บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้มีประกัน (TRUE097A, TRUE107A, TRUE117A และ TRUE127A) ของ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TRUE) ที่ระดับ “BBB” และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ของบริษัทซึ่งได้รับการค้ำประกันบางส่วนโดย International Finance Corporation (IFC) (TRUE112A) ที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงฐานะทางการตลาดของบริษัทที่มีความแข็งแกร่งจากการเป็นผู้นำในบริการโทรคมนาคมแบบครบวงจรในประเทศไทย รวมถึงโอกาสในการเติบโตของธุรกิจสื่อสารข้อมูล (Data Communications Business) และโทรศัพท์เคลื่อนที่ของบริษัท และคณะผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบวกดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากฐานะทางการเงินของบริษัทที่ค่อนข้างเปราะบางอันเป็นผลมาจากการมีภาระหนี้จำนวนมาก ตลอดจนผลกระทบจากภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และการสื่อสารข้อมูล และความไม่แน่นอนของกฎระเบียบด้านโทรคมนาคม
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่า TRUE จะสามารถรักษาสถานะที่แข็งแกร่งในธุรกิจโทรคมนาคมและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันโดยการรวมผลิตภัณฑ์และบริการของกลุ่มเข้าด้วยกันเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ทั้งนี้ อันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับแรงกดดันหากฐานะทางการเงินและความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดของบริษัทลดลงจากเดิมท่ามกลางสถานการณ์การแข่งขันที่รุนแรง โดยอันดับเครดิตอาจลดลงหากบริษัทตัดสินใจลงทุนในโครงการสำคัญซึ่งจำเป็นต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก
ทริสเรทติ้งรายงานว่า TRUE เป็นผู้นำในด้านบริการโทรคมนาคมแบบครบวงจรของประเทศ ธุรกิจหลักของบริษัท 3 กลุ่มประกอบด้วย กลุ่ม TrueOnline ซึ่งเป็นธุรกิจโทรศัพท์พื้นฐานและสื่อสารข้อมูล กลุ่ม True Move ซึ่งเป็นธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ และกลุ่ม TrueVisions ซึ่งเป็นธุรกิจโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิก ซึ่งในปี 2550 ทั้ง 3 กลุ่มสร้างรายได้ให้แก่บริษัทในสัดส่วน 33% 53% และ 14% ของรายได้รวมตามลำดับ สถานะที่เข้มแข็งของบริษัทเป็นผลมาจากความเป็นผู้นำในตลาดการให้บริการโทรศัพท์พื้นฐานและตลาดบรอดแบนด์ (Broadband) โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 50% และกว่า 80% ในเขตกรุงเทพมหานครตามลำดับ นอกจากนี้ บริษัทยังคงความเป็นผู้ให้บริการโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกรายใหญ่ที่สุดของประเทศซึ่งให้บริการผ่าน บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 23% ของจำนวนผู้ใช้บริการ รวมทั้งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ธุรกิจโทรคมนาคมเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันรุนแรงโดยเฉพาะในกลุ่มโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งเห็นได้จากการที่ผู้ประกอบการต่างมีกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบต่างๆ โดยการตัดราคาและเพิ่มความน่าสนใจให้แก่สินค้า การใช้กลยุทธ์ในลักษณะดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะทำให้ผู้ประกอบการมีอัตราการทำกำไรที่ลดลง รายได้ของบริษัทในส่วนของธุรกิจโทรศัพท์พื้นฐานมีแนวโน้มลดลงเหมือนในประเทศอื่นๆ อันเนื่องมาจากการมีสินค้าทดแทนคือโทรศัพท์เคลื่อนที่ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการเติบโตในธุรกิจสื่อสารข้อมูลน่าจะช่วยชดเชยรายได้ในส่วนของโทรศัพท์พื้นฐานที่ลดลงได้
ในเดือนพฤศจิกายน 2549 TRUE เริ่มบันทึกรายได้และต้นทุนค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) พร้อมทั้งตัดค่าเชื่อมโยงเครือข่าย (AC) ในส่วนของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ออกจากงบการเงินซึ่งส่งผลให้รายได้ของบริษัทในปี 2550 เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม อัตราการทำกำไรของบริษัทลดลงเล็กน้อยซึ่งเป็นผลมาจากอัตราการทำกำไรของธุรกิจในกลุ่ม TrueOnline ที่ลดลงและค่าใช้จ่ายของกลุ่ม TrueVisions ที่สูงขึ้น แม้เงินกู้รวมของบริษัทจะลดลงจาก 89,722 ล้านบาทในช่วงสิ้นปี 2549 เหลือ 83,237 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2550 แต่บริษัทยังคงมีอัตราส่วนเงินกู้สุทธิต่อโครงสร้างเงินทุน ณ สิ้นปี 2550 ที่ยังอยู่ในระดับค่อนข้างสูงที่ 87% อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้สุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 15% ในปี 2549 เป็น 17% ในปี 2550 เนื่องจากบริษัทมีเงินทุนจากการดำเนินงานที่สูงขึ้นและมีจำนวนเงินกู้รวมที่ลดลง การที่บริษัทประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนแหล่งเงินกู้สกุลเงินบาท รวมถึงการออกหุ้นกู้ และการออกตั๋วเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐจะช่วยบริษัทลดความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ได้ในระยะใกล้ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเผชิญกับความเสี่ยงในการจัดหาเงินกู้ใหม่ เนื่องจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัทยังไม่เพียงพอที่จะใช้ชำระหนี้หรือลงทุน
ทริสเรทติ้งกล่าวถึงอันดับเครดิตของหุ้นกู้ TRUE097A, TRUE107A, TRUE117A และ TRUE127A ว่าขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือของ TRUE แต่เพียงประการเดียว ในขณะที่อันดับเครดิตของหุ้นกู้ TRUE112A ของบริษัทยังได้รับแรงหนุนจากการค้ำประกันวงเงินกู้บางส่วน (50% ของเงินต้น) โดย IFC ซึ่งเป็นสมาชิกของ World Bank Group โดย IFC ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ “AAA” จาก Standard & Poor’s และระดับ “Aaa” จาก Moody’s Investors Service -- จบ
บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TRUE)
อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ระดับ BBB
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
TRUE112A: หุ้นกู้มีการค้ำประกันบางส่วน 6,750 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2554 คงเดิมที่ระดับ A
TRUE097A: หุ้นกู้มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2552 คงเดิมที่ระดับ BBB
TRUE107A: หุ้นกู้มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2553 คงเดิมที่ระดับ BBB
TRUE117A: หุ้นกู้มีประกัน 2,413 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2554 คงเดิมที่ระดับ BBB
TRUE127A: หุ้นกู้มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555 คงเดิมที่ระดับ BBB
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
----------------------------------------------
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2551 ห้ามไม่มิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงมิได้รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้น ผลที่ได้รับ หรือการกระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่า TRUE จะสามารถรักษาสถานะที่แข็งแกร่งในธุรกิจโทรคมนาคมและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันโดยการรวมผลิตภัณฑ์และบริการของกลุ่มเข้าด้วยกันเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ทั้งนี้ อันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับแรงกดดันหากฐานะทางการเงินและความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดของบริษัทลดลงจากเดิมท่ามกลางสถานการณ์การแข่งขันที่รุนแรง โดยอันดับเครดิตอาจลดลงหากบริษัทตัดสินใจลงทุนในโครงการสำคัญซึ่งจำเป็นต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก
ทริสเรทติ้งรายงานว่า TRUE เป็นผู้นำในด้านบริการโทรคมนาคมแบบครบวงจรของประเทศ ธุรกิจหลักของบริษัท 3 กลุ่มประกอบด้วย กลุ่ม TrueOnline ซึ่งเป็นธุรกิจโทรศัพท์พื้นฐานและสื่อสารข้อมูล กลุ่ม True Move ซึ่งเป็นธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ และกลุ่ม TrueVisions ซึ่งเป็นธุรกิจโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิก ซึ่งในปี 2550 ทั้ง 3 กลุ่มสร้างรายได้ให้แก่บริษัทในสัดส่วน 33% 53% และ 14% ของรายได้รวมตามลำดับ สถานะที่เข้มแข็งของบริษัทเป็นผลมาจากความเป็นผู้นำในตลาดการให้บริการโทรศัพท์พื้นฐานและตลาดบรอดแบนด์ (Broadband) โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 50% และกว่า 80% ในเขตกรุงเทพมหานครตามลำดับ นอกจากนี้ บริษัทยังคงความเป็นผู้ให้บริการโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกรายใหญ่ที่สุดของประเทศซึ่งให้บริการผ่าน บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 23% ของจำนวนผู้ใช้บริการ รวมทั้งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ธุรกิจโทรคมนาคมเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันรุนแรงโดยเฉพาะในกลุ่มโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งเห็นได้จากการที่ผู้ประกอบการต่างมีกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบต่างๆ โดยการตัดราคาและเพิ่มความน่าสนใจให้แก่สินค้า การใช้กลยุทธ์ในลักษณะดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะทำให้ผู้ประกอบการมีอัตราการทำกำไรที่ลดลง รายได้ของบริษัทในส่วนของธุรกิจโทรศัพท์พื้นฐานมีแนวโน้มลดลงเหมือนในประเทศอื่นๆ อันเนื่องมาจากการมีสินค้าทดแทนคือโทรศัพท์เคลื่อนที่ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการเติบโตในธุรกิจสื่อสารข้อมูลน่าจะช่วยชดเชยรายได้ในส่วนของโทรศัพท์พื้นฐานที่ลดลงได้
ในเดือนพฤศจิกายน 2549 TRUE เริ่มบันทึกรายได้และต้นทุนค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) พร้อมทั้งตัดค่าเชื่อมโยงเครือข่าย (AC) ในส่วนของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ออกจากงบการเงินซึ่งส่งผลให้รายได้ของบริษัทในปี 2550 เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม อัตราการทำกำไรของบริษัทลดลงเล็กน้อยซึ่งเป็นผลมาจากอัตราการทำกำไรของธุรกิจในกลุ่ม TrueOnline ที่ลดลงและค่าใช้จ่ายของกลุ่ม TrueVisions ที่สูงขึ้น แม้เงินกู้รวมของบริษัทจะลดลงจาก 89,722 ล้านบาทในช่วงสิ้นปี 2549 เหลือ 83,237 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2550 แต่บริษัทยังคงมีอัตราส่วนเงินกู้สุทธิต่อโครงสร้างเงินทุน ณ สิ้นปี 2550 ที่ยังอยู่ในระดับค่อนข้างสูงที่ 87% อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้สุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 15% ในปี 2549 เป็น 17% ในปี 2550 เนื่องจากบริษัทมีเงินทุนจากการดำเนินงานที่สูงขึ้นและมีจำนวนเงินกู้รวมที่ลดลง การที่บริษัทประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนแหล่งเงินกู้สกุลเงินบาท รวมถึงการออกหุ้นกู้ และการออกตั๋วเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐจะช่วยบริษัทลดความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ได้ในระยะใกล้ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเผชิญกับความเสี่ยงในการจัดหาเงินกู้ใหม่ เนื่องจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัทยังไม่เพียงพอที่จะใช้ชำระหนี้หรือลงทุน
ทริสเรทติ้งกล่าวถึงอันดับเครดิตของหุ้นกู้ TRUE097A, TRUE107A, TRUE117A และ TRUE127A ว่าขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือของ TRUE แต่เพียงประการเดียว ในขณะที่อันดับเครดิตของหุ้นกู้ TRUE112A ของบริษัทยังได้รับแรงหนุนจากการค้ำประกันวงเงินกู้บางส่วน (50% ของเงินต้น) โดย IFC ซึ่งเป็นสมาชิกของ World Bank Group โดย IFC ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ “AAA” จาก Standard & Poor’s และระดับ “Aaa” จาก Moody’s Investors Service -- จบ
บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TRUE)
อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ระดับ BBB
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
TRUE112A: หุ้นกู้มีการค้ำประกันบางส่วน 6,750 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2554 คงเดิมที่ระดับ A
TRUE097A: หุ้นกู้มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2552 คงเดิมที่ระดับ BBB
TRUE107A: หุ้นกู้มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2553 คงเดิมที่ระดับ BBB
TRUE117A: หุ้นกู้มีประกัน 2,413 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2554 คงเดิมที่ระดับ BBB
TRUE127A: หุ้นกู้มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555 คงเดิมที่ระดับ BBB
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
----------------------------------------------
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2551 ห้ามไม่มิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงมิได้รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้น ผลที่ได้รับ หรือการกระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว