ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (TIPH) ที่ระดับ ?AA? ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 1 พันล้านบาทซึ่งมีกำหนดไถ่ถอนภายใน 5 ปีของบริษัทที่ระดับ ?AA? ด้วยเช่นกัน โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ไปใช้เพื่อขยายธุรกิจ เป็นเงินทุนหมุนเวียน และชำระหนี้เงินกู้บางส่วน
อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะของ TIPH ในการเป็นบริษัทโฮลดิ้งของธุรกิจประกัน อันประกอบด้วย บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) (หรือ TIP อันดับเครดิต ?AAA/Stable?) และการลงทุนอื่น ๆ ภายใต้ TIPH (TIPH Group) จากการที่บริษัทเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่ไม่มีการดำเนินกิจการ (Non-Operating Holding Company ? NOHC) การชำระหนี้ของบริษัทจึงมาจากเงินปันผลของบริษัทในกลุ่ม นอกจากนี้ สถานะทางเครดิตของกลุ่ม TIPH Group (Group Credit Profile ? GCP) นั้นอยู่ที่ระดับ ?aaa?
GCP สะท้อนถึงสถานะทางเครดิตของ TIPH Group ซึ่งมี TIP เป็นบริษัทหลัก GCP จึงสะท้อนถึงสถานะความเสี่ยงทางธุรกิจที่ดีเยี่ยม สถานะความเสี่ยงทางการเงินที่แข็งแกร่งมาก และธุรกิจประกันภัยที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลอย่างเคร่งครัด ทริสเรทติ้งยังพิจารณาถึงกรอบธรรมาภิบาลและสถานะสภาพคล่องที่แข็งแกร่งของ TIPH และ TIP อีกด้วย
ความสามารถในการทำกำไรโดยรวมของ TIPH ในปี 2565 เป็นไปตามที่ทริสเรทติ้งคาดการณ์ไว้ เบี้ยประกันภัยของบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่ง บริษัทมีรายได้สุทธิจากค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชั่นที่ดี และมีรายได้จากการลงทุนที่ค่อนข้างคงที่ อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนค่าสินไหมทดแทน (Loss Ratio) ที่สูงขึ้นและกำไรจากการลงทุนที่น้อยลงได้ชะลอความสามารถในการทำกำไรกลับไปสู่ระดับก่อนเกิดโรคโควิด 19 ได้ช้าลง โดยผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (Return on Average Equity -- ROAE) ที่ 12.4% ในปี 2565 สะท้อนมุมมองว่าอัตราส่วนดังกล่าวจะกลับสู่ระดับปกติที่ระดับ 20% ในปี 2566-2567 สำหรับ Loss Ratio ในปี 2565 ที่ 83.8% ซึ่งสูงกว่าที่ทริสเรทติ้งคาดการณ์ไว้ที่ 68%-70% เป็นผลมาจากการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจำนวนมากจากโรคโควิด 19 ที่ได้สิ้นสุดลงในปีนั้นและอัตราการรับประกันภัยที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งหลังของปี การเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงอยู่ที่ 10.8% ในปี 2565 ซึ่งสูงกว่าประมาณการเดิมที่มองการเติบโตในระดับคงที่ อัตราส่วนค่าใช้จ่ายที่ปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับ 10.9% ในปี 2565 ซึ่งต่ำกว่าประมาณการที่ 13%-15% เป็นผลมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิและค่าคอมมิชชันที่แข็งแกร่ง
อัตราส่วนเงินกองทุน (Capital Adequacy Ratio ? CAR) ของ TIP ลดลงสู่ระดับ 207% ณ สิ้นปี 2565 ซึ่งยังถือเป็นระดับที่แข็งแกร่ง จากระดับ 243% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนดอยู่ที่ระดับ 140% สำหรับ CAR ที่ลดต่ำลงได้สะท้อนการจ่ายเงินปันผลมูลค่า 900 ล้านบาทสำหรับผลการดำเนินงานของปี 2565 เป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้ คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2565 ที่ระดับ 72.68% ทริสเรทติ้งประมาณการว่า CAR ของ TIP จะยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 240% ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าโดยมีสมมติฐานว่าบริษัทจะคงอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 50% ในขณะเดียวกัน สภาพคล่องยังคงแข็งแกร่งด้วยอัตราส่วนสภาพคล่องของ TIP ตามเกณฑ์ของ คปภ. ที่ระดับ 175% ณ สิ้นปี 2565 สูงกว่าค่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ระดับ 100%
ระดับของหนี้สินจะคงอยู่ในระดับปานกลาง ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนของหนี้สิน (Financial Leverage Ratio) ทางการเงินของ TIPH หลังจากรวมการออกหุ้นกู้ตามที่เสนอไว้จะยังคงต่ำกว่า 20%
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนมุมมองของทริสเรทติ้งว่า TIPH จะยังคงเป็น NOHC ของ TIPH Group ซึ่ง TIPH จะยังคงอาศัยเงินปันผลจาก TIP ซึ่งเป็นบริษัทหลักของกลุ่ม นอกจากนี้ ยังสะท้อนมุมมองว่า ธุรกิจประกันวินาศภัยซึ่งเป็นธุรกิจหลักของกลุ่มจะยังคงแข็งแกร่งจากสถานะความเสี่ยงทางธุรกิจที่ดีเยี่ยม ผลกำไรจากการรับประกันภัยที่ดี เงินกองทุนที่แข็งแกร่ง การบริหารความเสี่ยงที่รอบคอบ รวมถึงสภาพคล่องที่เพียงพอ
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
ทริสเรทติ้งอาจปรับเพิ่มอันดับเครดิตของ TIPH จากการปรับระดับความห่างจาก GCP ที่แคบลง หากมีหลักฐานให้เชื่อได้ว่า TIPH มีความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทเองเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้หากบริษัทมีหลากหลายธุรกิจที่มีนัยสำคัญที่อยู่ภายใต้การควบคุมและมีการดำเนินการที่เป็นอิสระต่อกัน หากบริษัทสามารถสร้างกระแสเงินสดที่เพียงพอจากการดำเนินงานหรือการลงทุนของบริษัทเอง หรือจากธุรกิจในเครือที่อยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแล และ/หรือหากบริษัทมีเงินสดที่ไม่มีภาระผูกพันหรือมีการลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพสูงในปริมาณมากได้อย่างต่อเนื่อง
ทริสเรทติ้งอาจปรับลดอันดับเครดิตของ TIPH หากมีการปรับลด GCP ของ TIPH Group ลง โดยสถานการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นหากสถานะเงินกองทุนหรือสภาพคล่องของ TIP เสื่อมถอยลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากผลขาดทุนเป็นมูลค่าสูงอย่างต่อเนื่อง หลักฐานใด ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับข้อบกพร่องของการบริหารความเสี่ยงและระบบธรรมาภิบาลอย่างมีนัยสำคัญก็อาจส่งผลกดดันต่อสถานะเครดิตได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังสามารถปรับลดอันดับเครดิตของ TIPH ได้อีกจากการปรับระดับความห่างจาก GCP ที่ห่างขึ้นหาก TIPH มีความเสี่ยงด้านสินทรัพย์และหนี้สิน ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง หรือมีการลงทุนในบริษัทลูกและบริษัทย่อยเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้น (Double Leverage) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตบริษัทประกัน, 9 กันยายน 2565
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ, 7 กันยายน 2565
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564
บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (TIPH)
อันดับเครดิตองค์กร: AA
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 5 ปี AA
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable