ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ?AA-? ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 3 พันล้านบาทของบริษัทที่ระดับ ?AA-? ด้วย โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้รับจากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่นี้ไปใช้จ่ายชำระหนี้
ทั้งนี้ อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะผู้นำในธุรกิจค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้านในประเทศไทยของบริษัท ตลอดจนสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และเงินทุนหมุนเวียนที่มีการบริหารจัดการเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวถูกลดทอนลงจากวงจรที่มีลักษณะขึ้นลงของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย รวมถึงความกดดันจากการแข่งขันที่รุนแรง และภาวะเศรษฐกิจในประเทศไทยที่เติบโตช้าลง
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 รายได้จากการดำเนินงานรวมของบริษัทเติบโตที่ระดับ 3.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ต่อรายได้รวมของบริษัทปรับตัวดีขึ้นเป็น 17.3% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 เมื่อเทียบกับที่ระดับ 16.0% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทมีกลยุทธ์ที่จะเน้นไปที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูงมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ภายใต้สมมติฐานกรณีพื้นฐานของทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วน EBITDA ต่อรายได้รวมของบริษัทจะอยู่ที่ระดับ 15%-17% ในช่วงปี 2565-2567
ทริสเรทติ้งคาดว่าสถานะทางการเงินของบริษัทจะยังคงแข็งแกร่งต่อไปในช่วงเวลาประมาณการ โดยอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินรวมต่อเงินทุนของบริษัทเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 41.2% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 จากระดับ 39.8% ณ สิ้นปี 2564 เนื่องจากความต้องการเงินทุนหมุนเวียนและภาระหนี้สินจากสัญญาเช่าทางการเงินที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งประมาณการว่าอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนของบริษัทจะอยู่ที่ระดับ 39%-41% ในช่วงระหว่างปี 2565-2567 นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนที่ปรับปรุงแล้วของบริษัทจะอยู่ที่ระดับประมาณ 1.4-1.6 เท่าในช่วงเดียวกันจากผลของ EBITDA ที่ปรับตัวดีขึ้นในช่วงหลังจากสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19) เป็นหลักด้วยเช่นกัน
ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะยังคงรักษาสภาพคล่องที่ดีเอาไว้ได้ต่อไปในช่วงระยะ 12-18 เดือนข้างหน้า ทั้งนี้ บริษัทมีกำหนดการที่จะต้องชำระหนี้ที่จำนวน 3.2-5.2 พันล้านบาทต่อปีในระหว่างปี 2565-2567 โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 บริษัทมีเงินสดในมือและเงินลงทุนระยะสั้นอยู่ที่จำนวน 4.2 พันล้านบาท ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งประมาณการว่าบริษัทจะมี EBITDA อยู่ที่ระดับราว ๆ 1.1 หมื่นล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2565-2567
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงสามารถรักษาสถานะผู้นำในธุรกิจค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้านในประเทศไทยได้ต่อไป อีกทั้งยังคาดว่าภาระหนี้ของบริษัทจะยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำแม้ว่าบริษัทจะมีการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องก็ตาม
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
อันดับเครดิตมีโอกาสที่จะได้รับการปรับเพิ่มขึ้นได้หากบริษัทสามารถสร้างกระแสเงินสดเพิ่มขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญในขณะที่ยังคงสามารถรักษาความแข็งแกร่งของงบการเงินเอาไว้ได้ ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิตอาจได้รับการปรับลดลงหากบริษัทมีผลการดำเนินงานทางการเงินที่อ่อนแอกว่าคาดหรือหากระดับภาระหนี้ของบริษัทสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญไม่ว่าจะมีสาเหตุมาจากการขยายการลงทุนในเชิงรุกหรือการมีผลการดำเนินงานที่ปรับตัวลดลงเป็นอย่างมากก็ตาม
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 15 กรกฎาคม 2565
- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงินสำหรับธุรกิจทั่วไป, 11 มกราคม 2565
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564
บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (HMPRO)
อันดับเครดิตองค์กร: AA-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
HMPRO257A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 AA-
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 3 ปี AA-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable