ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท เจเอ็มทีเน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ?BBB+? ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 7 พันล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 3 ปีของบริษัทที่ระดับ ?BBB+? ด้วยเช่นกัน โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปขยายธุรกิจ รวมทั้งใช้ในการดำเนินกิจการ และปล่อยกู้ให้กับ บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจเค จำกัด (JK AMC)
อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะของบริษัทในการเป็นบริษัทลูกหลัก (Core Subsidiary) ของบริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) (ได้รับอันดับเครดิต ?BBB+/Stable?) ซึ่งตาม ?เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ? ของทริสเรทติ้งนั้น อันดับเครดิตองค์กรของบริษัทจะเท่ากับอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทเจมาร์ท โดยบริษัทมีบทบาทที่สำคัญในกลุ่มธุรกิจเจมาร์ท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจด้านการเงินของกลุ่ม บริษัทมีส่วนสำคัญที่ทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทอื่น ๆ ในธุรกิจด้านการเงินของกลุ่มดีขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
ในปี 2565 รายได้รวมและกำไรสุทธิของบริษัทมีสัดส่วน 30% และ 64% ของรายได้รวมและกำไรสุทธิรวมของบริษัทเจมาร์ทตามลำดับ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาบริษัทมีสัดส่วนสินทรัพย์ต่อสินทรัพย์รวมของกลุ่มเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า โดยอยู่ที่ระดับ 61% จาก 32% ในปี 2560 ซึ่งเป็นการยืนยันให้เห็นว่าบริษัทมีความสำคัญต่อกลุ่มเจมาร์ท
ในปี 2565 บริษัทมีผลประกอบการที่ยังคงแข็งแกร่ง โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วจากรายได้ที่ยังโตต่อเนื่องและค่าใช้จ่ายทางการเงินที่ลดลงจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Rights Offering -- RO) ในเดือนธันวาคม 2564 รายได้รวมของบริษัทอยู่ที่ 4.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าจากธุรกิจรับซื้อและบริหารหนี้ด้อยคุณภาพเป็นหลัก โดยรายได้ของบริษัทแบ่งออกเป็นรายได้จากธุรกิจรับซื้อและบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ 86% ธุรกิจติดตามเร่งรัดหนี้ 7% และธุรกิจประกัน 7% ในปี 2565 บริษัทสามารถจัดเก็บหนี้ได้ 5.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าซึ่งเป็นไปตามที่ทริสเรทติ้งคาดการณ์ไว้
การซื้อหนี้ที่มีการด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารของบริษัทในปี 2565 ชะลอลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยบริษัทใช้เงินลงทุนซื้อหนี้ที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตจำนวน 4.6 พันล้านบาทในปี 2565 ในอนาคตทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่าอุปทานสินเชื่อด้อยคุณภาพจะยังคงปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจัยผลักดันที่เกิดจากการสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือที่ผ่อนปรนการจัดชั้นลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์จนกระทั่งถึงสิ้นปี 2566 นี้ ทำให้ธนาคารพาณิชย์มีแนวโน้มที่จะเร่งนำสินเชื่อด้อยคุณภาพออกมาจำหน่ายมากยิ่งขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 จนถึงปี 2567 และน่าจะช่วยสนับสนุนแผนการซื้อหนี้ของบริษัท
บริษัทและธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) ได้ร่วมกันจัดตั้งบริษัทร่วมทุน JK AMC ในปี 2565 ทั้งนี้ JK AMC ได้เริ่มดำเนินธุรกิจในช่วงกลางปี 2565 โดยมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วจำนวนทั้งสิ้น 1 หมื่นล้านบาทจากผู้ร่วมทุนของทั้งคู่ในจำนวนเท่า ๆ กัน ตั้งแต่ดำเนินงานมา JK AMC ได้ซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพมาบริหารแล้วที่มูลค่า 7 หมื่นล้านบาทจาก KBANK และผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของบริษัทก็ทำได้ดีกว่าที่ทริสเรทติ้งคาดไว้ ทั้งนี้ ในปี 2565 JK AMC ทำกำไรได้ทั้งสิ้นจำนวน 196 ล้านบาทและมีส่วนแบ่งกำไรให้บริษัทที่จำนวน 98 ล้านบาท ในปี 2566 ทริสเรทติ้งคาดว่า JK AMC จะมีสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่อยู่ภายใต้การบริหารที่จำนวนสูงกว่า 1 แสนล้านบาทและจะมีส่วนแบ่งกำไรให้แก่บริษัทในจำนวนที่มากกว่า 200 ล้านบาท
ทั้งนี้ อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทลดลงมาอยู่ในระดับต่ำจากการจ่ายคืนหนี้หลังจากการเพิ่มทุนในช่วงปลายปี 2564 อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทอยู่ที่ 0.41 เท่า ณ สิ้นปี 2565 อัตราส่วนดังกล่าวปรับเพิ่มขึ้นในช่วง 2 ไตรมาสล่าสุด โดยทริสเรทติ้งมองว่าอัตราส่วนดังกล่าวจะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากแผนการลงทุนซื้อหนี้ด้อยคุณภาพ 1 หมื่นล้านบาทต่อปี อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งยังมองว่าบริษัทจะสามารถจัดการกับระดับภาระหนี้สินได้และเหมาะสมกับอันดับเครดิตในปัจจุบัน ทั้งนี้ ณ เดือนธันวาคม 2565 บริษัทมีหนี้สินที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อน (Priority Debt) อยู่ที่ 0.02%
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงมีสถานะในการเป็นบริษัทลูกหลักของกลุ่มเจมาร์ทและยังคงมีบทบาทสำคัญในการให้ความร่วมมือติดตามและจัดเก็บหนี้ให้แก่บริษัทภายในกลุ่มที่สอดคล้องกับกลยุทธ์โดยรวมของกลุ่มเจมาร์ทอย่างต่อเนื่องต่อไป
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทสอดคล้องกับของบริษัทเจมาร์ท ทั้งนี้ หากสถานะของบริษัทที่มีต่อบริษัทเจมาร์ทอ่อนแอลง อาจส่งผลให้อันดับเครดิตของบริษัทถูกปรับลดลงได้
?
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ, 7 กันยายน 2565
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 15 กรกฎาคม 2565
- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงินสำหรับธุรกิจทั่วไป, 11 มกราคม 2565
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564
บริษัท เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) (JMT)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
JMT239B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 BBB+
JMT249A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 625 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 BBB+
JMT254A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 BBB+
JMT25OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,375 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 BBB+
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 7,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 3 ปี BBB+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable