ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ?A? ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 2 พันล้านบาทและไถ่ถอนภายใน 4 ปีของบริษัทที่ระดับ ?A? ด้วย โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ชำระหนี้เงินกู้เดิม รวมทั้งใช้เป็นเงินลงทุน และ/หรือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในกลุ่มธุรกิจหลักของบริษัท ตลอดจนความหลากหลายของแหล่งที่มาของรายได้และการมีตลาดที่ครอบคลุม นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงผลการดำเนินงานของบริษัทที่คาดว่าน่าจะฟื้นตัวกลับมาดีขึ้นตามสภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวหลังวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19) อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตก็มีปัจจัยลดทอนจากสถานะทางการเงินของบริษัทที่มีภาระหนี้อยู่ในระดับสูง ตลอดจนการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจค้าปลีกและสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงความท้าทายจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้นและอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น
ผลการดำเนินงานของบริษัทมีความสอดคล้องกับประมาณการของทริสเรทติ้ง โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานรวมจำนวนทั้งสิ้น 1.21 แสนล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนโดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักที่มาจากการเติบโตของยอดขายในธุรกิจบรรจุภัณฑ์และการฟื้นตัวของยอดขายและรายได้ค่าเช่าในธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่
รายได้ในกลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์ของบริษัทมีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนโดยมาอยู่ที่ 1.81 หมื่นล้านบาท ในขณะที่ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ของบริษัทที่ดำเนินการโดย บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (บิ๊กซี) นั้นมียอดขายที่จำนวน 7.13 หมื่นล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 6.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน ทั้งนี้ บิ๊กซียังคงเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้หลักซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 64% ของยอดขายรวมของบริษัท
บริษัทมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) รวมทั้งสิ้น 1.5 หมื่นล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน อีกทั้งยังมีเงินทุนจากการดำเนินงานที่ระดับ 1.1 หมื่นล้านบาทด้วย อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรของบริษัทก็ได้รับแรงกดดันจากราคาวัตถุดิบหลักที่เพิ่มสูงขึ้นรวมถึงค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคและบุคลากรที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย ทั้งนี้ อัตรากำไร EBITDA ต่อยอดขาย (EBITDA Margin) ของบริษัทลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 12.44% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565
บริษัทมีหนี้สินที่ยังคงอยู่ในระดับสูง กล่าวคือ ณ เดือนกันยายน 2565 บริษัทมีหนี้สินทางการเงินที่ปรับปรุงแล้วอยู่ที่จำนวน 1.63 แสนล้านบาทและมีอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA (ซึ่งปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปีด้วยตัวเลข 12 เดือนย้อนหลัง) อยู่ที่ระดับประมาณ 8 เท่า ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA ของบริษัทจะค่อย ๆ ลดลงมาอยู่ที่ระดับประมาณ 6 เท่าในปี 2567
ทริสเรทติ้งประเมินว่าสภาพคล่องของบริษัทจะมีเพียงพอในช่วง 12 เดือนข้าหน้า ทั้งนี้ บริษัทมีแหล่งเงินทุนที่มาจากเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดจำนวน 4.1 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2565 อีกทั้งยังมีวงเงินกู้ยืมจากธนาคารที่ยังไม่ได้เบิกใช้อีกจำนวน 5.98 หมื่นล้านบาท และคาดว่าเงินทุนจากการดำเนินงานของบริษัทจะอยู่ที่ระดับประมาณ 1.45 หมื่นล้านบาทในปี 2565 อีกด้วย ในขณะเดียวกันบริษัทมีการใช้เงินทุนเพื่อชำระหนี้เงินกู้ระยะยาวจำนวน 1 หมื่นล้านบาทซึ่งครบกำหนดชำระในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 รวมทั้งชำระหนี้หุ้นกู้และเงินกู้จากธนาคารที่จะครบกำหนดในปี 2566 อีกจำนวนประมาณ 2.52 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดว่าบริษัทจะใช้เงินลงทุนที่ประมาณปีละ 1-1.3 หมื่นล้านบาทในช่วงระหว่างปี 2565-2566 ด้วย
ณ เดือนกันยายน 2565 บริษัทมีหนี้สินที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อน (Priority Debt) ต่ำกว่าระดับ 50% ตามที่กำหนดไว้ใน ?เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้? ของทริสเรทติ้ง ดังนั้น ทริสเรทติ้งจึงเห็นว่าเจ้าหนี้ที่ไม่มีหลักประกันของบริษัทไม่มีความเสียเปรียบอย่างมีนัยสำคัญในการเรียกร้องค่าทดแทนจากสินทรัพย์ของบริษัท
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนถึงความคาดหมายของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงสามารถรักษาสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในกลุ่มธุรกิจหลักของบริษัทเอาไว้ได้ต่อไป นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดด้วยว่าบริษัทจะยังคงมีผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินจะค่อย ๆ ลดลงในระยะปานกลางโดยอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA จะอยู่ในระดับที่ทริสเรทติ้งประมาณการไว้
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจได้รับการปรับลดลงหากผลการดำเนินงานของบริษัทอ่อนแอลงจากที่คาดไว้อย่างมีนัยสำคัญ หรือหากบริษัทมีการลงทุนและ/หรือมีการซื้อกิจการขนาดใหญ่โดยใช้เงินทุนจากการก่อหนี้จำนวนมากซึ่งส่งผลทำให้อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA อยู่สูงเกินกว่า 8 เท่าอย่างต่อเนื่อง ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิตอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นได้หากบริษัทมีกระแสเงินสดเพื่อการชำระหนี้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและมีภาระหนี้สินทางการเงินที่ลดลงอย่างมากจนทำให้อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA ลดลงต่ำกว่า 5 เท่า
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 15 กรกฎาคม 2565
- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงินสำหรับธุรกิจทั่วไป, 11 มกราคม 2565
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564
บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) (BJC)
อันดับเครดิตองค์กร: A
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
BJC233A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A
BJC233B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A
BJC239A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A
BJC239B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A
BJC23DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A
BJC243A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A
BJC246A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 12,256.6 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A
BJC249A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 7,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A
BJC253A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A
BJC259A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A
BJC269A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 20,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 A
BJC271A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2570 A
BJC273B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2570 A
BJC279A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2570 A
BJC283A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 7,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2571 A
BJC293A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2572 A
BJC299A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 7,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2572 A
BJC303A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2573 A
BJC306A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,003.4 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2573 A
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 4 ปี A
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable