ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ ?A-? ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? พร้อมกันนี้ ทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ของบริษัทในวงเงินไม่เกิน 2.5 พันล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 4 ปี ที่ระดับ ?A-? ด้วยเช่นกัน โดยอันดับเครดิตของหุ้นกู้ชุดใหม่นี้ใช้แทนอันดับเครดิตหุ้นกู้เดิมที่ได้รับการจัดอันดับเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 เนื่องจากบริษัทมีความประสงค์จะเพิ่มวงเงินรวมของหุ้นกู้เป็นไม่เกิน 2.5 พันล้านบาท จากเดิม 2 พันล้านบาท โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่นี้ไปใช้ในการดำเนินงานและชำระคืนหนี้
อันดับเครดิตได้รับการยกระดับเพิ่มขึ้นจากสถานะเครดิตเฉพาะของบริษัทที่ระดับ ?bbb+? เพื่อสะท้อนถึงการที่บริษัทมีสถานะเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ของ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) ซึ่งบริษัททุนธนชาตได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ ?A/Stable? โดยอันดับเครดิตที่ได้รับการยกระดับสะท้อนถึงการที่บริษัทสร้างรายได้และกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งให้แก่บริษัททุนธนชาต ในขณะที่บริษัทได้รับการสนับสนุนทั้งในด้านธุรกิจและการเงินจากบริษัททุนธนชาตเช่นกัน
สถานะเครดิตเฉพาะของบริษัทสะท้อนถึงความเข้มแข็งของสถานะทางการตลาดของบริษัทในตลาดเฉพาะซึ่งได้แก่สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่เน้นรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์และรถยนต์หรู นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความสามารถในการรักษาสถานะทางการตลาด ตลอดจนการมีฐานทุนที่แข็งแรง และผลประกอบการทางการเงินที่ดีของบริษัทอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวก็ถูกลดทอนลงจากความกังวลในเรื่องสภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์และความไม่แน่นอนของสภาพเศรษฐกิจ
ความชำนาญทางด้านสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ของบริษัทยังคงทำให้บริษัทดำรงสถานะในการเป็นผู้นำทางการตลาดรายหนึ่งในด้านสินเชื่อคงค้างถึงแม้ว่าจะมีนโยบายการเติบโตของสินเชื่ออย่างระมัดระวังในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2565 ยอดสินเชื่อคงค้างของบริษัทขยายตัวอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 5.31 หมื่นล้านบาทหรือเติบโต 7% จากสิ้นปี 2564 ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีการเติบโตของยอดสินเชื่อในเชิงรุก โดยมียอดสินเชื่อใหม่เติบโตที่ระดับ 20% ในปี 2565 และจะเติบโตในอัตราเฉลี่ย 5% ต่อปีในช่วงปี 2566-2567 โดยการเติบโตนั้นมีปัจจัยสนับสนุนมาจากกลยุทธ์ทางด้านการตลาดและความต้องการรถบรรทุกที่เติบโตสอดคล้องไปกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในปีนี้บริษัทได้เริ่มขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกันให้กับฐานลูกค้าเดิมของบริษัท ซึ่งธุรกิจใหม่ดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของยอดสินเชื่อและลดแรงกดดันด้านอัตราดอกเบี้ยรับจากสถานการณ์การแข่งขันในอุตสาหกรรมสินเชื่อเช่าซื้อที่ยังคงมีความรุนแรงได้
นโยบายการเติบโตของสินเชื่ออย่างระมัดระวังของบริษัทรวมทั้งการจัดเก็บหนี้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาส่งผลให้คุณภาพสินทรัพย์ปรับตัวดีขึ้น โดยอัตราส่วนลูกหนี้ที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตหรือลูกหนี้ชั้นที่ 3 (NPL) ต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) ปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 2.3% ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 จาก 3.8% ณ สิ้นปี 2564 ในมุมองของ
ทริสเรทติ้ง NPL อาจจะมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นจากการที่บริษัทขยายสินเชื่อในเชิงรุกภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันอย่างรุนแรงและเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของ NPL นั้นยังอยู่ในวิสัยที่บริหารจัดการได้
ฐานทุนของบริษัทซึ่งประเมินโดยอัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยง (RAC) อยู่ในระดับเข้มแข็งที่ 22% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2565 ความสามารถในการสร้างรายได้ซึ่งประเมินด้วยอัตราส่วนกำไรก่อนภาษีเงินได้ต่อสินทรัพย์เสี่ยงถัวเฉลี่ย (EBT/ARWA) เมื่อปรับให้เป็นตัวเลขเต็มปีแล้วยังคงอยู่ที่ระดับ 4.5% บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,400 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 หรือเพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลจากการรักษาส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยไว้ได้และมีค่าใช้จ่ายผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นที่ลดลง ซึ่งสามารถชดเชยค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มสูงขึ้นจากการติดตามหนี้ ทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่าบริษัทจะรักษาอัตราส่วน RAC ให้อยู่ในระดับที่แข็งแรงและ EBT/ARWA ให้อยู่ในระดับที่มากกว่า 4.5% ในช่วง 2565-2567 ได้
ทริสเรทติ้งประเมินว่าบริษัทจะมีสถานะเงินทุนและสภาพคล่องอยู่ในระดับที่เพียงพอเนื่องจากบริษัทสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ทั้งจากตลาดตราสารหนี้และตลาดตราสารทุนรวมทั้งยังมีวงเงินสินเชื่อที่มีกับสถาบันการเงินอีกหลายแห่งซึ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่สถานะเงินทุนและสภาพคล่องของบริษัทได้
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถรักษาสถานะทางการตลาด ตลอดจนฐานทุน และความสามารถในการสร้างผลกำไรในระดับปัจจุบันเอาไว้ได้ นอกจากนี้ แนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถบริหารคุณภาพสินทรัพย์ให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอน
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
อันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากฐานทุนมีความแข็งแกร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญโดยอัตราส่วน RAC ทรงตัวอยู่ในระดับเกินกว่า 25% อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่อันดับเครดิตองค์กรอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากอันดับเครดิตของบริษัททุนธนชาตได้รับการปรับเพิ่มขึ้น ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทอาจได้รับการปรับลดลงหากสถานะเงินทุนของบริษัทอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญจนกระทั่งอัตราส่วน RAC ลดลงต่ำกว่าระดับ 12% และ/หรือคุณภาพสินเชื่อถดถอยลงอย่างมีนัยสำคัญจนทำให้ EBT/ARWA อยู่ที่ระดับต่ำกว่า 1.5% นอกจากนี้ การปรับลดอันดับเครดิตของบริษัททุนธนชาตอาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่ออันดับเครดิตของบริษัทได้ด้วยเช่นกัน
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ, 7 กันยายน 2565
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร, 17 กุมภาพันธ์ 2563
บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (THANI)
อันดับเครดิตองค์กร: A-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
THANI237A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 486.3 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A-
THANI23NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,439 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A-
THANI247A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 593.7 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A-
THANI254A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A-
THANI255A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 593 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A-
THANI25DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A-
THANI262A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 A-
THANI264A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 A-
THANI268A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 A-
THANI274A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2570 A-
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 4 ปี A-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable