมที่เข้มงวดและระมัดระวัง

มีคุณภาพสินเชื่อดี

ทริสเรทติ้งคาดหวังว่าเงินให้กู้ยืมของ สอ.วชพ. จะยังคงมีคุณภาพที่ดี ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งเชื่อว่า สอ.วชพ. มีหลักเกณฑ์ในการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดโดยเห็นได้จากการที่ สอ.วชพ. มีอัตราส่วนของเงินให้กู้ยืมที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เงินให้กู้ยืมที่ค้างชำระมากกว่า 90 วัน) อยู่ในระดับต่ำ โดย สอ.วชพ. มีอัตราส่วนเงินให้กู้ยืมที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้คิดเป็น 0.53% ของเงินให้กู้ยืมรวม ณ สิ้นรอบปีบัญชี 2564 ซึ่งใกล้เคียงกับสิ้นรอบปีบัญชี 2563 และโดยรวมแล้วก็ยังถือว่าเป็นอัตราส่วนที่ค่อนข้างต่ำ ในการนี้ ทริสเรทติ้งคาดหวังให้ สอ.วชพ. ยังคงรักษานโยบายการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดต่อไปเพื่อที่จะลดความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของเงินให้กู้ยืม

?

สภาพคล่องอยู่ในระดับที่เพียงพอแม้จะมีภาระเงินกู้ยืมระยะสั้นอยู่บ้าง

ในมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่า สอ.วชพ. มีอัตราส่วนการกู้ยืมระยะสั้นที่สูงกว่าสินทรัพย์ระยะสั้น กรณีดังกล่าวทำให้มีความไม่สอดคล้องกันในเรื่องของวันครบกำหนดของสินทรัพย์และหนี้สินเนื่องจาก สอ.วชพ. มีการใช้เงินทุนจากธนาคารพาณิชย์ในรูปของเงินกู้ยืมระยะสั้นที่ค้ำประกันโดยหลักทรัพย์จากเงินลงทุนเพื่อให้มีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำ

ณ เดือนมีนาคม 2565 เงินกู้ยืมระยะสั้นจากธนาคารพาณิชย์มีสัดส่วนคิดเป็นประมาณ 11% ของยอดหนี้สินและส่วนทุนทั้งหมดของ สอ.วชพ. ในขณะที่สินทรัพย์ระยะสั้นมีสัดส่วนคิดเป็นเพียง 1% ของสินทรัพย์รวมเท่านั้น ถึงแม้ว่าความไม่สอดคล้องกันจะลดต่ำลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ในมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่า สอ.วชพ. ยังมีความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญจากความไม่สอดคล้องกันของโครงสร้างสินทรัพย์และหนี้สินเนื่องจากการกู้ยืมระยะสั้นจะมีความเสี่ยงในการกู้ยืมต่อ (Refinancing Risk)

ทริสเรทติ้งยังมีมุมมองว่าเงินทุนจำนวนมากจากผู้ให้กู้ยืมจากภายนอก เช่น สถาบันการเงินนั้น มีเสถียรภาพต่ำกว่าเงินทุนจากการดำเนินงานที่ สอ.วชพ. ได้รับจากสมาชิกของตนเองทั้งในรูปของเงินรับฝากและทุน แม้ว่า สอ.วชพ. จะมีปริมาณเงินลงทุนที่มากเพียงพอต่อการชำระหนี้เงินกู้ยืมระยะสั้นจากภายนอกซึ่งช่วยลดทอนความเสี่ยงด้านสภาพคล่องลงได้ แต่ทริสเรทติ้งก็คาดว่า สอ.วชพ. จะดำรงนโยบายการลงทุนที่ระมัดระวังโดยไม่ลงทุนกระจุกตัวอย่างมีนัยสำคัญอยู่ในกลุ่มผู้กู้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือลงทุนจำนวนมากในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น ทั้งนี้ สอ.วชพ. มีอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องที่ระดับประมาณ 14.8% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์สินทรัพย์สภาพคล่องของกฎระเบียบใหม่ที่กำหนดให้อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 3%

การกำกับดูแลที่ยังไม่เพียงพอ

การกำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์มีความเข้มงวดน้อยกว่าเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินซึ่งมีการกำกับดูแลที่ใกล้ชิดและเข้มงวดมากกว่า ในมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่ากรณีดังกล่าวเป็นจุดอ่อนสำคัญที่สร้างข้อจำกัดให้แก่สถานะอันดับเครดิตของสหกรณ์ออมทรัพย์ในประเทศไทย ถึงแม้ว่ากรอบกฎระเบียบใหม่จะช่วยในการควบคุมกิจการของสหกรณ์ได้เข้มงวดยิ่งขึ้น แต่การบังคับใช้กฎระเบียบทั้งหลายให้มีประสิทธิภาพได้นั้นจะต้องมีการติดตามตรวจสอบอย่างเข้มงวดและอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้สหกรณ์ออมทรัพย์ปฏิบัติตามได้อย่างแท้จริง ซึ่งดูเหมือนว่าการดำเนินการดังกล่าวจะยังไม่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้

สอ.วชพ. มีความพร้อมในการปรับตัวและปฏิบัติตามกฎระเบียบใหม่

ทริสเรทติ้งมองว่า สอ.วชพ. มีการเตรียมความพร้อมที่จะปรับตัวและปฏิบัติตามกฎระเบียบใหม่ได้เป็นอย่างดีโดยไม่มีประเด็นกังวลร้ายแรงเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดกับการดำเนินงานของ สอ.วชพ. ทั้งนี้ ในเบื้องต้นนั้นกฎระเบียบใหม่ดังกล่าวได้รับการปรับปรุงแก้ไขเพื่อใช้ในการกำกับดูแลสหกรณ์ให้เข้มงวดยิ่งขึ้นทั้งในส่วนของกิจกรรมที่เกี่ยวกับการรับฝากเงิน การให้กู้ยืม และการลงทุนของสหกรณ์ออมทรัพย์ ในการนี้ ทริสเรทติ้งเห็นว่ากฎระเบียบใหม่นี้เป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงในระยะยาวของสหกรณ์ออมทรัพย์ซึ่งเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญต่อระบบการเงินของไทย

อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่าการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบอาจจะเป็นอุปสรรคต่อโอกาสในการเติบโตของ สอ.วชพ. และจะทำให้ผลการดำเนินงานทางการเงินของ สอ.วชพ. อ่อนแอลงในระยะสั้น ยกตัวอย่างเช่น นโยบายการให้กู้ยืมและการลงทุน ตลอดจนเกณฑ์ในการสำรองสภาพคล่องและการตั้งสำรองสำหรับหนี้สูญที่เข้มงวดขึ้นภายใต้กฎระเบียบใหม่จะทำให้การลงทุนของ สอ.วชพ. มีความยืดหยุ่นน้อยลงและผลตอบแทนจากสินทรัพย์ก็จะลดลงด้วย อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งมิได้คาดหวังว่าผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของ สอ.วชพ. จะส่งผลกระทบต่อความแข็งแกร่งทางการเงินของ สอ.วชพ. อย่างมีนัยสำคัญ ในทางกลับกัน กฎระเบียบใหม่ดังกล่าวน่าจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการบริหารความเสี่ยงและเสริมสร้างเสถียรภาพในระยะยาวให้แก่ สอ.วชพ. ได้

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

ทริสเรทติ้งมีสมมติฐานกรณีพื้นฐานสำหรับการดำเนินงานของ สอ.วชพ. ในระหว่างปีการเงิน 2565-2567 ดังนี้

? เงินให้กู้ยืมจะชะลอตัวลงในอัตรา 7% ในปีบัญชี 2565 และจะเติบโตในอัตราเฉลี่ย 3% ต่อปีในระหว่างปีบัญชี 2566-2567

? ฐานทุนจะเติบโตในอัตราเฉลี่ย 5% ต่อปี

? ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ระดับประมาณ 0.97%-1.22% ต่อปี

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนถึงความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่า สอ.วชพ. จะสามารถรักษาฐานสมาชิกที่แข็งแกร่งและจะยังคงมีผลการดำเนินงานที่น่าพอใจให้แก่สมาชิกต่อไปได้ นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดหวังว่า สอ.วชพ. จะสามารถปรับตัวและปฏิบัติตามกฎระเบียบใหม่ได้ด้วยเช่นกัน

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

แนวโน้มการปรับเพิ่มอันดับเครดิตของ สอ.วชพ. มีข้อจำกัดจากกรอบการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์โดยทั่วไปที่ยังขาดการกำกับดูแลที่ใกล้ชิดและการติดตามตรวจสอบที่เข้มงวดจากหน่วยงานรับผิดชอบ ในทางตรงกันข้าม การปรับลดอันดับเครดิตก็อาจเกิดขึ้นได้หากมีข้อบ่งชี้ให้เห็นว่านโยบายด้านการดำเนินงานและการเงินที่เป็นไปในเชิงรุกมากยิ่งขึ้นจนส่งผลทำให้สถานะทางการเงินหรือคุณภาพสินทรัพย์เสื่อมถอยลง หรือ สอ.วชพ. มีการขาดทุนจำนวนมากจากเงินลงทุนจนทำให้สถานะเครดิตโดยรวมของ สอ.วชพ. อ่อนแอลง นโยบายในการบริหารจัดการสินทรัพย์และหนี้สินที่ความไม่สอดคล้องกันที่มากขึ้นก็อาจมีผลกระทบในเชิงลบต่ออันดับเครดิตของได้ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบใด ๆ ที่จะลดทอนสิทธิพิเศษของสหกรณ์ออมทรัพย์ก็อาจมีผลกระทบในเชิงลบต่ออันดับเครดิตของ สอ.วชพ. ด้วยเช่นกัน

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตสหกรณ์ออมทรัพย์, 28 กันยายน 2563

สหกรณ์ออมทรัพย์วชิรพยาบาล จำกัด (VJRC)

อันดับเครดิตองค์กร: BBB+

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2564 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ