ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ?BBB+? ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ?Positive? หรือ ?บวก? ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังได้จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 6.0 พันล้านบาทของบริษัทที่ระดับ ?BBB+? ด้วยเช่นกัน โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปลงทุนในการปรับปรุงโรงไฟฟ้าเพื่อให้สามารถใช้เชื้อเพลิงขยะชุมชน (Municipal Solid Waste-derived Fuel) ทดแทนการใช้เชื้อเพลิงถ่านหิน และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
อันดับเครดิตเฉพาะของบริษัท (Stand-alone Credit Profile ? SACP) ที่ระดับ ?a? นั้นถูกจำกัดโดยอันดับเครดิตของบริษัทแม่คือ บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ ?BBB+/Positive? โดยข้อจำกัดดังกล่าวสะท้อนถึงสถานะของบริษัทในการเป็นบริษัทย่อยหลักของบริษัท ทีพีไอ โพลีน ตลอดจนความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างบริษัทแม่และบริษัทย่อย และบูรณาการทางธุรกิจที่อยู่ในระดับที่สูงของทั้งสองบริษัท
อันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทยังคงสะท้อนถึงกระแสเงินสดที่มั่นคงของบริษัทซึ่งได้รับจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreements -- PPAs) ที่มีกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และข้อได้เปรียบในการแข่งขันด้านต้นทุนเชื้อเพลิงของบริษัท อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตถูกจำกัดจากส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) ที่จะค่อย ๆ หมดอายุลง นอกจากนี้ ยังรวมถึงสัดส่วนหนี้สินที่จะสูงขึ้นจากการลงทุนในโครงการใหม่ ๆ และความเสี่ยงจากการลงทุนใน ?โครงการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ? (Special Economic Zone -- SEZ) ด้วย
สำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 นั้น บริษัทมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ลดลง 26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเหลือ 3.1 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น การหยุดเดินเครื่องโรงไฟฟ้าเพื่อการปรับปรุงประสิทธิภาพ และการที่ส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) ของโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะชุมชนรวม 73 เมกะวัตต์ของบริษัทหมดอายุลง อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA ของบริษัทยังคงเป็นที่น่าพอใจโดยอยู่ที่ระดับ 3.6 เท่า ณ สิ้นเดือนกันยายน 2565 (ปรับเป็นอัตราส่วนเต็มปีด้วยตัวเลข 12 เดือนย้อนหลัง) ทริสเรทติ้งคาดว่าการเพิ่มขึ้นของค่าปรับปรุงเชื้อเพลิงหรือ Ft (Fuel Adjustment Charge) จะช่วยเพิ่มกำไรของบริษัทและช่วยลดผลกระทบจากการหมดอายุของ Adder
เงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่นี้บริษัทจะนำไปใช้ในการลงทุนเพื่อปรับปรุงหม้อไอน้ำสำหรับโรงไฟฟ้าถ่านหินของบริษัทเพื่อให้สามารถใช้เชื้อเพลิงขยะชุมชนได้ เมื่อการลงทุนดังกล่าวแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2568 บริษัทคาดว่าจะสามารถลดต้นทุนเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้าถ่านหินได้ประมาณ 2.0-2.4 บาทต่อหน่วยเมื่อคำนวณจากราคาถ่านหินในปัจจุบัน นอกจากนี้ การลงทุนดังกล่าวเป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ด้วยเช่นกัน
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต ?Positive? หรือ ?บวก? ของบริษัทสะท้อนถึงแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัททีพีไอ โพลีน โดยทริสเรทติ้งคาดว่าสถานะของบริษัทในการเป็นบริษัทย่อยหลักของบริษัททีพีไอ โพลีนนั้นจะยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
การเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตของบริษัทนั้นจะเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตของบริษัททีพีไอ โพลีนเป็นหลัก
โอกาสในการปรับเพิ่ม SACP ของบริษัทนั้นมีจำกัดในระยะสั้น ในทางกลับกัน การปรับลด SACP ของบริษัทอาจเกิดขึ้นได้หากผลการดำเนินงานของบริษัทอ่อนแอกว่าที่ทริสเรทติ้งคาดการณ์ไว้อย่างมีนัยสำคัญ และ/หรือหากบริษัทมีการลงทุนที่ใช้เงินกู้จำนวนมากซึ่งส่งผลทำให้สถานะทางการเงินรวมของกลุ่มถดถอยลงอย่างมีนัยสำคัญ
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ, 7 กันยายน 2565
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 15 กรกฎาคม 2565
- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงินสำหรับธุรกิจทั่วไป, 11 มกราคม 2565
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564
?
บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (TPIPP)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
TPIPP23DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 BBB+
TPIPP247A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 BBB+
TPIPP262A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,523.6 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 BBB+
TPIPP278A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,695 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2570 BBB+
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 6,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 7 ปี BBB+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Positive