ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 1.5 หมื่นล้านบาท “ธ. เกียรตินาคินภัทร” ที่ “A” แนวโน้ม “Stable”

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของธนาคารที่ระดับ ?A? และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของธนาคารที่ระดับ ?BBB+? ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? ขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 1.5 หมื่นล้านบาท อายุไม่เกิน 3 ปี ของธนาคารที่ระดับ ?A? ด้วย ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่นี้ไปใช้ในการขยายธุรกิจ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และใช้ชำระคืนหนี้

อันดับเครดิตสะท้อนถึงธุรกิจธนาคารที่มีความเข้มแข็งขึ้น และการมีตำแหน่งทางการตลาดที่ดีในธุรกิจวาณิชธนกิจและธุรกิจบริหารความมั่งคั่งส่วนบุคคล อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงแหล่งที่มาของรายได้ที่มีความหลากหลาย ฐานะเงินกองทุนที่อยู่ในระดับเพียงพอ และกำไรที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตถูกจำกัดโดยคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอลง ตลอดจนสถานะทางการตลาดและโครงสร้างเงินทุนของบริษัทที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ก็ยังคงอ่อนแอกว่าธนาคารที่มีความสำคัญต่อระบบในประเทศ (Domestic Systemically Important Banks -- D-SIB)

ทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่าสถานะเงินกองทุนของธนาคารจะอยู่ในระดับเพียงพอในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของที่คาดการณ์ไว้อยู่ในช่วง 12%-13% ในช่วงปี 2565-2567 สมมติฐานกรณีพื้นฐานของทริสเรทติ้งคาดว่าการเติบโตของสินเชื่ออยู่ในระดับปานกลาง ความสามารถในการทำกำไรอยู่ในระดับที่ดี และมีนโยบายการบริหารจัดการเงินกองทุนแบบระมัดระวัง อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของของธนาคารอยู่ที่ 13.3% ณ สิ้นปี 2565 ลดลงเล็กน้อยจาก 13.6% ณ สิ้นปี 2564 ทริสเรทติ้งมีมุมมองเชิงบวกต่อความคิดริเริ่มของธนาคารในการรักษาระดับเงินกองทุนในช่วงการขยายธุรกิจ ซึ่งรวมถึงการลดการจ่ายเงินปันผลและการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ

ในปี 2565 ธนาคารรายงานกำไรสุทธิ 7.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 19.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า การเติบโตของกำไรเป็นผลมาจากการเติบโตของสินเชื่อในระดับสูง การควบคุมต้นทุนที่ดี และการลดค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองซึ่งช่วยชดเชยกิจกรรมในตลาดทุนที่อ่อนแอลง นอกจากนี้ แหล่งที่มาของรายได้ที่หลากหลายของธนาคารช่วยสนับสนุนธนาคารได้เป็นอย่างดีในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำและตลาดทุนมีความผันผวน

คุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารอ่อนแอลงเล็กน้อยในปี 2565 แต่ยังอยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้ในมุมมองของทริสเรทติ้ง อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ต่อสินเชื่อรวม (ไม่รวมเงินลงทุนในสิทธิเรียกร้อง หรือสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ) เพิ่มขึ้นเป็น 3.3% ณ สิ้นปี 2565 จากระดับ 3.1% ณ สิ้นปี 2564 การก่อตัวของสินทรัพย์ด้อยคุณภาพเพิ่มขึ้นเป็น 2% ในปี 2565 จาก 0.4% ในปี 2564 สินเชื่อที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (Stage-2 Loans) โดยเพิ่มขึ้นเป็น 6.1% ของสินเชื่อรวม ณ สิ้นปี 2565 จาก 5.6% ณ สิ้นปี 2564 การอ่อนแอลงดังกล่าวส่วนใหญ่มาจากการที่ธนาคารขยายสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์อย่างมากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ความเสี่ยงด้านเครดิตถูกลดทอนลงบางส่วนจากอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Coverage Ratio) ที่แข็งแกร่งของธนาคาร ซึ่งอยู่ที่ระดับ 154% ณ สิ้นปี 2565 โดยลดลงจากระดับ 175% ณ สิ้นปี 2564 ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารจะอยู่ที่ระดับสูงกว่า 140% ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

ธนาคารเกียรตินาคินภัทรมีพัฒนาการของโครงสร้างเงินฝากในเชิงบวกในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและคาดว่าจะพัฒนาต่อเนื่อง สัดส่วนของบัญชีเงินฝากกระแสรายวันและออมทรัพย์ (Current Account and Savings Account ? CASA) ต่อเงินฝากทั้งหมดอยู่ที่ระดับ 59% ณ สิ้นปี 2565 สูงที่สุดในบรรดาธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก พัฒนาการดังกล่าวเกิดจากการร่วมมือกันระหว่างธุรกิจธนาคารพาณิชย์และธุรกิจตลาดทุนของธนาคาร รวมถึงการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของบัญชีเงินฝากอิเล็กทรอนิกส์

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนถึงความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าธนาคารเกียรตินาคินภัทรจะยังคงรักษาสถานะเงินกองทุนของธนาคารให้อยู่ในระดับเพียงพอ และรักษาคุณภาพสินทรัพย์ให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ตลอดจนเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการผสานพลังกับธุรกิจตลาดทุนและธุรกิจบริหารความมั่งคั่งให้มากขึ้นเพื่อรักษาผลการดำเนินงานทางการเงินที่ดีและการกระจายตัวของรายได้

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจได้รับการปรับสูงขึ้นได้หากธนาคารเกียรตินาคินภัทรเสริมความแข็งแกร่งของสถานะเงินทุนอย่างมีนัยสำคัญด้วยอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของมากกว่า 15% เป็นระยะเวลาหนึ่ง ในขณะเดียวกันก็ยังคงพัฒนาคุณภาพสินทรัพย์และธุรกิจธนาคารอย่างต่อเนื่อง ในทางกลับกัน ทริสเรทติ้งอาจปรับลดอันดับเครดิตลงหากเงินทุน คุณภาพของสินทรัพย์และ/หรือความสามารถในการทำกำไรของธนาคารลดลงอย่างเห็นได้ชัด

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตธนาคาร, 20 มีนาคม 2566

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารทางการเงินที่นับเป็นเงินกองทุนของธนาคารพาณิชย์, 24 ธันวาคม 2564

?

ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (KKP)

อันดับเครดิตองค์กร: A

KKP30NA: หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามหลักเกณฑ์ Basel III 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2573                                               	BBB+

KKP314A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามหลักเกณฑ์ Basel III 2,852 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2574                                              	BBB+

KKP23OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566	A

KKP24NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567	A

หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 15,000 ล้านบาท อายุไม่เกิน 3 ปี 	A

แนวโน้มอันดับเครดิต:	Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2566 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html