ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ?A? รวมทั้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุน (MINT18PA) ของบริษัทที่ระดับ ?BBB+? ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนซึ่งไถ่ถอนเมื่อเลิกกิจการในวงเงินไม่เกิน 8 พันล้านบาทและหุ้นกู้สำรองเพื่อการเสนอขายเพิ่มเติม (Greenshoe) ในวงเงินไม่เกิน 4 พันล้านบาทของบริษัทที่ระดับ ?BBB+? ด้วย ทั้งนี้ หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนมีอันดับเครดิตต่ำกว่าอันดับเครดิตองค์กรของบริษัท 2 ขั้นเนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวมีลักษณะของการด้อยสิทธิและผู้ออกตราสารสามารถเลื่อนการชำระดอกเบี้ยพร้อมกับสะสมดอกเบี้ยจ่ายของหุ้นกู้ได้ ในการนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ชำระคืนหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนชุดเดิม ในขณะเดียวกัน อันดับเครดิตหุ้นกู้ชุดใหม่นี้ยังใช้แทนอันดับเครดิตหุ้นกู้เดิมที่ได้รับการจัดอันดับไปเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2565 เนื่องจากบริษัทแจ้งความประสงค์ในการเปลี่ยนแปลงวงเงินรวมของหุ้นกู้จากเดิมที่จำนวน 1 หมื่นล้านบาทอีกด้วย
อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงพื้นฐานธุรกิจที่เข้มแข็งของบริษัทจากการมีแบรนด์สินค้าที่แข็งแกร่งรวมทั้งทำเลที่ตั้งของธุรกิจโรงแรมและธุรกิจร้านอาหารที่ครอบคลุม ตลอดจนภาระหนี้ที่อยู่ในระดับสูงแต่กำลังลดลงของบริษัท ทริสเรทติ้งคาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัททั้งในธุรกิจโรงแรมและธุรกิจร้านอาหารจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากสถานการณ์ของโรคระบาดที่ดีขึ้น ทั้งนี้ อุปสงค์ห้องพักโรงแรมที่อยู่ในระดับสูงและมาตรการควบคุมที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด 19 ต่าง ๆ ที่มีการผ่อนคลายลงทั่วโลกจะเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรมในหลายไตรมาสข้างหน้า และในระยะที่ยาวกว่านั้น การเดินทางระยะไกลและการเดินทางเพื่อธุรกิจที่ค่อย ๆ ฟื้นตัวก็น่าจะช่วยสนับสนุนให้การฟื้นตัวของธุรกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ธุรกิจร้านอาหารที่แม้ว่าการดำเนินงานในประเทศจีนจะได้รับผลกระทบอย่างมากจากมาตรการปิดเมือง (Lockdown) ที่เข้มงวดนั้น แต่การที่ร้านอาหารสามารถเปิดดำเนินงานได้ตามปกติและการกลับมาของกิจกรรมการท่องเที่ยวก็น่าจะช่วยให้ธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทยฟื้นตัวกลับมาได้
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 ผลการดำเนินงานของบริษัทสอดคล้องกับประมาณการของทริสเรทติ้ง โดยบริษัทรายงานรายได้รวมที่ระดับ 5.2 หมื่นล้านบาทและกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ที่ระดับ 1.26 หมื่นล้านบาท บริษัทมีหนี้สินทางการเงินที่ปรับปรุงแล้วอยู่ที่จำนวน 2.18 แสนล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 และมีอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA ที่ปรับปรุงแล้วอยู่ที่ระดับ 8.6 เท่า (ปรับให้เป็นตัวเลขเต็มปีโดยใช้ข้อมูลย้อนหลัง 12 เดือน) ภายใต้สมมติฐานกรณีพื้นฐานของทริสเรทติ้งประมาณการว่ารายได้ของบริษัทจะอยู่ที่ระดับประมาณ 1.14 แสนล้านบาทในปี 2565 และประมาณ 1.25-1.35 แสนล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2566-2567 และ EBITDA ที่ระดับ 2.7 หมื่นล้านบาทในปี 2565 และจะเพิ่มขึ้นที่ระดับ 3.1-3.5 หมื่นล้านบาทต่อปีในระหว่างปี 2566-2567 ซึ่งทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะสามารถฟื้นสถานะเครดิตได้อย่างมั่นคงโดยมีอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA ที่ปรับปรุงแล้วลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 7 เท่าภายในปี 2566
ทริสเรทติ้งมองว่าภาวะเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ ตลอดจนแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ และปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศนั้นถือว่าเป็นความเสี่ยงในเชิงลบที่สำคัญที่จะกระทบต่อความก้าวหน้าในการฟื้นตัวของยอดขายและรายได้รวมถึงแนวโน้มการฟื้นคืนความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงินของบริษัท
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนถึงความคาดหวังของทริสเรทติ้งที่มีต่อการฟื้นตัวทางธุรกิจและสถานะเครดิตของบริษัทอย่างต่อเนื่องซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากการที่ธุรกิจโรงแรมค่อย ๆ ฟื้นตัวกลับมาตลอดจนสถานการณ์ด้านสังคมและเศรษฐกิจที่กลับคืนสู่ความเป็นปกติมากยิ่งขึ้นแม้ว่าจะมีปัจจัยกดดันจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั่วโลกก็ตาม
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
อันดับเครดิตอาจได้รับแรงกดดันในเชิงลบหากการฟื้นตัวทางธุรกิจของบริษัทอ่อนแอกว่าที่ทริสเรทติ้งคาดการณ์ไว้อย่างมีนัยสำคัญ หรือหากบริษัทมีการลงทุนที่ใช้การก่อหนี้ขนาดใหญ่เพิ่มเติม ในขณะที่โอกาสในการปรับเพิ่มอันดับเครดิตนั้นมีจำกัดในระยะใกล้ อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตอาจเพิ่มขึ้นได้หากสถานะทางธุรกิจและการเงินของบริษัทมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจนส่งผลให้บริษัทสามารถดำรงอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA ที่ปรับปรุงแล้วให้ต่ำกว่าระดับ 5 เท่าได้อย่างต่อเนื่อง
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 15 กรกฎาคม 2565
- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงินสำหรับธุรกิจทั่วไป, 11 มกราคม 2565
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน (Hybrid Securities), 28 มิถุนายน 2564
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564
บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MINT)
อันดับเครดิตองค์กร: A
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
MINT237A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,059.00 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A
MINT243A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,635.00 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A
MINT243B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,165.00 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A
MINT247A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,501.00 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A
MINT249A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000.00 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A
MINT255A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,000.00 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A
MINT255B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,769.03 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A
MINT257A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,440.00 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A
MINT267A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000.00 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 A
MINT277B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,230.97 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2570 A
MINT283A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000.00 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2571 A
MINT293A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,815.40 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2572 A
MINT293B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,684.60 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2572 A
MINT313A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,200.00 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2574 A
MINT313B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,570.00 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2574 A
MINT313C: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,430.00 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2574 A
MINT329A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000.00 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2575 A
MINT343A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,070.00 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2577 A
MINT343B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,430.00 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2577 A
MINT18PA: หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุน 15,000.00 ล้านบาท BBB+
หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนในวงเงินไม่เกิน 8,000.00 ล้านบาท และหุ้นกู้สำรองเพื่อการเสนอขายเพิ่มเติม (Greenshoe) ในวงเงินไม่เกิน 4,000.00 ล้านบาท BBB+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable