ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ ?BBB-? รวมทั้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุน (DUSIT22PA) ของบริษัทที่ระดับ ?BB? และคงแนวโน้มอันดับเครดิต ?Negative? หรือ ?ลบ? เช่นเดิม ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 1 พันล้านบาทของบริษัทที่ระดับ ?BBB-? ด้วย ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ไปใช้ชำระคืนหนี้ที่จะครบกำหนด
อันดับเครดิตดังกล่าวได้พิจารณาถึงสภาวะการดำเนินงานที่ดีขึ้นหลังการเกิดโรคระบาดในธุรกิจหลัก ๆ ของบริษัทซึ่งได้แก่ โรงแรม การศึกษา และอาหาร อย่างไรก็ดี อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงมุมมองของทริสเรทติ้งว่าสถานะเครดิตของบริษัทจะยังคงได้รับแรงกดดันจากการพัฒนาโครงการ ?ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค? ด้วยการลงทุนขนาดใหญ่ ทริสเรทติ้งคาดว่าภาระหนี้สินทางการเงินของบริษัทจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไปในอีก 2-3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ บริษัทยังมีความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างการพัฒนาโครงการ ไม่ว่าจะเป็นความล่าช้าในการก่อสร้าง ต้นทุนที่สูงกว่าคาด และการขายโครงการที่อยู่อาศัยที่อาจช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้
ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2565 และไตรมาสแรกของปี 2566 ดีกว่าประมาณการของทริสเรทติ้ง อันเป็นผลจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ธุรกิจหลักของบริษัท บริษัทรายงานรายได้รวม 4.7 พันล้านบาทในปี 2565 และ 1.7 พันล้านบาทในไตรมาสแรกของปี 2566 กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่าย (EBITDA) อยู่ที่ 598 ล้านบาทในปี 2565 และที่ 411 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปี 2566 อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA ดีขึ้นมาอยู่ที่ 13.3 เท่า (ทำให้เป็นตัวเลขเต็มปีโดยใช้ข้อมูลย้อนหลัง 12 เดือน) ในไตรมาสแรกของปี 2566 จาก 19.7 เท่าในปี 2565 ในอนาคต ทริสเรทติ้งคาดว่าการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยจะดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง โดยส่วนหนึ่งมีปัจจัยหนุนจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน อย่างไรก็ดี ทริสเรทติ้งคาดว่าผลการดำเนินงานของโรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์ จะเผชิญแรงกดดันเพิ่มขึ้นจากการแข่งขันที่รุนแรง ทริสเรทติ้งยังคาดการณ์ว่าธุรกิจการศึกษาและธุรกิจอาหารจะมีรายได้จากการดำเนินงานที่เป็นบวกได้อย่างต่อเนื่องในภาวะที่การดำเนินงานกลับมาเป็นปกติ
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต ?Negative? หรือ ?ลบ? สะท้อนถึงความเสี่ยงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค เช่น ความล่าช้าในการก่อสร้าง ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และการขายโครงการที่อยู่อาศัยที่ล่าช้า ซึ่งอาจทำให้สถานะทางการเงินของบริษัทอ่อนแอลง
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
แนวโน้มอันดับเครดิตอาจได้รับการปรับเปลี่ยนมาเป็น ?Stable? หรือ ?คงที่? ได้หากผลการดำเนินงานของบริษัทฟื้นตัวกลับมาได้อย่างมั่นคงและการดำเนินโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค มีความก้าวหน้าตามแผน ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากสถานะทางการเงินของบริษัทเสื่อมถอยลงมากกว่าที่ทริสเรทติ้งคาดไว้อย่างมาก โดยอาจเกิดจากการที่การก่อสร้างโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ล่าช้ากว่าที่คาดและ/หรือยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยอ่อนแอกว่าที่คาดไว้ นอกจากนี้ การปรับลดอันดับเครดิตก็อาจเกิดจากการที่สถานะสภาพคล่องของบริษัทอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัดอีกด้วย
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 15 กรกฎาคม 2565
- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงินสำหรับธุรกิจทั่วไป, 11 มกราคม 2565
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน (Hybrid Securities), 28 มิถุนายน 2564
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564
บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) (DUSIT)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
DUSIT237A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 BBB-
DUSIT23DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 BBB-
DUSIT22PA: หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุน 1,500 ล้านบาท BB
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 3 ปี BBB-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Negative