ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันของ บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT หรือผู้ออกหุ้นกู้) ภายใต้โครงการ Medium-term Debentures ในวงเงิน 6 หมื่นล้านบาท ที่ระดับ ?AAA? พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันของบริษัทในวงเงิน 1.3 แสนล้านบาทภายใต้โครงการหุ้นกู้สกุลเงินบาทของบริษัท ปี พ.ศ. 2561 และในวงเงิน 1.3 แสนล้านบาทภายใต้โครงการหุ้นกู้สกุลเงินบาทของบริษัท ปี พ.ศ. 2563 ที่ระดับ ?AAA? และ ?T1+? นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 1.3 แสนล้านบาทภายใต้โครงการหุ้นกู้สกุลเงินบาทของบริษัท ปี พ.ศ. 2565 ที่ระดับ ?AAA? และ ?T1+? ด้วย
หุ้นกู้ทั้งหมดของบริษัทได้รับการค้ำประกันโดย Toyota Motor Finance (Netherlands) B.V. (TMF หรือผู้ค้ำประกัน) โดย TMF เป็นบริษัทลูกของ Toyota Financial Service Corporation (TFS) ที่ถือหุ้น 100% โดย Toyota Motor Corporation (TMC) ในประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกลุ่มโตโยต้า บริษัททั้ง 3 แห่งคือ TMF TFS และ TMC ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ ?A+? แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? รวมทั้งได้รับการจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้ระยะสั้นที่ระดับ ?A-1+? จาก S&P Global Ratings ด้วย
ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต
เป็นการค้ำประกันแบบไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้
อันดับเครดิตหุ้นกู้ระยะสั้นและระยะปานกลางของ TLT สะท้อนถึงการค้ำประกันแบบไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้โดย TMF ซึ่งอันดับเครดิตของ TMF อยู่บนพื้นฐานของสถานะเครดิตของ TMC ทั้งนี้ ภายใต้โครงสร้างการค้ำประกันดังกล่าว TMC ได้ทำสัญญาให้การสนับสนุนสินเชื่อ (Credit Support Agreement -- CSA) แก่ TFS ในขณะเดียวกัน TFS ก็ได้ทำสัญญา CSA กับ TMF ด้วยเช่นกัน ภายใต้เงื่อนไขของสัญญา CSA ดังกล่าว TMC จะทำหน้าที่รักษาสภาพคล่องทางการเงินให้อยู่ในระดับที่เพียงพอสำหรับรองรับภาระหนี้หุ้นกู้ หรือพันธบัตร และตราสารทางการเงิน (Commercial Paper -- CP) อื่น ๆ ของบริษัทลูกซึ่งได้แก่ TFS และ TMF นอกจากนี้ TMC ยังจะเป็นผู้จัดหาสภาพคล่องทางการเงินที่เพียงพอสำหรับเงื่อนไขการค้ำประกันของ TMF อีกด้วย
ทั้งนี้ การค้ำประกันของ TMF บังคับใช้ภายใต้กฎหมายของประเทศเนเธอร์แลนด์โดยเป็นการ
ค้ำประกันแบบไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้ ซึ่งผู้ค้ำประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบในการชำระคืนหนี้ตามกำหนดเวลาของหุ้นกู้แต่ละชุดที่ออกให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ของ TLT ซึ่งภาระในการค้ำประกันของ TMF มีสถานะทางกฎหมายอยู่ในระดับเดียวกับตราสารหนี้ไม่มีประกันและไม่ด้อยสิทธิอื่น ๆ ของผู้ค้ำประกันที่ออกทั้งในปัจจุบันและในอนาคต อีกทั้งยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขหรือเพิกถอนได้โดยปราศจากการยินยอมทั้งจากตัวแทนผู้ถือหุ้นกู้และผู้ค้ำประกันคือ TMF
ผู้ค้ำประกันจะไม่มีภาระในการชำระหนี้แทนในกรณีที่ผู้ออกหุ้นกู้ไม่สามารถชำระหนี้ด้วยเหตุอันเกิดจากการเข้าแทรกแซงหรือการกระทำต่าง ๆ ดังนี้
(1) โดยองค์กรใด ๆ ของรัฐบาลไทย: (i) ในการขัดขวางการชำระหนี้โดยทำให้ผู้ออกหุ้นกู้ไม่สามารถโอนเงิน หรือแปลงเงินตราต่างประเทศเป็นสกุลเงินที่ต้องชำระหนี้ตามเงื่อนไขของหุ้นกู้ไปให้นายทะเบียนหรือผู้ถือหุ้นกู้ทำการจ่ายชำระได้ (ii) ทำให้ต้องมีการโอนการถือหุ้นข้างมาก หรือควบคุมผู้ออกหุ้นกู้ให้โอนหุ้นข้างมากดังกล่าวไปยังบุคคลที่สามซึ่งมิใช่สมาชิกของกลุ่มโตโยต้า (iii) การเวนคืนหรือการโอนซึ่งทรัพย์สินของผู้ออกหุ้นกู้ให้เป็นของรัฐซึ่งมีมูลค่ารวมอย่างน้อย 10% ของมูลค่าสุทธิของสินเชื่อเช่าซื้อสุทธิของผู้ออกหุ้นกู้และบริษัทลูกของผู้ออกหุ้นกู้ และ (iv) การเวนคืนหรือการโอนทรัพย์สินให้เป็นของรัฐอันมีผลทำให้ผู้ออกหุ้นกู้และบริษัทลูกของผู้ออกหุ้นกู้ไม่สามารถประกอบธุรกิจได้
(2) โดยองค์กรผู้ดำเนินมาตรการ (Sanction Authority): หากผู้ค้ำประกันถูกห้ามให้ชำระเงินภายใต้กฎหมายหรือกฎเกณฑ์การลงโทษหรือการโต้ตอบทางการค้า ทางเศรษฐกิจ หรือทางการเงิน หรือการห้ามการนำเข้าส่งออกหรือทำการค้ากับต่างประเทศ หรือมาตรการควบคุมจำกัดต่าง ๆ ที่องค์กรผู้ดำเนินมาตรการได้บัญญัติขึ้นหรือใช้บังคับ
ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งเห็นว่าโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นมีน้อยมาก
สถานะทางการตลาดยังคงแข็งแกร่ง
ทริสเรทติ้งเชื่อว่า TMC จะยังคงสามารถรักษาสถานะทางการตลาดที่มีความแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมผู้ผลิตรถยนต์ต่อไปได้โดยมีปัจจัยสนับสนุนคือการมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย การมีตลาดที่ครอบคลุมทั่วโลก และการเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยี ทั้งนี้ TMC มีส่วนแบ่งทางการตลาดของยอดขายรถยนต์ทั่วโลกที่ประมาณ 12% ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยบริษัทมียอดขายรถยนต์รวมโดยเฉลี่ยทั้งสิ้นประมาณ 8.23 ล้านคันในรอบปีบัญชี 2565 (เมษายน 2564-มีนาคม 2565) โดยเพิ่มขึ้นถึง 8% จากจำนวน 7.6 ล้านคันในรอบปีบัญชี 2564 ยอดขายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้นมีสาเหตุเนื่องมาจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ยอดขายของบริษัทปรับตัวลดลง 6% มาอยู่ที่ 2.0 ล้านคันในช่วงไตรมาสแรกของรอบปีบัญชี 2566 เมื่อเทียบกับยอดขาย 2.1 ล้านคันในช่วงเดียวกันของรอบปีบัญชี 2565 โดยมีสาหตุหลักมาจากข้อจำกัดในการผลิตรถยนต์อันเป็นผลมาจากการขาดแคลนชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ ทั้งนี้ ในไตรมาสแรกของรอบปีบัญชี 2566 (สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565) ยอดขายในประเทศญี่ปุ่นยังคงเป็นรายได้หลักที่ระดับ 36% ตามมาด้วยทวีปอเมริกาเหนือ 30% ทวีปเอเชียยกเว้นญี่ปุ่น 17% ทวีปยุโรป 9% และภูมิภาคอื่น ๆ อีก 8%
คาดว่าบริษัทจะยังคงรักษาผลการดำเนินงานทางการเงินที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้
ทริสเรทติ้งคาดว่า TMC จะยังคงรักษาผลการดำเนินงานทางการเงินที่แข็งแกร่งเอาไว้ต่อไปได้ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าจากความพยายามอย่างต่อเนื่องในการลดต้นทุและจากการออกรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
กำไรจากการดำเนินงานของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านล้านเยนในรอบปีบัญชี 2566 เพิ่มขึ้น 36% จากระดับ 2.2 ล้านล้านเยนในรอบปีบัญชี 2565 ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายรถยนต์รวมที่ค่อย ๆ ฟื้นตัวและนโยบายการลดต้นทุนของบริษัท อย่างไรก็ตาม กำไรจากการดำเนินงานของบริษัทลดลงมาอยู่ที่ 579 พันล้านเยนในช่วงครึ่งปีแรกของรอบปีบัญชี 2566 โดยลดลง 42% จากช่วงเดียวกันของรอบปีบัญชี 2565 ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากยอดขายรถยนต์ที่ลดลงและราคาต้นทุนสินค้าที่ปรับเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ของ TMC กำไรจากการดำเนินงานของบริษัทจะอยู่ที่ระดับประมาณ 2.4 ล้านล้านเยนในรอบปีบัญชี 2566 โดยมีปัจจัยสนับสนุนคือการมีห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกที่แข็งแกร่ง
สถานะสภาพคล่องที่แข็งแกร่งและการจัดหาแหล่งเงินทุนที่เพียงพอ
TMC มีการดำเนินนโยบายทางการเงินที่ระมัดระวังมาโดยตลอด บริษัทมีสถานะสภาพคล่องที่แข็งแกร่งโดยมีเงินสดสำรองและสินทรัพย์สภาพคล่องที่มีคุณภาพสูงจำนวนมากอันได้แก่ พันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นและพันธบัตรสหรัฐฯ (US Treasuries) โดย ณ สิ้นไตรมาสแรกของรอบปีบัญชี 2566 TMC มีสินทรัพย์สภาพคล่องสูงถึง 10.5 ล้านล้านเยนซึ่งคิดเป็น 10% ของสินทรัพย์รวม นอกจากนี้ บริษัทยังมีแหล่งเงินทุนที่หลากหลายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศซึ่งอยู่ในรูปของเงินกู้ธนาคาร หุ้นกู้ และตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะสั้น (Commercial Papers) อีกด้วย ภายใต้มาตรฐานบัญชี International Financial Reporting Standards (IFRS) เงินกู้ยืมระยะสั้นของ TMC มีสัดส่วนคิดเป็น 42% ของเงินกู้ยืมรวม ส่วนที่เหลืออีก 58% เป็นหุ้นกู้ระยะยาวและหนี้สินทางการเงินอื่น ๆ การมีสัดส่วนเงินกู้ยืมระยะยาวที่ค่อนข้างมากน่าจะช่วยลดทอนความเสี่ยงทางด้านสภาพคล่องที่อาจเกิดจากความไม่สอดคล้องกันระหว่างสินทรัพย์และหนี้สินจากธุรกิจให้บริการสินเชื่อ (Captive Finance) ของบริษัท
สมมติฐานกรณีพื้นฐาน
? อันดับเครดิตของ TMC ที่จัดโดย S&P Global Ratings จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
? จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในการค้ำประกันแบบไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้ของ TMF ที่มีต่อหุ้นกู้ของ TLT
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนสถานะเครดิตของ TMF หรือผู้ค้ำประกันหุ้นกู้ของ TLT ซึ่งสะท้อนสถานะเครดิตของบริษัทแม่ลำดับสุดท้ายคือ TMC โดยอันดับเครดิตองค์กรในปัจจุบันของ TMC ในระบบ International Scale ที่ระดับ ?A+/Stable? ซึ่งจัดอันดับเครดิตโดย S&P Global Ratings นั้นยังคงสะท้อนสถานะเครดิตที่แข็งแกร่งของ TMC ต่อไป
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันของ TLT อาจมีการปรับลดลงหากเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในด้านลบต่อสถานะเครดิตของ TMC
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ, 7 กันยายน 2565
- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงินสำหรับธุรกิจทั่วไป, 11 มกราคม 2565
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร, 17 กุมภาพันธ์ 2563
- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562
บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT)
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
หุ้นกู้มีการค้ำประกันในวงเงิน 60,000 ล้านบาท ในโครงการ Medium-term Debentures:
- TLT22OA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 AAA
- TLT22DA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 AAA
- TLT235A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 AAA
- TLT24OA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 3,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 AAA
- TLT255A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 AAA
หุ้นกู้มีการค้ำประกันในวงเงินไม่เกิน 130,000 ล้านบาท ในโครงการหุ้นกู้สกุลเงินบาทของบริษัท ปี พ.ศ. 2561:
-หุ้นกู้ระยะยาวมีการค้ำประกัน AAA
-TLT22NA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 2,260 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 AAA
-TLT232A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 AAA
-TLT237A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 2,100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 AAA
-หุ้นกู้ระยะสั้นมีการค้ำประกัน T1+
หุ้นกู้มีการค้ำประกันในวงเงินไม่เกิน 130,000 ล้านบาท ในโครงการหุ้นกู้สกุลเงินบาทของบริษัท ปี พ.ศ. 2563:
-หุ้นกู้ระยะยาวมีการค้ำประกัน AAA
-TLT234A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 AAA
-TLT235B: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 AAA
-TLT23NA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 2,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 AAA
-TLT23NB: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 AAA
-TLT242A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 AAA
-TLT243A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 AAA
-TLT245A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 2,910 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 AAA
-TLT248A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 2,600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 AAA
-TLT24NA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 AAA
-TLT253A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 AAA
-TLT255B: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 2,900 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 AAA
-TLT256A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 2,580 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 AAA
-TLT258A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 AAA
-TLT258B: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 AAA
-TLT263A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 AAA
-TLT265A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 2,900 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 AAA
-TLT285A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,290 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2571 AAA
-หุ้นกู้ระยะสั้นมีการค้ำประกัน T1+
หุ้นกู้มีการค้ำประกันในวงเงินไม่เกิน 130,000 ล้านบาท ในโครงการหุ้นกู้สกุลเงินบาทของบริษัท ปี พ.ศ. 2565:
-หุ้นกู้ระยะยาวมีการค้ำประกัน AAA
-หุ้นกู้ระยะสั้นมีการค้ำประกัน T1+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable