ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันที่ระดับ ?A? และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของธนาคารที่ระดับ ?BBB+? ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 นั้นต่ำกว่าอันดับเครดิตขององค์กร 2 ระดับ โดยอ้างอิงจาก ?เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารทางการเงินที่นับเป็นเงินกองทุนของธนาคารพาณิชย์? ของทริสเรทติ้ง
ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ชุดใหม่ ในวงเงินไม่เกิน 3 พันล้านบาทของธนาคารที่ระดับ ?BBB+? ด้วย ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่นี้ไปใช้ในการชำระคืนหนี้และขยายการดำเนินงานของบริษัท
อันดับเครดิตสะท้อนถึงธุรกิจธนาคารที่มีความเข้มแข็งขึ้นและสถานะการแข่งขันที่แข็งแกร่งในธุรกิจตลาดทุน นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงการมีแหล่งรายได้ที่หลากหลาย ตลอดจนเงินกองทุนที่เพียงพอ และการทำกำไรที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตถูกจำกัดโดยคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอลง ตลอดจนสถานะทางการตลาดและโครงสร้างเงินทุนของบริษัทที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ก็ยังคงอ่อนแอกว่าธนาคารที่มีความสำคัญต่อระบบในประเทศ (Domestic Systemically Important Banks -- DSIB)
ทริสเรทติ้งคาดว่าธนาคารเกียรตินาคินภัทรจะรักษาสถานะเงินกองทุนให้อยู่ที่ระดับ ?เพียงพอ? ในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของของธนาคารอยู่ที่ 12.9% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2566 ลดลงจาก 13.3% ณ สิ้นปี 2565 ในกรณีฐานทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่าอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของของธนาคารจะอยู่ในช่วง 12% ในปี 2566-2568 ซึ่งยังคงช่วยสนับสนุนอันดับเครดิตที่ระดับปัจจุบัน
การเพิ่มความแข็งแกร่งของเงินทุนเพื่อให้อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของอยู่ที่ระดับสูงกว่า 12% อาจมาจากการเพิ่มทุนจากความเป็นไปได้ในการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ ซึ่งธนาคารเกียรตินาคินภัทรคาดว่าจะได้รับเงินทุนสูงถึง 1.43 หมื่นล้านบาทในช่วง 4 ปีข้างหน้า สมมติฐานกรณีฐานของทริสเรทติ้งคาดว่าสินเชื่อจะเติบโตปานกลางที่ระดับ 10%-15% ต่อปี การจ่ายเงินปันผลจะอยู่ที่ระดับ 50% และไม่รวมการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ
ทริสเรทติ้งคาดว่าธนาคารเกียรตินาคินภัทรจะยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไรที่ดีต่อไปในอีก 3 ปีข้างหน้า แม้ว่าจะมีแรงกดดันด้านต้นทุนทางการเงินและค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยของธนาคารจะลดลงเล็กน้อยมาอยู่ในช่วง 1.25%-1.37% ในปี 2566-2568 กรณีฐานของทริสเรทติ้งมองว่าอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net Interest Margin) ของธนาคารเกียรตินาคินภัทรจะอยู่ในช่วง 3.8%-4.0% ในปี 2566-2568 ลดลงเล็กน้อยจาก 4.4% ในปี 2565 ทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่าต้นทุนด้านเครดิตของธนาคารเกียรตินาคินภัทรจะอยู่ที่ระดับ 1.8%-2.2% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยพิจารณาจากคุณภาพสินทรัพย์ที่อาจอ่อนแอลง
ธนาคารเกียรตินาคินภัทรมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับการอ่อนแอลงของคุณภาพสินทรัพย์ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดยเฉพาะในกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ โดยเป็นผลมาจากกลยุทธ์การเติบโตเชิงรุกในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวม (Non-performing Loans ? NPL) จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 3.4% ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 จากระดับ 3.3% ณ สิ้นปี 2565 สินเชื่อที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (Stage-2 Loans) ยังคงอยู่ที่ระดับใกล้เคียงเดิมที่ระดับประมาณ 6% ของสินเชื่อรวม ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่าอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมของธนาคารเกียรตินาคินภัทรจะอยู่ต่ำกว่า 4% ในปี 2566-2568 จากการบริหารสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
ความเสี่ยงในการตั้งสำรองถูกลดทอนลงบางส่วนจากอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Coverage Ratio) ที่แข็งแกร่งของธนาคารซึ่งอยู่ที่ระดับ 151% ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารจะอยู่ที่ประมาณ 140% ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า
อันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามหลักเกณฑ์ Basel III
อันดับเครดิต ?BBB+? สำหรับหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ชุดใหม่ของธนาคารเกียรตินาคินภัทรสะท้อนความเสี่ยงในการด้อยสิทธิและเงื่อนไขการรองรับผลขาดทุนเมื่อธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ตราสารดังกล่าวสามารถตัดเป็นหนี้สูญได้ในกรณีที่หน่วยงานกำกับดูแลพิจารณาเห็นว่าธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ และจะให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ธนาคารภายใต้เงื่อนไขที่ได้ระบุไว้
ตราสารดังกล่าวมีคุณสมบัติที่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ Basel III และสามารถนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ได้ ตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทั้งนี้ ตราสารประเภทนี้ไม่มีหลักประกัน ไม่สามารถเลื่อนการชำระดอกเบี้ย ไม่สามารถแปลงสภาพได้ มีสิทธิที่ด้อยกว่าผู้ฝากเงินและผู้ถือหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของธนาคาร ทั้งนี้ ธนาคารสามารถไถ่ถอนตราสารคืนทั้งจำนวนก่อนวันครบกำหนดได้อย่างน้อยภายหลังระยะเวลา 5 ปีนับจากวันที่ออกตราสารและได้รับความเห็นชอบจาก ธปท.
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนถึงความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าธนาคารเกียรตินาคินภัทรจะยังคงรักษาสถานะเงินกองทุนของธนาคารให้อยู่ในระดับเพียงพอ และรักษาคุณภาพสินทรัพย์ให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ตลอดจนเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการผสานพลังกับธุรกิจตลาดทุนและธุรกิจบริหารความมั่งคั่งให้มากขึ้นเพื่อรักษาผลการดำเนินงานทางการเงินที่ดีและการกระจายตัวของรายได้
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นได้หากธนาคารเกียรตินาคินภัทรเสริมความแข็งแกร่งของสถานะเงินทุนอย่างมีนัยสำคัญด้วยอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของมากกว่า 15% เป็นระยะเวลาหนึ่ง ในขณะเดียวกันก็ยังคงพัฒนาคุณภาพสินทรัพย์และธุรกิจธนาคารอย่างต่อเนื่อง ทริสเรทติ้งอาจปรับลดอันดับเครดิตลงหากเงินทุน คุณภาพของสินทรัพย์ และ/หรือความสามารถในการทำกำไรลดลงอย่างเห็นได้ชัด
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตธนาคาร, 20 มีนาคม 2566
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารทางการเงินที่นับเป็นเงินกองทุนของธนาคารพาณิชย์, 24 ธันวาคม 2564
ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (KKP)
อันดับเครดิตองค์กร: A
KKP30NA: หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามหลักเกณฑ์ Basel III 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2573 BBB+ KKP314A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามหลักเกณฑ์ Basel III 2,852 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2574 BBB+ KKP23OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A KKP244A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A KKP244B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,400 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A KKP244C: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A KKP24OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A KKP24OB: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A KKP24NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 3,200 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 3 ปี A หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามหลักเกณฑ์ Basel III วงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 10 ปี BBB+ แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 ? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2566 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html