ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ?BBB-? ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุน ไม่มีประกันและไถ่ถอนเมื่อเลิกกิจการ (Hybrid Debentures) ของบริษัทที่ระดับ ?BB? ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 5 พันล้านบาทของบริษัทที่ระดับ ?BBB-? อีกด้วย โดยหุ้นกู้ชุดใหม่นี้จะทดแทนหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันที่จะครบกำหนดชำระในช่วงเดือนเมษายนถึงกรกฎาคม 2566 นี้ รวมทั้งจะใช้ทดแทนกระแสเงินสดจากการไถ่ถอนหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุน (ANAN18PB) ด้วย
อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะทางการตลาดของบริษัทซึ่งเป็นที่ยอมรับในกลุ่มสินค้าคอนโดมิเนียม ตลอดจนสัดส่วนรายได้ที่มีนัยสำคัญจากโครงการร่วมทุน และภาระหนี้ที่อยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความกังวลของทริสเรทติ้งต่อระดับหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องและเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้ซื้อบ้านในระยะสั้นถึงปานกลาง อีกทั้งยังทำให้ต้นทุนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และต้นทุนเงินกู้ยืมของผู้ประกอบการเพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย
ยอดโอนที่อยู่อาศัยจากโครงการของบริษัทเท่ากับ 2.5 พันล้านบาทในปี 2565 คิดเป็นประมาณ 80% จากประมาณการทั้งปีของทริสเรทติ้ง ทำให้คาดว่ารายได้จากการดำเนินงานรวมของทุกธุรกิจรวมกันในปี 2565 ควรอยู่ที่เกือบ 80% ของประมาณการ ทั้งนี้ กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ที่ระดับ 0.7 พันล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 นั้นใกล้เคียงกับประมาณการของทริสเรทติ้ง แม้ว่าเงินทุนจากการดำเนินงาน (FFO) จะยังเป็นลบแต่ก็ปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า นอกจากนี้ บริษัทจะบันทึกกำไรจากการจำหน่ายที่ดินจำนวน 0.5 พันล้านบาทในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 อีกด้วย ซึ่งจะช่วยให้กำไรและกระแสเงินสดโดยรวมของบริษัทในปี 2565 ปรับตัวดีขึ้น
ณ เดือนธันวาคม 2565 บริษัทมียอดขายรอการรับรู้รายได้มูลค่า 1.22 หมื่นล้านบาท โดยประมาณ 50% มาจากโครงการของบริษัทเอง และที่เหลือมาจากโครงการร่วมทุน ทั้งนี้ บริษัทมีแผนส่งมอบยอดขายรอการรับรู้รายได้ดังกล่าวมูลค่า 3.0-4.5 พันล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2566-2568 นอกจากนี้ บริษัทยังมีสินค้าเหลือขายในโครงการของบริษัทเองและโครงการร่วมทุนมูลค่ารวมกันเท่ากับ 4.23 หมื่นล้านบาท จากยอดขายรอการรับรู้รายได้และสินค้าเหลือขายจำนวนมากดังกล่าวทำให้คาดว่ารายได้จากการดำเนินงานรวมของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้นเป็น 5.0-5.5 พันล้านบาทในช่วงปี 2566-2567 โดยคาดว่า EBITDA ซึ่งรวมถึงส่วนแบ่งกำไรจากโครงการร่วมทุนน่าจะอยู่ที่ระดับ 1.5-2.0 พันล้านบาทต่อปี และบริษัทจะมีกำไรสุทธิตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป
ทริสเรทติ้งมีสมมติฐานกรณีพื้นฐานที่คาดการณ์ว่าสถานะทางการเงินของบริษัทจะยังคงอ่อนแอตลอดปี 2565 แต่น่าจะปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป โดยคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนของบริษัทจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับประมาณ 60%-65% จากระดับ 69% ณ เดือนกันยายน 2565 ส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานนั้นก็คาดว่าจะกลับมาเป็นบวกในปี 2566 ซึ่งจะทำให้อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับประมาณ 2%-5% ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป ในขณะที่อัตราส่วนผลตอบแทนต่อเงินทุนถาวรน่าจะคงอยู่ที่ระดับ 2%-5% ตลอดช่วงเวลาประมาณการ
ทริสเรทติ้งประเมินว่าสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทจะยังคงค่อนข้างตึงตัวแต่จะอยู่ในวิสัยที่สามารถบริหารจัดการได้ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดยแหล่งเงินทุนของบริษัท ณ เดือนกันยายน 2565 ประกอบด้วยเงินสดจำนวน 3.4 พันล้านบาทรวมทั้งวงเงินกู้ยืมจากธนาคารที่ยังไม่ได้เบิกใช้ไม่ติดเงื่อนไขในการเบิกและไม่สามารถยกเลิกได้อีกจำนวน 2.1 พันล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังมีที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จเหลือขายในโครงการที่ปลอดภาระหนี้ของบริษัทเองซึ่งมีราคาขายรวมทั้งสิ้นอีก 3.4 พันล้านบาทที่สามารถนำไปใช้เป็นหลักประกันเพื่อขอกู้เงินจากธนาคารในกรณีที่จำเป็นได้อีกด้วย ในขณะที่บริษัทมีภาระหนี้ที่จะครบกำหนดชำระในอีก 12 เดือนข้างหน้าจำนวน 1.3 หมื่นล้านบาทซึ่งประกอบด้วยหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันจำนวน 6.2 พันล้านบาท เงินกู้ระยะสั้นจำนวน 5.4 พันล้านบาท และเงินกู้โครงการระยะยาวจำนวน 1.4 พันล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะออกหุ้นกู้ใหม่เพื่อใช้ทดแทนหุ้นกู้ที่กำลังจะครบกำหนดไถ่ถอนและจะแปลงตั๋วสัญญาใช้เงินระยะสั้นที่ใช้ซื้อที่ดินให้เป็นเงินกู้โครงการระยะยาวอีกด้วย
ณ สิ้นเดือนกันยายน 2565 บริษัทมีหนี้สินทางการเงินรวมจำนวน 2.7 หมื่นล้านบาทซึ่งรวมยอดคงเหลือทั้งหมดของหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุน ไม่มีประกันและไถ่ถอนเมื่อเลิกกิจการและหุ้นบุริมสิทธิ์ ทั้งนี้ หนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนของบริษัทมีจำนวน 7.5 พันล้านบาทซึ่งประกอบด้วยหนี้ที่มีหลักประกันของบริษัทแม่และหนี้สินรวมของบริษัทย่อยต่าง ๆ ซึ่งคิดเป็นอัตราส่วนหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนต่อหนี้สินทางการเงินรวมที่ระดับ 28%
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนถึงความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าสถานะทางการเงินของบริษัทจะไม่ถดถอยลงอย่างมีนัยสำคัญไปจากเป้าหมายที่ทริสเรทติ้งคาดการณ์ไว้ จากการมียอดขายรอการรับรู้รายได้จำนวนมากที่รอส่งมอบในช่วงปี 2566-2568 ทำให้คาดว่าผลการดำเนินงานและสถานะทางการเงินของบริษัทจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น โดยอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินน่าจะปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับประมาณ 2%-5% ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป นอกจากนี้ อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนของบริษัทน่าจะอยู่ในระดับต่ำกว่า 65% และอัตราส่วนผลตอบแทนต่อเงินทุนถาวรน่าจะรักษาระดับอยู่ที่ 2%-5% ตลอดช่วงเวลาประมาณการ
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากผลการดำเนินงานและ/หรือสถานะทางการเงินของบริษัทอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญจากที่คาดการณ์ไว้ ในทางตรงกันข้าม การปรับเพิ่มอันดับเครดิตอาจเกิดขึ้นได้หากบริษัทมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งอย่างมีนัยสำคัญกว่าที่คาดการณ์ไว้จนทำให้อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินเพิ่มสูงเกินกว่า 5% ในขณะที่อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนลดต่ำลงกว่า 60% อย่างต่อเนื่อง
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- การจัดอันดับเครดิตบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย, 12 มกราคม 2566
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 15 กรกฎาคม 2565
- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงินสำหรับธุรกิจทั่วไป, 11 มกราคม 2565
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน (Hybrid Securities), 28 มิถุนายน 2564
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564
บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (ANAN)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
ANAN19PA: หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุน 1,000 ล้านบาท BB
ANAN20PA: หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุน 1,000 ล้านบาท BB
ANAN21PA: หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุน 1,000 ล้านบาท BB
ANAN237A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,768.8 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 BBB-
ANAN23OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 746.6 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 BBB-
ANAN241A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,412.8 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 BBB-
ANAN241B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,188.3 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 BBB-
ANAN241C: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,224.2 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 BBB-
ANAN247A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,231.2 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 BBB-
ANAN251A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,811.7 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 BBB-
ANAN256A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,275.8 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 BBB-
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 3 ปี BBB-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable