ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ?BBB+? ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 3 ปีของบริษัทที่ระดับ ?BBB+? ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่นี้ไปใช้ในการดำเนินงานของบริษัท
อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะผู้นำตลาดของบริษัทในธุรกิจให้เช่ารถยนต์และพอร์ตสินทรัพย์ให้เช่าที่มีความหลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงกระแสเงินสดเพื่อการชำระหนี้ของบริษัทที่ปรับตัวดีขึ้น ตลอดจนภาระหนี้ที่อยู่ในระดับปานกลางและสภาพคล่องที่เพียงพอด้วยเช่นกัน
ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะรักษาสถานะผู้นำตลาดในธุรกิจให้เช่ารถยนต์ได้ต่อไปในช่วงเวลา 3 ปีข้างหน้า โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากขนาดธุรกิจของบริษัทที่ค่อนข้างใหญ่และความสัมพันธ์ที่ยาวนานกับลูกค้ารายใหญ่ต่าง ๆ ทั้งนี้ บริษัทเป็นผู้ให้บริการเช่าดำเนินงานที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในประเทศไทยซึ่งอ้างอิงจากฐานข้อมูลของทริสเรทติ้ง ณ สิ้นปี 2565 สินทรัพย์ให้เช่ารวมของบริษัทอยู่ที่ระดับ 8.9 พันล้านบาท ลดลง 4.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากนโยบายการเติบโตอย่างระมัดระวังของบริษัท
ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะรักษาระดับของสินทรัพย์ให้เช่ารวมของบริษัทอยู่ที่ระดับ 9 พันล้านบาทในช่วงเวลา 3 ปีข้างหน้า โดยมีสัดส่วนของสินทรัพย์ให้เช่าที่ไม่ใช่รถยนต์เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับกลยุทธ์การยกระดับความสามารถในการทำกำไรของบริษัท ในระยะ 3 ปีข้างหน้าสัดส่วนของสัญญาเช่าเงินทุนในส่วนที่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ใช่รถยนต์ของบริษัทมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับประมาณ 40% ของพอร์ตสินทรัพย์ให้เช่าทั้งหมดของบริษัทจากระดับ 34.1% ณ สิ้นปี 2565 โดยสินทรัพย์ประเภทเครื่องมือทางการแพทย์ เครื่องจักรอุตสาหกรรมหนัก และสินทรัพย์ให้เช่าเฉพาะทางใหม่ ๆ จะเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตหลัก
ในปี 2565 ผลการดำเนินงานของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สอดคล้องกับการคาดการณ์ของทริสเรทติ้ง โดยกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและภาษี (Earnings Before Interest and Tax ? EBIT) ในปี 2565 อยู่ที่ 340 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและภาษีต่อรายได้ (EBIT Margin) ของบริษัทก็เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 11.6% ในปี 2565 จากระดับ 9.7% ในปี 2564 ส่วนกระแสเงินสดเพื่อการชำระหนี้ของบริษัทซึ่งวัดจากอัตราส่วน EBIT ต่อดอกเบี้ยจ่ายนั้นปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1.7 เท่าในปี 2565 จากระดับ 1.2-1.5 เท่าในช่วงปี 2563-2564 ผลประกอบการที่ดีขึ้นดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากการควบคุมต้นทุนการดำเนินงานที่ดีและอัตราการทำกำไรที่สูงขึ้นจากการขายสินทรัพย์ที่หมดสัญญา การเพิ่มขึ้นของอัตราการทำกำไรในการขายสินทรัพย์ที่หมดสัญญาได้รับอานิสงส์จากราคารถยนต์มือสองที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากกลยุทธ์ของบริษัทที่เน้นการขายปลีกผ่านแพลตฟอร์ม ?สบายคาร์? (SA-BUY CAR)
ทริสเรทติ้งคาดว่า EBIT Margin และอัตราส่วน EBIT ต่อดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทจะคงอยู่ที่ระดับปัจจุบันในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากการที่บริษัทมุ่งเน้นไปยังสินทรัพย์ให้เช่าเฉพาะทางมากยิ่งขึ้น โดยสินทรัพย์ดังกล่าวสร้างอัตรากำไรที่สูงกว่า ในขณะเดียวกัน บริษัทก็ยังคงลดต้นทุนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องต่อไป
ทริสเรทติ้งประเมินว่าสถานะเงินทุนของบริษัทอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งในช่วงเวลา 3 ปีข้างหน้า โดยมีความไม่สอดคล้องกันของสินทรัพย์และหนี้สินอยู่ในระดับต่ำ เงินกู้ยืมระยะยาวของบริษัท (รวมเงินกู้ยืมระยะยาวที่ครบกำหนดชำระภายในหนึ่งปี) คิดเป็นสัดส่วน 79% ของเงินกู้ยืมทั้งหมด ณ สิ้นปี 2565 ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีสภาพคล่องเพียงพอจากการที่บริษัทมีวงเงินสินเชื่อที่ยังสามารถเบิกใช้ได้ทั้งสิ้นจำนวน 1.66 พันล้านบาทจากสถาบันการเงินหลายแห่ง ณ สิ้นเดือนมกราคม 2566 นอกจากนี้ ความยืดหยุ่นทางการเงินของบริษัทยังมีปัจจัยสนับสนุนจากความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนทั้งจากตลาดเงินและตลาดทุนเมื่อมีความจำเป็นอีกด้วย
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงรักษาสถานะในการแข่งขัน รวมถึงศักยภาพในการสร้างรายได้ และความสามารถในการทำกำไรในธุรกิจหลักของบริษัทเอาไว้ได้เพื่อที่จะรักษาผลประกอบการทางการเงินและกระแสเงินสดเพื่อการชำระหนี้ให้อยู่ในระดับปัจจุบันเอาไว้
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
อันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากความสามารถในการทำกำไรและกระแสเงินสดเพื่อการชำระหนี้ของบริษัทปรับตัวดีขึ้นโดยที่อัตราส่วน EBIT ต่อดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มสูงขึ้นเกินกว่าระดับ 1.7 เท่าอย่างต่อเนื่อง ในทางกลับกัน อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากความสามารถในการทำกำไรหรือกระแสเงินสดเพื่อการชำระหนี้ของบริษัทปรับตัวลดลงจากระดับปัจจุบันโดยที่อัตราส่วน EBIT ต่อดอกเบี้ยจ่ายลดลงต่ำกว่าระดับ 1.3 เท่าอย่างต่อเนื่อง
?
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 15 กรกฎาคม 2565
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564
บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (PL)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 3 ปี BBB+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable